"ปชน."กังขา"รัฐบาล" เดินหน้า"แก้รธน.-กาสิโน"แบบใด?ทำขัดแย้งพรรคร่วมฯ ด้าน"ประเสริฐ"ยันมีจุดหมายเดียวกันได้รธน.เป็นที่สุด แจง"สถานบันเทิงครบวงจร"อยู่ระหว่างปรับกฎหมาย พร้อมรับฟังความเห็นต่าง
เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568 ที่รัฐสภา ในการการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสด โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี ถึงความชัดเจนต่อการทำนโยบายรัฐบาลเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยกล่าวว่า หลังจากเกิดกรณีที่ในการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 13 - 14 ก.พ.ที่ไม่สามารถพิจารณารายละเอียดได้ เนื่องจากพรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) และ สว.ที่หัวใจเดียวกัน ไม่เข้าร่วมต่อการแก้ไขดังกล่าว
ทั้งนี้ ล่าสุด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่าพร้อมจะร่วมพิจารณา แต่ไม่มีหลักประกันในส่วนของ สว.ที่จะไม่มีข้ออ้างอื่นที่ไม่สนับสนุนการแก้ไขรรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้น ยังมีประเด็นการให้สัมภาษณ์ที่ไม่ตรงกันระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ที่บอกว่าได้คุยกับหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยแล้ว แต่หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยระบุว่าไม่ได้คุย ดังนั้น จะเชื่อถือคำพูดของใครได้
ด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ชี้แจงแทนนายกฯ ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญจนเขียนเป็นนโยบาย ทั้งนี้ การแก้ไขมีความเห็นที่แตกต่างจึงต้องตั้งกรรมการศึกษาในการแก้ไขรวมถึงการทำประชามติ 3 ครั้ง จนถึงการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ อย่างไรก็ดีต่อมาพรรคเพื่อไทยได้ยื่นร่างแแก้ไขเเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญแต่ยังมีความเห็นต่างเกิดขึ้น ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) และรัฐบาล มีเจตนารมณ์จะเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ
"การประชุมสัปดาห์ที่ผ่านมาหากปล่อยให้โหวต อาจไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้ ผมยืนยันในระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีขัดแย้งต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่มีความเห็นต่างในกระบวนการเท่านั้น ขณะที่เป้าหมายของการแก้รัฐธรรมนูญยังมีจุดหมายเดียวกัน ส่วนที่บอกว่าพรรคร่วม และ สว.ไม่พร้อม ไม่อยากแก้ไขนั้น ผมยืนยันว่า สมาชิกรัฐสภาต้องการเห็นรัฐธรรมนูญที่ดี แต่ปัญหาคือความเห็นต่างต่อจำนวนครั้งที่ทำประชามติ ส่วนที่พรรคร่วมรัฐบาลไม่มาลงมตินั้นถือเป็นเอกสิทธิ์" นายประเสริฐ กล่าว
นายประเสริฐ ชี้แจงด้วยว่า หากสมาชิกรัฐสภาหายข้อสงสัยเชื่อว่าจะพร้อมโหวต และไม่มีใครขวาง เนื่องจากทุกคนอยากเห็นรัฐธรรมนูญที่ออกมาดีที่สุด ความเห็นต่างนั้นมีได้ แต่การแก้ไขยังอยู่ระหว่างดำเนินการ ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาล และพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีข้อขัดแย้ง ตามที่ฝ่ายค้านประเมิน ทั้งนี้ ความเห็นต่างที่เกิดขึ้นสามารถทำได้
นอกจากนี้ นายพริษฐ์ ยังตั้งคำถามถึงการเดินหน้าทำสถานบันเทิงครบวงจร และกาสิโน ที่พบว่าพรรคร่วมรัฐบาล คือ พรรคภูมิใจไทยมีข้อกังวล แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป พบว่าข้อกังวลของพรรครร่วมรัฐบาลดังกล่าวหายไป ตนขอตั้งคำถามว่า รัฐบาลไปทำอะไร
ทำให้ นายประเสริฐ ชี้แจงว่า การทำนโยบายดังกล่าวที่มีพรรคการเมืองไม่เห็นด้วยตอนแรก และภายหลังต่อมาไม่มีปัญหา เป็นเรื่องที่พรรคการเมืองพูดคุยในรายละเอียดของข้อที่ไม่เข้าใจ เมื่อพูดคุยได้เข้าใจและเห็นด้วย ไร้ข้อสงสัย ดังนั้น ร่างกฎหมายดังกล่าวยังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เมื่อเข้าสภาฯ แล้ว สส.สามารถแสดงความเห็นได้ตั้งแต่วาระรับหลักการและวาระสาม รวมถึงยังมีชั้น สว.
"กระบวนการตรากฎหมายมีกระบวนการ เชื่อว่าสมาชิกรัฐสภาอยากให้ร่างกฎหมายออกมาให้ดีที่สุด ส่วนรายละเอียดของกฎหมายที่มีการปรับปรุงและถูกท้วงว่าไม่ตอบโจทย์นั้น ยังมีอีกหลายขั้นตอนที่สมาชิกต้องแสดงความเห็น ซึ่งรายละเอียดนั้นต้องให้ประโยชน์ประชาชนสูงสุด ส่วนการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลของนายกฯ นั้น เพราะนายกฯ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง ต้องคุยกับพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลต่างๆ ทั้งใน ครม.และที่ต่างๆ ที่ต้องพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น หลายเรื่องต้องสร้างความเข้าใจ ซึ่งการสร้างความเข้าใจไม่มีข้อแลกเปลี่ยนใดๆ" นายประเสริฐ ชี้แจง
ทำให้ นายพริษฐ์ ตั้งคำถามด้วยว่า เป็นความแตกต่างในการทำงานของรัฐบาลที่ปล่อยเกียร์ว่างในนโยบายที่ต้องการผลักดัน ไม่คุยกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่กับอีกนโยบายที่ไม่ประกาศไว้ตอนหาเสียงกลับใช้วิธีการพูดคุย ทั้งนี้ ได้ตั้งคำถามถึงการเรียงลำดับความสำคัญในนโยบายรัฐบาล เช่น ค่าแรง นิรโทษกรรมทางการเมือง
โดย นายประเสริฐ ชี้แจงว่า เจตจำนง 2 นโยบายหลักได้แถลงไว้ต่อสภาฯ และนายกฯ ใช้ภาวะผู้นำในการคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีเดินอ้อม เช่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องดำเนินการต่อ ส่วนนโยบายอื่นๆ เช่น กัญชา ค่าแรง ผู้ว่าราชการจังหวัด รัฐบาลให้ความสำคัญ แต่การเรียงลำดับขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาส
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี