'นายกฯอิ๊งค์'นำถกครม.สัญจรปักษ์ใต้ ช้อปกระเป๋าใยตาลใส่เอกสารบินนอก บอกทิศทางจีดีพี ดีขึ้น ขยายตัว 3.2% มาตรการกระตุ้นศก.ออกผล สั่งก.อุตฯ-คลัง-พาณิชย์ จับตาการลงทุน-ส่งออก ด้าน จว.จัดเมนูพื้นถิ่นเสิร์ฟ
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.2568 ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 1/2568 โดยนายกฯ สวมเสื้อผ้าบาติกลายสมิหลา ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากรูปปั้นนางเงือกทอง ณ ชายหาดสมิหลา แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัด สีสันลวดลายบนผืนผ้ามาจากการผสมผสานระหว่างรูปปั้นนางเงือกทอง และท้องทะเล จัดทำโดยกลุ่มมีนาทับ อ.จะนะ กลุ่มที่ได้รับรางวัลพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการประกวดผ้าบาติก ระดับประเทศ 3 ปีซ้อน
เมื่อมาถึงนายกฯ พบประชาชนที่มาให้กำลังใจ จากนั้นเยี่ยมชมบูธสินค้าโอทอป เช่น วิสาหกิจชุมชนแปรรูปกาแฟสะบ้าย้อย กลุ่มเสาวลักษณ์ขนมพื้นบ้าน/สวนรุ้งตะวัน ได้มอบเมล่อนสีทองให้นายกฯ และนายกฯ ยังได้ดูผลิตภัณฑ์กลุ่มซอฟต์พาวเวอร์หอการค้าจังหวัดสงขลา ที่จำหน่ายเสื้อ และกางเกงลวดลายห่อข้าวเหนียวไก่ทอด อาหารขึ้นชื่อของจังหวัด กลุ่มขนมซั้งแม่ดวงได้มอบขนมให้นายกฯ พร้อมขอให้นายกฯ มีสุขภาพแข็งแรง
นอกจากนี้นายกฯ ยังอุดหนุนกระเป๋าที่ทำจากใยตาล ของกลุ่มหัตถกรรมใยตาลสทิงพระ (กลุ่มโหนดทิ้ง) โดยนายกฯ ระบุว่า ไว้ใส่เอกสารไปประชุมที่เมืองนอกได้ และได้เยี่ยมชมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนทอผ้าสะพานพลา/เด็กทอผ้า และได้พูดคุยกับเด็กที่มาสาธิตการทอผ้าว่าเก่งมากเลยถ้าพี่ทำต้องใช้เวลานานมาก
จากนั้นชมนิทรรศการผลงานวิชาการ และชมการแสดงมโนราห์จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลา พร้อมถ่ายภาพเซลฟี่กับนักศึกษาที่มารอต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ก่อนนายกฯ ถ่ายภาพร่วมกับครม. ผู้ว่าราชการจังหวัดกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย และผู้แทนภาครัฐ
จากนั้นนายกฯ และครม.ได้เดินเข้ามาภายในห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ โดยเป็นที่น่าสังเกตว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เดินมาพูดคุยกับ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา คาดว่าเป็นการพูดคุยเรื่องข้อเสนอแก้ไข พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ซึ่งกระทรวงมหาดไทยรับผิดชอบ
โดยเวลา 10.00 น. นายกฯ เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ ห้องคอนเวนชั่น ฮอลล์ โดยนายกฯ กล่าวช่วงต้นการประชุมว่า การรายงานภาวะเศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 4/2567 จากการรายงานตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย ไตรมาสที่ 4 ของปี 2567 และแนวโน้มปี 2568 โดยสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) นั้น จะเห็นว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่ 4/2567 มีทิศทางที่ดีขึ้น โดยขยายตัว 3.2 % เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสที่ผ่านมา แต่การผลิตในประเทศกลับลดลง แสดงให้เห็นการที่ประเทศไทยเป็นทางผ่านของสินค้าที่เข้ามาสวมสิทธิ์ เหมือนว่าเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย โดยไม่สร้างมูลค่าเพิ่มในการผลิตในประเทศได้จริง จึงขอให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกันเร่งหามาตรการป้องกันปัญหาดังกล่าวให้เร็วที่สุด
นายกฯ กล่าวอีกว่า การแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดพัทลุง และสงขลา จากการที่เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ลงพื้นที่ตรวจราชการในจังหวัดพัทลุง และสงขลา ก่อนมาประชุม จึงได้รับฟังปัญหาจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงขอสั่งการดังนี้ ขอให้กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงพาณิชย์ เร่งหาแนวทางสนับสนุนการปลูกกล้วยสายพันธุ์ของพัทลุง และทุเรียนภูบรรทัด ทั้งในด้านส่งเสริมการเพาะปลูกให้แพร่หลาย รวมทั้งการหาตลาดรองรับผลผลิต เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้าในชุมชนให้มากขึ้น
ส่วนพื้นที่ทะเลน้อย จ.พัทลุง มีศักยภาพสูงทั้งด้านการท่องเที่ยว และการประมง ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้ประชาชน โดยทางจังหวัดและภาคเอกชน มีข้อเสนอให้ขุดลอกทะเลน้อย กำจัดวัชพืชต่าง ๆ ฟื้นฟูนิเวศน์ คืนธรรมชาติ พร้อมฟื้นการประมงและส่งเสริมอาชีพให้กับท้องถิ่น โดยขอให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้
นายกฯ กล่าวว่า 1. ขอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศึกษาและกำหนดแนวทาง พร้อมทั้งจัดเตรียมงบประมาณที่จำเป็นสำหรับดำเนินการ 2.ขอให้กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมงและกระทรวงทรัพยากรฯ หามาตรการในการสนับสนุน และให้ความรู้ทางวิชาการอย่างถูกต้อง สำหรับการทำประมงในพื้นที่จังหวัดสงขลา เช่น การเลี้ยงปลาดุกนา ทั้งในส่วนของระบบการหมุนเวียนน้ำ และพันธุ์ปลา เพื่อยกระดับให้มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น
และ3.ขอให้กระทรวงท่องเที่ยวฯ ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ให้มากขึ้นด้วย และ4.ขอให้กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม เร่งหามาตรการในการเพิ่มแสงสว่างให้กับสะพานเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการเดินทาง และไม่กระทบต่อระบบนิเวศน์
นายกฯ กล่าวว่า จากการเยี่ยมชม กลุ่มบริษัท ไทยยูเนียน ที่ประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ในการส่งออกอาหารทะเลไปต่างประเทศ โดยมีข้อเสนอสำคัญ ที่จะขอให้กรมประมง ส่งเสริมการวิจัยพัฒนาพันธุ์กุ้งอย่างจริงจัง ฟื้นฟูความเข้มแข็งด้านการเลี้ยงกุ้งเพื่อการส่งออก ที่ไทยเคยเป็นอันดับต้นๆ ของโลกอีกครั้ง
ขณะที่ตัวเมืองจังหวัดสงขลามีศักยภาพสูงด้านการท่องเที่ยวเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ (Cruise) ขอให้กระทรวงคมนาคมเร่งศึกษาการก่อสร้างท่าเทียบเรือสำราญ และขอให้กระทรวงท่องเที่ยวฯ ร่วมกับท้องถิ่น พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ โดยมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นเจ้าภาพในการเป็นศูนย์กลางการประสานหน่วยงานต่างๆ ที่จะลงมาร่วมพัฒนาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครม.มีรัฐมนตรีลา 5 คน คือ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง 2.นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา 3.นายพิชัย นริพทะพันธ์ุ รมว.พาณิชย์ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมครม.ครั้งนี้ ทางจังหวัดได้จัดเมนูอาหารกลางวันเลี้ยงครม. อาทิ แกงคั่วหัวโหนด (ลูกตาล) ปลากระบอกทอดขมิ้น กุ้งซอสมะขาม หมึกไข่ต้มหวาน ใบเหลียงผัดไข่ น้ำพริกกุ้งสด แกงส้มปลากะพงมะม่วงเบา และไก่ทอดหาดใหญ่ ส่วนอาหารว่างข้าวต้มสามเหลี่ยมใส่ไส้ โรตีมะตะบะ ขนมไข่สงขลา ขนมปำ มะม่วงเบาแช่อิ่ม เครมบรูเล่ตาลโตนด และผลไม้ส้มจุก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี