‘ฝ่ายค้าน’ล็อกเป้า 10 รมต.
โวซักฟอกรัฐบาล 4-5 วัน
“ปธ.วิปฝ่ายค้าน”แย้มล็อกเป้ายื่นซักฟอก“10 รมต.” ยันขออภิปรายชำแหละ 4-5 วัน ย้อนเกล็ด“เพื่อไทย”สมัยเป็น“ฝ่ายค้าน”เคยขออภิปราย 7 วัน พร้อมชน“ทักษิณ”ตั้งวอร์รูมแจงปมชั้น 14 นายกฯ“อิ๊งค์” เตรียมเก็งข้อสอบ รับมือศึกซักฟอก มั่นใจไม่มีปัญหา ตอบได้ ‘เพื่อไทย’ชง‘วันนอร์’19ก.พ.ญัตติส่งศาลรธน.ชี้ขาดปมแก้รธน.โดยไม่ต้องทําประชามติก่อนหรือไม่’อนุทิน’คุยกันแล้วหนุนญัตติ’พท.’ส่งศาลตีความแก้ รธน. โต้ครหา’ภูมิใจขวาง’’เสี่ยหนู’เผยดินเนอร์พรรคร่วมฯ25ก.พ.นี้ นายกฯเคาะคุยเฉพาะ’หน.-เลขาฯพรรค’เท่านั้นด้าน ส.ส.ปูอัด โร่เข้ามอบตัว-รับทราบข้อหา คดีข่มขืน นักท่องเที่ยวสาวไต้หวัน
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน)ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้านว่าครั้งที่แล้วที่มีการประชุมกันได้ให้แต่ละพรรคไปร่างญัตติแต่ละพรรคอาจจะอภิปรายรัฐมนตรีไม่เหมือนกัน ส่วนข้อกล่าวหาประเด็นที่จะอภิปรายก็ไม่เหมือนกันตนได้รับเนื้อหาของแต่ละพรรคเรียบร้อยแล้วซึ่งขั้นต่อไปพรรคประชาชนในฐานะพรรคแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน จะนำเนื้อหาแต่ละพรรคมารวบรวมกับพรรคประชาชนเพื่อให้เป็นญัตติเดียวกันเพื่อที่จะลงชื่อร่วมกันอีกครั้งโดยไทม์ไลน์ที่จะยื่นประธานสภาฯได้คงจะเป็นภายในวันที่ 27 ก.พ.เหมือนเดิม
‘ฝ่ายค้าน’ล็อกเป้าซักฟอก10รมต.
เมื่อถามว่า จำนวนรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายมีกี่คน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เราคงไม่ยื่นทั้งคณะ คงไม่ไหวหากจะอภิปรายรัฐมนตรี30 กว่าคน คงจะไม่เยอะขนาดนั้น แต่คาดไว้ราวๆ 10 คน แต่ต้องรอดูรายชื่อที่ชัดเจนกว่านี้ เมื่อถามว่า หากมีการอภิปรายพาดพิงถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเกี่ยวกับชั้น14อาจจะมีการตั้งวอร์รูมเพื่อชี้แจงเรื่องดังกล่าว นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่าเป็นสิทธิ์ของทุกคนที่จะถูกกล่าวหาแล้วจะแถลงข้อเท็จจริงซึ่งเป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายหนึ่งจะตั้งข้อสงสัยและข้อกล่าวหา ส่วนใครที่ถูกกล่าวหาและเห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องชี้แจง ก็มีสิทธิ์ที่ชี้แจง ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ยันขออภิปรายชำแหละ 4-5 วัน
เมื่อถามว่าที่เคยแถลงจะขออภิปราย 5วันแต่เหมือนรัฐบาลจะให้ได้แค่ 3วัน นายปกรณ์วุฒิกล่าวว่า“เราเคยเป็นฝ่ายค้านมาด้วยกัน หากจะให้อภิปราย 2 วันแล้วลงมติอีก 1 วัน หากจะพูดแบบนี้ก็เหมือนกับคนไม่เคยเป็นสส. และรู้อยู่แล้วต้องมากกว่านั้น ทุกครั้งก็เป็น4วัน เป็นอย่างน้อย สมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำฝ่ายค้านก็ขอ 7 วัน พอตัวเองเป็นรัฐบาลบอกจะให้พูด 2 วัน ก็ตัดสินกันเองแล้วกันว่านี่เป็นการพยายามหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของฝ่ายนิติบัญญัติหรือไม่ ซึ่งคงเป็นไปไม่ได้ อย่างน้อยคงเป็น4-5วันตามที่ขอไป”
ส่วนหากท้ายที่สุดแล้ว รัฐบาลให้ไม่ถึงตามที่ขอจะทำอย่างไร นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า คงต้องมีการพูดคุยเจรจากันคิดว่าเราเป็นประเทศประชาธิปไตย ประเทศที่ตรวจสอบถ่วงดุลด้วยระบบรัฐสภา เราควรจะเคารพกลไกนี้ คิดว่าคงไม่มีปัญหานอกจากพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลไม่เชื่อในกลไกตรวจสอบถ่วงดุล หรือพยายามที่จะปิดปากสภาไม่ให้ตรวจสอบรัฐบาล ตนเชื่อว่าจบลงด้วยดี
‘อิ๊งค์’มั่นใจไม่มีปัญหา/ครม.ตอบได้
เวลา 11.30 น.ที่ศูนย์ประชุมนานาชาติฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จ.สงขลา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มั่นใจขุนพลที่ยืนอยู่ข้างๆจะสอบผ่านหรือไม่
โดยนายกฯกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า“โอ้โหคำถาม แน่นอนทุกกระทรวง มีการอัพเดทกันตลอด คิดว่าตอนนี้ไม่ว่า จะเป็นนโยบายใดๆอาจต้องมีการผลักดันมากยิ่งขึ้น ก็ต้องผลักดันกันไป ทุกวันนี้ไม่ได้มีปัญหาอะไรในการที่จะผลักดันนโยบายออกไป คิดว่าทุกคนตอบตามระบบและกระบวนการ จริงๆที่ทำไม่น่ามีปัญหาอะไร เมื่อถามว่านายกฯได้เก็งข้อสอบอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า “แน่นอนต้องเก็งข้อสอบ จะให้เข้าไปตัวเปล่าได้อย่างไร”เมื่อถามว่าคิดว่าจะโดนเรื่องอะไรเป็นหลัก นายกฯ กล่าวว่า “ไม่บอก เราจะไม่เฉลยข้อสอบก่อน”
พท.ส่งญัตติศาลฯตีความปมแก้รธน.
ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.)เปิดเผยว่า ขณะนี้ส.ส.พรรค พท. เข้าชื่อในญัตติเกิน 40 คน และจะขออนุมัติในที่ประชุม สส.พรรควันที่ 18 กุมภาพันธ์ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นว่า รัฐสภามีอำนาจวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคพท.และพรรคประชาชน(ปชน.)หรือไม่ โดยไม่ต้องทำประชามติก่อน ซึ่งแตกต่างจากญัตติที่นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.เสนอ คาดว่าจะเสนอให้ประธานรัฐสภาเพื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระวันที่ 19 กุมภาพันธ์
“จากนั้นประธานรัฐสภาจะเรียกประชุมร่วมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งสส.พรรค พท.จะเสนอเลื่อนญัตตินี้ขึ้นมาพิจารณาก่อน ต้องดูว่าที่ประชุมรัฐสภาเห็นชอบหรือไม่ ยืนยันว่าการจัดส่งญัตติดังกล่าวไปให้ศาลได้นั้น ต้องบรรจุเข้าระเบียบวาระการประชุมสภา ตามข้อบังคับที่ 31ส่วนสาเหตุที่ไม่ใช้ญัตติของ น.พ.เปรมศักดิ์นั้น เพื่อทำให้เห็นว่ามีความแตกต่าง ตัวของพรรคพท.แตกต่างกันตรงที่เราถามฟันธง แต่ของน.พ.เปรมศักดิ์ถามถึงอนาคตด้วย”นายชูศักดิ์ ย้ำ
เชื่อหากผลเป็นลบ/ฝันตั้งสสร.ได้
เมื่อถามว่าหากสุดท้ายศาลไม่รับพิจารณาเหมือนตอนที่พรรค พท.เคยเสนอ จะต้องทำประชามติ 3 ครั้งหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ถ้าเป็นอย่างนั้นคงไม่มีทางอื่น แต่ก็ต้องดูว่าศาลไม่รับวินิจฉัยเพราะอะไร
เมื่อถามอีกว่าหากศาลวินิจฉัยให้ทำประชามติ3ครั้ง ประธานรัฐสภาที่บรรจุร่างและสส.ที่เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญจะมีความผิดสำเร็จหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า มองว่าเป็นอำนาจหน้าที่ของสภาเพราะเราดำเนินการตามรัฐธรรมนูญคือ1.เข้าชื่อถูกต้อง 2.เสนอแก้ไขมาตรา 256 และ 3.ไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบของรัฐรวมถึงไม่ได้ล้มล้างการปกครอง ซึ่งที่ผ่านมามีการใช้แนวทางอื่นเป็นเครื่องมือทางการเมืองมาห้ำหั่นกัน เรียกว่านิติสงคราม หรืออย่างที่ตนเคยพูดว่าหาเรื่องโดยใช่เหตุ อยู่ดีๆเรามีอำนาจ ก็ชอบไปร้องกัน ติดนิสัยกันมา ซึ่งตนอยากให้เสร็จทั้งฉบับเพื่อที่จะได้มีรัฐธรรมนูญใหม่เสียทีหรือถ้าไม่ทัน ขั้นตํ่าที่สุดก็อยากให้มีส.ส.ร.
ภท.คุยแล้วพร้อมหนุนส่งตีความ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.)กล่าวถึงที่พรรคเพื่อไทยยื่นญัตติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยประเด็นรัฐสภามีอำนาจวินิจฉัยร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนโดยไม่ต้องทำประชามติ ให้ประธานรัฐสภาบรรจุระเบียบวาระในวันที่19ก.พ.นี้ว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีปัญหา ถ้าเป็นขั้นตอนตามกฎหมายที่ถูกต้อง เราก็สนับสนุนอยู่แล้ว ทั้งนี้ หากมีการบรรจุวาระและเลื่อนการพิจารณาขึ้นมาพรรคภูมิใจไทยก็ร่วมโหวต
“ตรงนี้คุยกันแล้ว เราไม่ได้เป็นคนขวาง เดี๋ยวจะหาว่าเป็นภูมิใจขวางอะไรอีก เรากลัว แต่คนอื่นเขาไม่เคยโดน พวกเราโดนกันมาแล้ว”นายอนุทิน ระบุเมื่อถามว่ามีกระแสข่าวพรรคเพื่อไทยก็กลัวเช่นกันจึงทำสภาล่ม2ครั้งในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 13-14 ก.พ.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ตอบว่า “อ้าว เห็นไหมก็กลัวกันทุกคน แต่เรากลัวก่อน”
ดินเนอร์รัฐบาล25ก.พ.มีแค่หน.-เลขา
นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยังกล่าวถึงการจัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 25 ก.พ.ว่าจะจัดขึ้นที่โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล เขตบางรัก กรุงเทพฯโดยพรรคภูมิใจไทยเป็นเจ้าภาพซึ่งจะเชิญหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคไปพรรคละ2คนเท่านั้นเป็นไปตามคำบัญชาของนายกฯเพราะที่ผ่านมาคนเยอะ แต่มีเวลาจำกัด ทำให้พูดคุยกันได้น้อย
เมื่อถามว่าแสดงว่าบรรดาที่ปรึกษาพรรคการเมืองทุกพรรคร่วมรัฐบาลจะไม่ได้ไปด้วยใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า”ไม่ได้ไป ท่านนายกฯเป็นเจ้าภาพ ผมเป็นเจ้ามือตามคิว” เมื่อถามว่าจะมีการเคลียร์ใจเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญและเรื่องที่ดินต่างๆหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า”ก็แล้วแต่นายกฯ”
‘กล้าธรรม’หนุนยื่นศาลฯตีความ
ขณะที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.)กล่าวถึงกรณีจุดยืนในการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญว่า พรรคกล้าธรรมได้หารือกับพรรคเพื่อไทยอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดเราจะเดินในแนวทางเดียวกัน ทางพรรคเองได้มีข้อสรุปออกมาว่าอยากจะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความก่อนว่าสามารถดำเนินการก่อนที่จะมีการทำประชามติได้หรือไม่ ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับทางพรรคเพื่อไทยซึ่งต้องยื่นเรื่องสอบถามศาลรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน เมื่อถามย้ำว่า แนวทางของพรรคกล้าธรรมและพรรคเพื่อไทยจะเป็นแนวทางเดียวกันใช่หรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ทิศทางเดียวกันกับพรรคเพื่อไทยแน่นอน
รทสช.ย้ำแก้รธน.ไม่แตะหมวด1-2
นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรมเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.)กล่าวถึงจุดยืนการแก้ไขรัฐธรรมนูญของพรรครทสช.ว่าวันนั้นเราได้ประกาศไปแล้วต้องดูเรื่องว่าทำอะไรอย่าให้ผิดกฎหมาย เพราะเรื่องนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไปแล้ว ควรไปดูคำวินิจฉัยก่อนจะต้องทำประชามติก่อนหรือไม่ ในกรณีที่มีการแก้มาตรา 256ซึ่งพรรครทสช.เราไม่เคยหาเสียงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญเนื่องจากเป็นข้อตกลงของพรรครวมรัฐบาล ซึ่งพรรคยืนยันว่าไม่แตะหมวด 1 หมวด 2กับส่วนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตประพฤติมิชอบจะแก้บางมาตรามาแก้หรือแก้เกือบทั้งหมดก็จะต้องพิจารณาไปตามความเหมาะสม
ลั่นต้องยึดคำวินิจฉัยศาลรธน.
ผู้สื่อข่าวถามถึงจุดยืนจะทำประชามติกี่ครั้ง นายเอกนัฏ กล่าวว่า“ตามศาลสิครับ ทำไมจะต้องมาตีความ เพราะในรัฐธรรมนูญมีระบุเป็นลายลักษณ์อักษรชัดและเรื่องนี้ได้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยแล้ว คิดว่าถ้ามีอะไรเปลี่ยนก็ส่งไปได้ เพราะคำวินิจฉัยผูกมัดทุกองค์กร”
เมื่อถามว่า จะต้องมีการเคลียร์กันก่อนในวันดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายเอกนัฏกล่าวว่า ตนยังไม่ทราบ แต่คุยอย่างไรผลก็เหมือนเดิม เพราะคุยกันหลายรอบ ยืนยันกับพรรคร่วมทั้งหมดว่าจุดยืนของพรรค รทสช.เราเหมือนเดิม อีกทั้งตอนนี้นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและรมว.พลังงาน หัวหน้าพรรค รทสช. ก็มีภารกิจเยอะทั้งปรับค่าพลังงาน ลดค่าไฟ ส่วนของตนก็มีการปรับระบบอุตสาหกรรมใหม่ นี่คือภารกิจหลักของเราทั้งสองคน
‘ปูอัด’โร่รับทราบข้อหาคดีข่มขืน
บ่ายวันเดียวกัน ที่สภ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ หรือปูอัด ส.ส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา”ข่มขืนกระทำชำเรา“หลังนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันแจ้งความว่าถูกนายไชยามพวานข่มขืน เหตุเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.เมืองเชียงใหม่เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมากระทั่งศาลจังหวัดเชียงใหม่ออกหมายจับโดยนายไชยามพวานเดินทางมาพร้อมทนายความก่อนรับทราบข้อกล่าวหากับพ.ต.อ.ดำเนิน กันอ่อง รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ และพนักงานสอบสวน ที่ห้องประชุมชััน2
นายไชยามพวานเผยว่าวันนี้เดินทางมาพบตำรวจที่เชียงใหม่เป็นครั้งแรกขอไปรับทราบข้อกล่าวหาก่อนและจะลงมาพบกับสื่อเพื่อให้สัมภาษณ์ชี้แจงใน 2-3 ประเด็น
ตร.ลั่นจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
พ.ต.อ.ปรัชญา ทิศลา ผกก. สภ.เมืองเชียงใหม่ กล่าวว่า หาก นายไชยามพวานเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหาแต่ยังไม่สามารถควบคุมตัวได้ เพราะยังมีเอกสิทธิ์คุ้มครองอยู่ แต่หากวันที่ 20ก.พ.นี้สภามีการพิจารณาและโหวตให้ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดี ตำรวจก็พร้อมจะดำเนินการจับกุมตัวได้
ส่วนกรณีคนสนิทนายไชยามพวานอ้างว่ามีตำรวจเรียกรับเงินจำนวน 4แสนบาทเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดีนั้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้และจะสอบถามข้อเท็จจริงกับสส.ไชยามพยวานว่าใครเป็นคนให้ข้อมูลและสื่อมวลชนได้ข้อมูลมาจากไหน เรื่องนี้ตำรวจเสียหาย ขอยืนยันว่าไม่มีการเรียกรับเงิน และตำรวจจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
สภาต้องโหวต/แม้’ปูอัด’รับข้อหา
ด้านว่าที่ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรกล่าวยถึงการลงมติอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. พรรคไทยก้าวหน้า ดำเนินคดี ข้อหาข่มขืนนักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวันว่า แม้นายไชยามพวานจะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาหรือมอบตัวก็เป็นการดำเนินการในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ในทางสภาฯยังต้องให้สมาชิกลงมติอนุญาตส่งตัวตำรวจดำเนินคดีหรือไม่ เนื่องจากบรรจุในวาระการประชุมแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี