‘พิธา’เดือดซัดตลกร้าย
ปปช.เชือดอดีต44สส.ก.ก.
ปมป.ป.ช.ตามเชือดอดีต 44 สส.ก้าวไกล ร้อนฉ่า “พิธา” ซัด “ตลกร้าย” จริยธรรม ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง บ่อนทำลายประชาธิปไตย
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊ก Pita Limjaroenrat – พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ระบุว่า ไม่รู้จะเรียกว่าตลกร้ายหรืออะไร ที่วันนี้—วันครบรอบ 5 ปีของการยุบพรรคอนาคตใหม่ และเป็นช่วงวันที่ ป.ป.ช. เรียกตัวผมและเพื่อน สส อดีตพรรคก้าวไกล ไปในคดีจริยธรรมของ 44 ส.ส. ในวัน 2 วันนี้ พอดิบพอดี
ในขณะที่สิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้น ผมกลับมาทำงาน อยู่ที่ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ขึ้น Panel เดียวกันอดีตอาจารย์ของผม Professor Archon Fung ผู้สอนผมเกี่ยวกับ ‘จริยธรรมและการเมือง’ ซึ่งเป็นหัวข้อที่สะท้อนถึงสถานการณ์ของผมในวันนี้อย่างน่าประหลาด
‘จริยธรรม’ ในการเมือง ควรเป็นหลักยึดเพื่อให้ผู้นำรับใช้ประชาชนมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัว เป็นกลไกที่ช่วยให้การเมืองสะอาดขึ้น และทำให้สังคมมีมาตรฐานที่สูงขึ้น แต่เมื่อ ‘จริยธรรม’ ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง—ไม่ได้สัดส่วนระหว่างความผิดกับโทษ ไม่มีสิทธิ์ในการอุทธรณ์ หรือถูกใช้แบบเลือกปฏิบัติ—มันไม่ได้ทำให้ระบบการเมืองดีขึ้น ตรงกันข้าม มันกลายเป็นอาวุธที่ใช้ทำลายฝ่ายตรงข้ามและบ่อนทำลายประชาธิปไตยเสียเอง
5 ปีผ่านไป สิ่งที่เปลี่ยนคือบริบท สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือความพยายามทำลายทางเลือกของประชาชน แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อมั่นเสมอ—พลังของประชาธิปไตยไม่ได้ถูกยุบไปพร้อมกับพรรค
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท - คุยการเมือง” ระบุว่า... 44อดีตส.ส.ก้าวไกล หวยออก3ทาง
ตอนนี้มี 44 อดีตส.ส.พรรคก้าวไกล ได้เดินทางเข้ารับฟังข้อกล่าวหากับ ปปช. เรื่องการร่วมลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 บ้างแล้ว มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า จะรอดสักกี่คน จะโดนตัดสินทางการเมืองทั้งหมดหรือไม่ในฐานะที่เป็นนักการเมืองคนหนึ่ง และพอจะมีความรู้ทางด้านกฎหมายอยู่บ้าง จะขอวิเคราะห์ผลการพิจารณา เรื่องข้อกล่าวหาของ 44 อดีตส.ส.พรรคก้าวไกล เป็น 3 แนวทาง คือ
1.ถ้ามีการตีความกฎหมายอย่างเคร่งครัดเชื่อว่าอดีตส.ส. 44 คน น่าจะรอดหมด เพราะการลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112 เป็นกระบวนการทางนิติบัญญัติ ที่ส.ส.ทุกคนสามารถใช้สิทธิ์เสนอกฎหมาย และแก้ไขกฎหมายได้ ส่วนผลการแก้ไขนั้น จะผ่านความเห็นชอบของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่ ก็เป็นดุลย์พินิจของส.ส.ทุกคน การใช้สิทธิ์ตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่เป็นความผิด
2.ถ้ามีการตีความแบบกว้างจะต้องพิจารณาพฤติกรรมของ 44 อดีตส.ส.มาประกอบกับการลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ด้วย จะต้องพิจารณาดูถึงพฤติกรรมภายนอก ความเคลื่อนไหวทางการเมืองเกี่ยวกับประเด็นมาตรา 112 ว่า ได้เข้าร่วมการชุมนุมหรือได้ขึ้นเวทีปราศรัยสนับสนุนการแก้ไขมาตรา 112 อย่างไร และได้ใช้สิทธิ์ของส.ส. ประกันตัวผู้ต้องหาที่มีความผิดเกี่ยวกับคดีมาตรา112บ้างหรือไม่ ซึ่งจะนำเอาพฤติการณ์เหล่านี้ มาพิจารณาร่วมกับการลงชื่อการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา112ในสภาด้วย
3.ถ้าตีความกฎหมายเพื่อหวังผลทางการเมือง ตามธงของฝ่ายอนุรักษ์นิยม ต้องการ ไม่จำเป็นต้องนำเหตุผลใดมาประกอบการพิจารณา สามารถตัดสินแบบเหมาเข่งว่า อดีตส.ส.ทั้ง 44 คน มีความผิดในการลงชื่อเสนอร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 สามารถนำคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญ ในคดียุบพรรคก้าวไกล ซึ่งผูกพันทุกองค์กรมาอ้างอิงได้เลย
ถ้าหากจะพิจารณาว่า การลงชื่อแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี