‘อนุทิน’ฮึ่ม! จัดการให้หมด-ห้ามมีอิทธิพล
‘อิสราเอล’ยึด‘ปาย’
‘อิ๊งค์’อ้างสอบแล้วไม่จริง
ส่งมท.1 ลงพื้นที่สัปดาห์หน้า
ผบ.ตร.สั่งแจงปัญหาใน 7 วัน
กอ.รมน.ยันไม่พบสิ่งบอกเหตุ
ปัญหา“ยิวเมืองปาย”ทำหน่วยงานรัฐตื่นทั้งบาง “ผบ.ตร.” สั่งตำรวจในพื้นที่ชี้แจงภายใน 7 วันนายกฯรีบแจงสยบดราม่า ยันตรวจสอบแล้วไม่จริง ส่ง“อนุทิน”ลงไปดูในพื้นที่สัปดาห์หน้า“เสี่ยหนู”ขออย่ากังวล ชี้เป็นไปไม่ได้“อิสราเอล”ปักป้ายยึด“ปาย”ห้ามคนไทยเข้า แค่คิดก็ผิดแล้ว สวดต่างชาติ แค่รู้จักเจ้าหน้าที่บ้านเมืองกลับคิดว่าใหญ่ ฮึ่ม!จัดการให้หมด ยันเข้ามามีอิทธิพลไม่ได้ ต้องทำมาหากินสุจริต ปัดมาจากผลพวงฟรีวีซ่า
จากกรณีที่มีประชาชนร้องเรียน และมีผู้โพสต์บนสื่อออนไลน์ถึงประเด็นว่ามีประชาชนใน อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับผลกระทบจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยมีการระบุว่า ชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวมีการปักหลักอาศัยอยู่ในพื้นที่ มีการเช่าร้านอาหาร สร้างโบสถ์ และมีการกระทำที่ผิดกฎหมาย รวมถึงทำกิจกรรมรบกวน ส่งเสียงดัง สร้างความเดือดร้อนให้คนในพื้นที่ รวมทั้งแย่งอาชีพคนไทยนั้น
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 พ.ต.ท.สุวิทย์ บุญยะเพ็ญ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยว จังหวัดแม่ฮ่องสอน ชี้แจงข้อเท็จจริงดังนี้ 1.จำนวนประชากรของอำเภอปาย มีประมาณ 38,000 คน, 2.จำนวนนักท่องเที่ยวจำนวน 30,000 คนตามที่ปรากฏในสื่อเป็นยอดนักท่องเที่ยวอิสราเอล ที่แจ้งเข้าพักตาม ม.38 (ตม.) เป็นยอดนักท่องเที่ยวสะสมทั้งปี ซึ่งยอดนักท่องเที่ยวอิสราเอลเฉลี่ยที่เข้าพักในแต่ละวันมีประมาณ 83-84 คน 3.นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวปายมากที่สุดคือนักท่องเที่ยวอังกฤษ อิสราเอล อเมริกา เยอรมัน ตามลำดับ, 4.ชาบัดหรือโบสถ์ยิวใน อ.ปาย ใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีในวันศุกร์และเสาร์ เนื้อที่ประมาณ 2 งานและใช้เป็นที่รับประทานอาหาร ความจุประมาณ 200 คน
5.ชาบัดหรือโบสถ์ยิวมีจำนวน 7 แห่ง เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย พัทยา พะงัน ที่ใหญ่สุด กทม., 6.การเข้าของนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติเข้ามาโดยถูกต้องตามกฎหมาย และ 7.การตั้งถิ่นฐานในความเป็นดินแดนพันธะสัญญายังไม่มีการดำเนินการใดใดทั้งสิ้น รวมถึงการแย่งอาชีพคนไทย ที่ทุกฝ่ายได้เฝ้าระวังตรวจตรา บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ซึ่งทุกหน่วยงานได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้ทุกช่องทางได้รับรู้รับทราบทุกระยะ สำหรับมาตรการระยะยาวที่ได้เคยประชุมร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ก็จะยังคงดำเนินมาตรการบังคับอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องรถเช่า ล่องห่วงยาง สูบกัญชา เป็นต้น
ด้าน พล.ต.ต.ทรงกริช ออนตะไคร้ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า กรณีปัญหาใน อ.ปาย โดยเฉพาะเรื่องโบสถ์ยิว ไม่ได้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นข่าวในกระแสสื่อโซเชียลแต่อย่างใด ไม่ได้มีการจัดงานปาร์ตี้ หรือเป็นแหล่งมั่วสุม แต่เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจของศาสนายิว ที่มีการสวดมนต์ ทานอาหารร่วมกัน ในทุกวันศุกร์และต่อเนื่องไปถึงวันเสาร์ของทุกสัปดาห์เท่านั้น ส่วนเรื่องชาวยิวที่ก่อเหตุและทำผิดกฎหมายไทย ทางเจ้าหน้าที่ก็ทำการจับกุมและถึงขั้นเนรเทศออกไปจากประเทศไทยมาแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ปาย ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวดตามกฎหมายกับนักท่องเที่ยวทุกสัญชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวและพำนักในอ.ปายอย่างต่อเนื่องและให้มีการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจระหว่างประชาชนคนไทยในปาย และนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยว ให้รับทราบถึงกฎระเบียบ ธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชาวเมืองปาย เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข
ก่อนหน้านั้นสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เรื่อง ตรวจสอบพฤติกรรมกลุ่มคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ โดยระบุด้วยปรากฎข้อมูลข่าวสารว่า มีกลุ่มคนต่างด้าวในหลายพื้นที่ มีพฤติกรรมที่อาจขัดต่อความสงบต่อสังคม หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ฝ่าฝืนกฎหมายบ้านเมือง ก่อความวุ่นวายเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ ตลอดจนการรวมกลุ่มแสดงออก หรือจัดกิจกรรมในลักษณะที่กระทบภาพลักษณ์และความมั่นคงของประเทศ จึงกำชับให้หน่วยดำเนินการ
โดยเฉพาะตำรวจภูธรภาค 5 (ภ.จว.แม่ฮ่องสอน) สำหรับกรณีที่ปรากฏข้อมูลข่าวสารกลุ่มคนต่างด้าวในพื้นที่ อ.ปายจ.แม่ฮ่องสอนให้ดำเนินการตรวจสอบและรายงานผลการปฏิบัติให้ ตร.ทราบ (ผ่าน ศปชก.ตร.) ภายใน 7 วัน (ห้ามผัดส่ง) โดยได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร.(มค1) เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติ โดยเปิดให้ สตม, ตชด, บช.ทท.และหน่วยงานในในพื้นที่ดำเนินการเชิงรุกให้ปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยด่วน ให้ ศปชก.ตร.อำนวยการ ควบคุม ดูแลการปฏิบัติในภาพรวมและให้เป็นศูนย์รวบรวมข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับคนต่างด้าวตามนัยหนังสือนี้ต่อไปเพื่อทราบและดำเนินการ
ทางด้าน นายอาวุธ เจษฎาไกรสร ผู้ประกอบการใน อ.ปาย เจ้าของโรงแรมเดอะพีคอก เดอปาย ระบุว่า ช่วงที่ผ่านมา 2สัปดาห์นี้ นักท่องเที่ยวอิสราเอลเขาไปที่ จ.เชียงราย และถ้าชาวเชียงรายประท้วงเขาอีกก็มีปัญหาขึ้น อ.ปายเป็นเมืองที่สงบ วัฒนธรรมดี ถามว่าคนที่ประท้วงไม่มองให้รอบด้าน ไม่ใช่ตนเข้าข้างชาวอิสราเอล คนไม่ดีเราใช้กฎหมายเนรเทศออกแย่งอาชีพเราก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่เรามาโวยวายแอนตี้ ยิ่งข่าวออกมาเท่าไหร่ อ.ปายยิ่งเสียหาย กระทบการท่องเที่ยวอย่างรุนแรง
ขณะที่ นายศุภฤกษ์ คมนอก เจ้าของร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองปาย ชื่อร้าน NIGIRI เปิดเผยว่า ที่เราเห็นกระแสดราม่า มันออกจะเกินความเป็นจริง ตรงที่ว่าไม่อนุญาตให้คนไทยเข้าและส่งเสียงดังสำหรับเราที่อยู่ติดกันแทบจะไม่ได้ยินเสียงเลย การรวมตัวของชาวยิวมันมีมาตรการดำเนินการที่ชัดเจน อาจมีความวุ่นวายนิดหนึ่งตอนที่เขาออกมาจากโบสถ์ และช่วงก่อนๆ มีการจอดรถไม่เป็นระเบียบที่ถนนแต่ตอนนี้เจ้าหน้าที่ก็มีการจัดการอย่างเข้มงวด และมีมาตรการการจัดการที่ชัดเจน จนทำให้ตอนนี้ตอนที่เข้ามานมัสการดูเป็นเรื่องปกติศาสนาของเขา ส่วนถ้าจะมองว่ามาแย่งงานคนไทย ตนมองว่าเป็นเรื่องที่ยากอยู่ ถ้าคนไทยเราพัฒนาและต่อสู้อย่างแข็งแกร่ง คือเราเป็นเจ้าของประเทศเราจะไม่ให้เขาเข้ามาทำอะไรไม่ดี หรือแม้แต่การเป็นนอมีนีให้เขามันก็ไม่ถูก
น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีดราม่าในโซเชียลว่า อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน มีชาวอิสราเอลหลายพันคนไปอยู่ และมีการสร้างโบสถ์ติดป้ายห้ามคนไทยเข้า ทำให้คนในพื้นที่ไม่พอใจและไม่เห็นด้วย จะกลายเป็นปัญหาระหว่างประเทศเกิดขึ้นหรือไม่ โดยนายกฯรีบกล่าวทันทีว่า “ได้ตรวจสอบแล้วไม่จริง เดี๋ยวประชาชนฟังแค่คำถามเดี๋ยวจะเข้มข้น” นายกฯยังหันไปถาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ว่าตรวจสอบแล้วไม่จริงใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่จริง ก่อนที่นายกฯกล่าวอีกว่า เดี๋ยวสัปดาห์หน้านายอนุทินจะลงไปดูในพื้นที่
นายอนุทินกล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า อย่างที่นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์ไป ซึ่งข่าวที่ออกมาจะถึงขั้นห้ามคนไทยเข้าไปนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ยกเว้นว่าเขาเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดิน แต่ถ้าเป็นร้าน หรือโรงแรม หรือที่สาธารณะที่เข้าไปได้ จะมาห้ามคนไทยหรือมาปักป้ายห้ามคนไทยนั้น คงเป็นไปไม่ได้ ถ้าปัก เดี๋ยวพวกเราก็ไปเอาออก
“ขออย่ากังวลจนเกินไป บางทีข่าวมาหลายทอด อิสราเอลจะมายึดปาย เป็นไปไม่ได้หรอก แค่คิดก็ผิดแล้ว อย่าพึ่งเป็นกังวล นายกฯ สั่งการมาแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดก็รายงานมาว่าสถานการณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด แต่อาจจะมีคนไปปักหลัก เพราะชอบบรรยากาศ อย่างสมัยก่อนก็มีที่เกาะสมุย แต่ไม่มีหลอก ที่จะมามีอิทธิพลได้ ดูอย่างที่ภูเก็ต ช่วงต่างชาติที่พยายามจะมามีอิทธิพล พวกนี้แค่รู้จักเจ้าที่บ้านเมือง เขาคิดว่าตัวเองใหญ่ไปซะแล้ว ก็ต้องจัดการให้หมด ต้องทำมาหากินด้วยความสุจริต และจะให้การต้อนรับเขาเท่าๆ กัน เราก็ให้เขาได้แค่นี้ แต่ถ้ามามีอิทธิพลบนประเทศเรานั้นเป็นไปไม่ได้ พวกเราไม่ยอมอยู่แล้ว”
เมื่อถามว่า เป็นผลพวงมาจากฟรีวีซ่า หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เกี่ยว ฟรีวีซ่าอย่างไรก็ต้องมีระยะของมันอยู่แล้ว ว่าอยู่ได้กี่วัน แต่ถ้าจะมาทำงานประกอบอาชีพ ก็ต้องขอสิทธิ์ ขอใบอนุญาต ไม่ต้องกังวล ทั้งนี้ ต้องขอบคุณผู้ที่ให้ข่าวมา ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เร่งเข้าไปสืบหาข้อเท็จจริง และก็พบว่าเป็นไปตามนั้น
พันเอกหญิงนุชระวี แจ่มจำรัส รอง โฆษก กอ.รมน. กล่าวว่า กอ.รมน. จังหวัดแม่ฮ่องสอน นำโดย นายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มอบหมายให้ พ.อ.ภูมิรัชต์ ดุษฎี รอง ผอ.รมน.จังหวัดแม่ฮ่องสอน (ฝ่ายทหาร) เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวมีการร้องเรียนเข้ามาเมื่อเดือน ม.ค.2568 ซึ่งเมื่อได้รับการร้องเรียน กอ.รมน.จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตำรวจ สภ.ปายตร.ท่องเที่ยว ตร.ตรวจคนเข้าเมือง และหน่วยงานปกครอง ลงพื้นที่ตรวจสอบโดยทันที และมีการดำเนินการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่องทั้งในการตรวจสอบการลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ตรวจสอบสถานที่ก่อสร้างซาบัด ตรวจสถานประกอบการ และขอความร่วมมือในการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้ทำพฤติกรรมไม่เหมาะสม ไม่ประพฤติตนขัดต่อธรรมประเพณีของคนท้องถิ่น
ส่วนประเด็นในการตั้งดินแดนพันธะสัญญาในการตั้งถิ่นฐานใน อ.ปาย ส่วนงานความมั่นคงได้ลงพื้นที่ ตรวจสอบข้อมูลพบว่าไม่มีสิ่งบอกเหตุ เพราะนักท่องเที่ยวอยู่กระจัดกระจายและไม่ได้มีตัวเลขที่สูงมากอย่างมีนัยสำคัญ โดยประเด็นนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้ทำการติดตามและตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี