“ภูมิธรรม”แจงปม"โรม ให้รัฐบาลทบทวนการส่งกลับแก๊งค์คอลฯ โดยไม่เก็บอัตลักษณ์ ชี้เจ้าหน้าที่รัฐทำอยู่แล้ว พร้อมขอบคุณที่เสนอแนะ แต่ไม่ควรใช้วิธีตำหนิติเตียนกัน  

เมื่อวันที่ 19 ก.พ.68 ที่โรงแรมชาเทรียมแกรนด์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึง กรณีนายรังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และประธาน คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ ขอให้รัฐบาลทบทวนการส่งขบวนการคอลเซ็นเตอร์ กลับประเทศโดยไม่มีการเก็บอัตลักษณ์ โดยเป็นห่วงกลับมาทำผิดซ้ำอีกว่า ต้องขอบคุณนายรังสิมันต์ โรม ที่เสนอแนะ แต่ก็ควรเข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่ได้ทำมาอยู่แล้ว โดยรัฐบาลได้ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง และทำหลายเรื่อง

"ขอย้ำว่า กรณีทางการจีนเดินทางมาก็ไม่ได้เป็นการรุกล้ำอธิปไตยไทย แต่เป็นการพูดคุยกันมาเป็นเดือนแล้ว และการเข้ามาก็ต้องขออนุญาตฝ่ายไทย จึงอยากให้เข้าใจในการทำงานของทุกฝ่าย ซึ่งบางครั้งการตักเตือนและแนะนำก็อย่าให้เป็นภาพที่ออกมาเหมือนการตำหนิติเตียน เพราะข้อเท็จจริงเราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด แต่ทางจีนมีข้อเสนอเรื่องการตั้งสำนักงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคอลเซ็นเตอร์ แต่ไทยเองก็ไม่ได้เห็นด้วยถึงขนาดนั้น จึงเห็นว่าควรจะตั้งในรูปแบบไตรภาคี เพราะแก้ปัญหาได้มากกว่าการตั้งสำนักงาน "นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ทางไทยและจีนได้มีการพูดคุยกันในหลายด้าน แต่สิ่งที่ทางจีนให้ความสำคัญคือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพลเมืองของจีน แต่การดำเนินการต่างๆ ก็ต้องมีการพูดคุยกันทั้งสามฝ่ายคือไทย-จีน-เมียนมา

ทั้งนีัประเด็นสำคัญก็คือ ปัญหาความสัมพันธ์ ของประเทศเมียนมากับอีกหลายประเทศที่ไม่แนบใกล้ชิด ซึ่งไทยก็เป็นคนประสานให้ จึงขอให้ทุกฝ่ายมั่นใจได้ว่าการปฎิบัติต่างๆคำนึงถึงอธิปไตยของไทย 

ส่วนการที่จีนจะดำเนินการอะไรก็มีสิทธิ์ที่จะเสนอเข้ามา ส่วนเราก็ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของประเทศและประชาชน ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ย้ำว่า การดำเนินการอะไรต้องคิดถึงประเทศไทยเป็นหลัก 

พร้อมย้ำว่า จีนไม่ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ แต่ที่จริงๆแล้วไทยเป็นคนที่ช่วยจีนในการแก้ปัญหาส่วนที่เกี่ยวข้องกับดินแดนของไทย เพราะเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องเฉพาะไทย-จีน แต่เกี่ยวข้องกับหลายประเทศ ซึ่งสถานทูตในหลายประเทศก็ติดต่อมาที่ประเทศไทย เพื่อแก้ปัญหาร่วมกัน เช่นบางประเทศอาจไม่มีสถานทูตในประเทศไทยก็จะต้องช่วยประสานแก้ปัญหากันต่อไป 

ซึ่งการแก้ปัญหาจะจบหรือไม่จบขึ้นอยู่กับสามฝ่ายที่มาร่วมแก้ปัญหาด้วยกัน เรื่องใดที่คุยยากเราก็ต้องเป็นผู้ช่วยที่ประสานงาน แต่ส่วนที่อยู่นอกเหนือธิปไตยของไทยเราก็จะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้ ยังไม่มีการพูดคุยกับจีนไปถึงเรื่องการของบประมาณสนับสนุนแต่อย่างใด แต่ย้ำว่าถ้าเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับจีน ทางจีนก็ต้องรับผิดชอบ ส่วนไทยก็สนับสนุนตามความเหมาะสม และคำนึงถึงมนุษยธรรม ตราบใดที่ไทยยังไม่เสียความเป็นตัวของตัวเองก็พร้อมที่จะช่วยเหลือมิตรประเทศ