‘นพดล’เตือนอย่ามองการทำงานของ'ผู้ช่วยรัฐมนตรีจีน'ทำให้ไทยขาดอิสระ เชื่อบทบาท'ที่ปรึกษาปธ.อาเซียน'อดีตนายกฯ'ทักษิณ'จะทำให้เกิดสันติภาพในเมียนมาเร็วขึ้น
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 นายนพดล ปัทมะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวตอบข้อวิพากษ์วิจารณ์ของนักวิชาการและฝ่ายการเมืองว่า รัฐบาลนี้ต้องแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ในพื้นที่เมียนมาร์ เพราะการกดดันของประเทศจีนและการเดินทางมาของผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฯของจีน เกี่ยวกับประเด็นการแก้ไขดังกล่าวนั้น จะทำให้ไทยขาดอิสระ ซึ่งถือว่าเป็นการมองที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง และไม่ค่อยสร้างสรรค์ เพราะภารกิจและอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาในดินแดนของประเทศไทยนั้น ย่อมเป็นเรื่องของรัฐบาลไทยโดยตรง แต่ปัญหาข้างต้นเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับประชาชนหลายประเทศ ดังนั้น ทั้งไทย จีนและเมียนมาร์จึงได้ประสานความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่จะปกป้องคุ้มครองคนไทยจากการหลอกลวงของพวกคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติดและปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งก็ต้องชื่นชมมาตรการของรัฐบาล เช่นตัดไฟ ห้ามส่งน้ำมันและตัดระบบอินเทอร์เน็ตเป็นต้น
นายนพดล กล่าวต่อว่าปัญหาของเมียนมาและอาเซียนที่ต้องร่วมกันแก้ไขระยะยาวก็คือการมีสันติภาพอย่างยั่งยืนในเมียนมาร์ ซึ่งเรื่องนี้ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาการขับเคลื่อนในระดับอาเซียนนั้นไม่ค่อยคืบหน้า แม้จะมีฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนไปหลายปีแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่า ตั้งแต่ อดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีของประเทศมาเลย์เซีย ซึ่งตนเห็นความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาของประธานอาเซียน และที่ปรึกษาประธานอาเซียน ซึ่งมีเครือข่ายผู้นำของประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสันติภาพในเมียนมาร์จะสามารถผลักดันแก้ไขปัญหาได้อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะการสู้รบและความขัดแย้งในเมียนมาร์ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป็นฝ่ายรับเคราะห์กรรมและนอกจากนั้น ประเทศไทยก็ยังแบกรับปัญหาที่กระฉอกข้ามแดนปีแล้วปีเล่า ซึ่งตนได้เคยเสนอแนวคิดทร้อยก้าพลัสก็คือมีเวทีการพูดคุยกันระหว่างอาเซียน เมียนมาร์ ไทยและประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคเช่น จีน อินเดีย
“การยุติความขัดแย้งและสงครามสามารถทำได้โดยการเจรจา ดูตัวอย่างการที่สหรัฐฯและรัสเซียพยามที่จะเจรจายุติสงครามในยูเครนก็ขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ส่วนเรื่องเมียนมาร์นั้น คิดว่าถ้าทุกฝ่ายตั้งใจก็สามารถที่จะ สร้างสันติภาพที่ยั่งยืนตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียนได้ แต่ต้องเปลี่ยน ”การทูตปวกเปียก“เป็น ”การทูตปูนปั้น“เพื่อปั้นสันติภาพในเมียนมาร์ ปั้นความยั่งยืนและเสถียรภาพในภูมิภาคอาเซียนให้ได้“ นายนพดล กล่าว - 002
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี