“ณัฐพงษ์” ชี้รอยร้าวพรรคร่วมรัฐบาล ทำนโยบาย-แก้ปัญหาประชาชนสะดุด ยอมรับได้ข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจบางส่วนมาจากฝั่งรัฐบาล ไม่กังวลกรณี 44 สส.-เดินหน้าทำงานต่อ
ด้าน’สุทิน’ชี้ซักฟอก3วันเหมาะแล้ว แนะฝ่ายค้านอย่าพาดพิงคนนอก โวพรรคร่วมเป็นเอกภาพ ขณะที่’ปูอัด’รอดตาย พรรคไทยก้าวหน้า ยังไม่ลงมติคดีข่มขืนนักท่องเที่ยวสาว รอฟังอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องหรือไม่
เมื่อวันที่ 23ก.พ.2568 ที่ร้าน Wind&Wild ถ.เทพารักษ์ เขตสายไหม กรุงเทพฯ พรรคประชาชน(ปชน.) จัดกิจกรรมสมาชิกสัมพันธ์ พบสมาชิกและผู้สนับสนุนพรรคประชาชนในเขตสายไหม โดยมี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ร่วมกิจกรรมพบปะพูดคุย พร้อมแสดงความเห็นต่อสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันหลายประเด็น และมี สรกล อดุลยานนท์ (หนุ่ม เมืองจันท์) เป็นผู้ดำเนินรายการ ช่วงหนึ่งของวงสนทนา นายณัฐพงษ์ กล่าวถึงสถานการณ์ความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล โดยระบุว่า จากเหตุการณ์ในรัฐสภาล่าสุดกรณีการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ทำให้ได้เห็นมุมมองอะไรใหม่ๆ ในสภาว่าการเมืองฝั่งรัฐบาลก็มีความเข้มข้น ตอนแรกจากข่าวที่ปรากฏตามหน้าสื่อก็คาดการณ์ได้ว่าญัตติแก้รัฐธรรมนูญในวาระ 1 คงจะถูกส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญก่อน แต่เมื่อถึงการประชุมสภาวันแรก ญัตติส่งศาลรัฐธรรมนูญกลับถูกปัดตก รัฐบาลโหวตแพ้ เพราะ สว. บางส่วนโหวตว่าไม่ต้องให้ส่ง ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมาก
จากบรรยากาศในสภาเห็นได้ชัดว่ามีพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรคตั้งใจวอล์คเอาท์ และมี สว. บางส่วนตั้งใจยังอยู่ในสภาเพื่อโหวตให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าต่อ อีกทั้งยังมีการพูดออกหน้าสื่อขู่ว่าถ้าเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญต่อก็อาจจะมีการยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าใครก็ตามที่ร่วมเดินหน้าไปสู่การลงมติจะเป็นการขัดต่อกฎหมาย ทำให้พรรคเพื่อไทยเองก็เริ่มระแวง และเห็นได้ชัดว่า สว. กลุ่มหนึ่งที่มีความยึดโยงกับกลุ่มการเมืองหนึ่งเป็นผู้เดินเกมชัดเจน
เมื่อถามถึงกรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่าส่วนหนึ่งของข้อมูลได้มาจากฝ่ายรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ยอมรับตามความเป็นจริงว่าข้อมูลหลายส่วนได้รับมาจากฝั่งบริหาร หรือจากกลุ่มก้อนทางการเมืองจากฝั่งรัฐบาลก็มีบ้าง แต่ทั้งนี้ในเรื่องความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลตนอยากให้มองภาพใหญ่มากกว่า จากความขัดแย้งครั้งนี้แน่นอนว่าฝ่ายค้านก็ต้องทำหน้าที่ตรวจสอบ แต่เมื่อพรรคร่วมรัฐบาลมีรอยร้าว สิ่งที่ประชาชนเสียไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นนโยบายของรัฐบาลก็ไม่สามารถเดินหน้าได้ นิรโทษกรรมที่หลายพรรคการเมืองก็เสนอ แต่เมื่อเดินหน้าจริงก็ติดขัดไปหมด ตัวแปรสำคัญคือพรรคการเมืองหนึ่งที่เป็นพรรคใหญ่ที่สุดในทั้งสองสภา พอไม่เอาด้วยกระบวนการก็เดินหน้าต่อไม่ได้ สุดท้ายประชาชนเสียประโยชน์มากกว่า
ส่วนประเด็นในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีทั้งเรื่องความไม่โปร่งใส ผลประโยชน์ทับซ้อน รอยร้าวในรัฐบาล ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้นโยบายหลายอย่างไม่สามารถผลักดันเดินหน้าได้ ปัญหาหลายอย่างก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยคาดว่าจะมีการยื่นญัตติภายในเดือนก.พ.นี้และน่าจะได้เข้าสภาเร็วสุดกลางเดือนมีนาคม ไม่เกินสิ้นเดือนมีนาคม
นายณัฐพงษ์ยังได้ตอบคำถามเกี่ยวกับกรณี 44 สส. อดีตพรรคก้าวไกล ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาจาก ป.ป.ช.โดยระบุว่า กรณีดังกล่าวสะท้อนว่า มีปัญหาในเชิงระบบแน่นอน ยืนยันว่า สิ่งที่ทำเป็นการใช้อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ในมุมหนึ่งตนและเพื่อนไม่มีใครกังวลใจ เราตัดสินใจมาทำงานการเมืองครั้งแรกเพราะต้องการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างและระบบ ไม่ใช่เพื่อเข้าสู่อำนาจเป็น สส. เพื่อดำรงตำแหน่งต่อไปเรื่อยๆ ตนและสส.ทุกคนรู้สึกแบบเดียวกัน ถ้ากังวลใจแบบนั้นหลายอย่างในสภาก็อาจไม่ได้เดินหน้าต่อ เช่นรายงานศึกษาแนวทางการนิรโทษกรรม ถ้าเรากังวลก็อาจจะมีการแสดงออกให้อีกกลุ่มหนึ่งเห็นว่าเราหยุดเรื่องนี้แล้ว ทุกการแสดงออกของ สส. พรรคประชาชนสะท้อนให้เห็นว่าเราเข้าสู่เส้นทางการเมืองเพราะอะไร แต่ก็ไม่อยากให้ใครมองว่าเป็นเรื่องปกติ มันคือเรื่องไม่ปกติ และพวกเราต้องช่วยกันแก้ไข
ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 27 กุมภาพันธ์นี้ และยืนยันกรอบเวลาการอภิปรายควรเป็น 5 วันว่า ในส่วนของวิปรัฐบาลยังไม่ได้มีการหารือในเรื่องดังกล่าว ต้องขอดูญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นมาเสียก่อน ส่วนตัวมองว่าระยะเวลาในการอภิปรายควรอยู่ที่ประมาณ 3 วันและลงมติอีก 1 วันก็น่าจะเพียงพอและเหมาะสมแล้ว ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้อภิปราย ผู้ถูกอภิปรายรวมถึงเนื้อหาสาระด้วย
“หากฝ่ายค้านอภิปรายอยู่ในกรอบก็ไม่น่าหนักใจอะไร แต่ถ้ามีการอภิปรายพาดพิงไปถึงคนนอก ก็จะเกิดการประท้วงกันวุ่นวาย ซึ่งไม่อยากให้เกิดภาพแบบนั้นขึ้น ดังนั้นขอให้ฝ่ายค้านอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ ขณะที่สภาพของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น ยืนยันว่ามีความเป็นเอกภาพ ยิ่งเมื่อมีศึกเข้ามาก็จะยิ่งรักกัน เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาเรื่องเสียงโหวตแน่นอน ผมเชื่อว่าไม่มีพรรคร่วมรัฐบาลไหนที่คิดสั้น เชื่อว่าพรรคร่วมรัฐบาลย่อมอยากบริหารงานและผลักดันนโยบายของตัวเองต่อไปจนครบเทอมอยู่แล้ว“ นายสุทิน กล่าว
วันเดียวกัน พรรคไทยก้าวหน้า ได้ออกแถลงการณ์เรื่อง“มติที่ประชุมพรรคไทยก้าวหน้า กรณีความผิดมาตรฐานจริยธรรม ของนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ (ปูอัด) สส.กทม.มีเนื้อหาว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวนายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ (ปูอัด) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กรุงเทพมหานคร พรรคไทยก้าวหน้า ได้ถูกดำเนินคดีในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน ณ โรงแรมที่พัก หลังจากกลับจากสถานบันเทิงในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนวันที่ 9 มกราคม 2568 ขณะนี้อยู่ระหว่างถูกการดำเนินคดีชั้นพนักงานสอบสวน พรรคไทยก้าวหน้า มีความตระหนักต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งทราบดีว่าเรื่องดังกล่าวนี้เป็นที่สนใจและกระทบต่อความรู้สึกประชาชนจำนวนมากและพรรคจะปฏิเสธความรับผิดไม่ไม่ได้ เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะพยายามแก้ไขให้ดีที่สุด ตามขั้นตอนระบบการดำเนินงานของพรรค โดยยึดหลักความถูกต้อง เป็นธรรมความรู้สึกพี่น้องประชาชน เมื่อวันที่ 22กุมภาพันธ์2568 พรรคได้ประชุม คณะกรรมการบริหารพรรคไทยก้าวหน้า เพื่อพิจารณาเรื่องความผิดมาตรฐานจริยธรรม ตามข้อบังคับพรรคไทยก้าวหน้า พ.ศ.2567 ข้อที่ 83 กรณีนายไชยามพวาน (ปูอัด) ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่าข่มขืนกระทำชำเรานักท่องเที่ยวสาวชาวไต้หวัน โดยคณะกรรมการบริหารพรรค ได้แสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่พร้อมด้วยหลักการเหตุผล ที่ประชุมจึงมีมติให้รอผลคดีในชั้นพิจารณาของอัยการ จึงจะมาประชุมพิจารณาลงมติอีกครั้ง พรรคไทยก้าวหน้าจึงกราบขอโทษพี่น้องประชาชน ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวและพร้อมน้อมรับต่อสิ่งที่เกิดขึ้น จะตระหนักต่อเรื่องนี้ มิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับพรรคอีก โดยพรรคจะยึดมั่นในหลักคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมอันดี ประพฤติตนเป็นตัวอย่างที่ดีและพร้อมรับใช้พี่น้องประชาชนต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี