‘สส.ปชน.’ถล่ม‘ทักษิณ’ลงใต้ ‘เบาบาง-คลุมเครือ’ประเด็น‘ตากใบ’ ไม่จริงใจพูดคุยสันติภาพ
24 กุภาพันธ์ 2568 นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในรอบเกือบยี่สิบปีเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า จากการติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงพื้นที่ตลอดทั้งวัน พบว่า ข้อความในทางการเมืองที่อดีตนายกฯ ต้องการจะสื่อสารต่อประชาชนในพื้นที่นั้นเป็นเรื่องที่เน้นในมิติทางการเมืองและความมั่นคงเป็นด้านหลัก แตกต่างไปจากนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 คนที่เคยลงพื้นที่ชายแดนใต้ก่อนหน้านี้ ซึ่งทั้งนายกฯ เศรษฐาและนายกฯ แพทองธาร จะเน้นหนักไปที่ประเด็นในทางเศรษฐกิจและการพัฒนา โดยหลีกเลี่ยงที่จะสื่อสารในประเด็นข้างต้นอย่างจงใจตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
“ประเด็นที่ดูจะแหลมคมนี้จึงเป็นหน้าที่ของคุณทักษิณ ที่แม้ว่าจะเดินทางลงพื้นที่ในหมวกของที่ปรึกษาประธานอาเซียนและอดีตนายกฯ แต่ก็สะท้อนให้เห็นบทบาทที่เป็นตัวจริงในการกำหนดทิศทางของงานด้านความมั่นคงของรัฐบาลปัจจุบัน” นายรอมฎอน กล่าว
นายรอมฎอน เห็นว่าข้อความทางการเมืองที่สำคัญที่สุดเห็นจะได้แก่การขออภัยต่อการบริหารงานที่ผิดพลาดในสมัยที่ตนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นประเด็นคาใจประชาชนในพื้นที่มาโดยตลอด ดูเหมือนว่านายทักษิณจะเน้นย้ำเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นการกล่าวซ้ำๆกันถึง 3 ครั้งในการเยือนสถานที่ซึ่งแตกต่างกัน 3 จุดในวันเดียวกัน นั่นก็คือที่โรงเรียนสัมพันธ์วิทยา จ.นราธิวาส โรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา จ.ปัตตานี และที่บ้านศรียะลาของประธานรัฐสภาที่ จ.ยะลา ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสถานที่ซึ่งมีนัยทางการเมืองอย่างมาก
“การกล่าวคำขออภัยเช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะคุณทักษิณเคยกล่าวถ้อยคำในลักษณะเช่นนี้มาแล้วในรายการสนทนาออนไลน์เมื่อวันครบรอบ 18 ปี เหตุการณ์ตากใบในปี 2565 ความจริงใจในการขอโทษ มี 2 องค์ประกอบหลัก คือ คำพูด และการกระทำ นอกจากนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณทักษิณขอโทษ”
นายรอมฎอน กล่าวว่า การกระทำของรัฐบาลยังสะท้อนความไม่จริงใจ เมื่อพิจารณาว่าเป็นคำกล่าวในช่วงที่อายุความของคดีตากใบสิ้นสุดลงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หรือผ่านมาแล้ว 4 เดือน ท่ามกลางคำถามที่ว่ารัฐบาลได้พยายามมากเพียงพอหรือไม่ที่จะโน้มน้าวให้จำเลยที่ประชาชนผู้เสียหายฟ้องร้องดำเนินคดีที่ศาลประทับรับฟ้องแล้วให้เดินทางไปเบิกตัวต่อศาล คำถามที่ว่านี้พุ่งตรงไปที่รัฐบาลปัจจุบัน เนื่องจากจำเลยคนสำคัญมีสถานะเป็น สส.ของพรรคเพื่อไทยเอง
“นอกจากนี้การที่คุณทักษิณพูดว่าเหตุการณ์ตากใบเป็นความผิดพลาดในการทำงาน ยังเป็นการลดทอนความสำคัญของรากเหง้าปัญหา แล้วยังเรียกร้องฝ่ายเดียวให้ประชาชนให้อภัย โดยไม่ได้พูดสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรให้เกิดสันติภาพในพื้นที่” นายรอมฎอน กล่าว
นายรอมฎอน กล่าวว่า นายทักษิณยังเน้นย้ำหลายครั้งถึงสถานะของการพูดคุยสันติภาพ และทิศทางการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ภายใต้กรอบคิดและยุทธศาสตร์ใหม่ ซึ่งพบว่านายทักษิณย้ำถึงความสำคัญของการพูดคุยและที่มาที่ไปของการริเริ่มการพูดคุยสันติภาพในช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่ตนมีส่วนร่วมอย่างสำคัญ แต่ก็มีลักษณะที่คลุมเครือและไม่ชัดเจน แม้ว่าจะเน้นย้ำว่าภายในปีนี้ (2568) จะเห็นสัญญาณเชิงบวกและปัญหาจะต้อง “จบ” ภายในปีหน้า (2569) แต่ก็ไม่มีความชัดเจนว่าจะผลักดันและขับเคลื่อนไปอย่างไร กรณีการปัดฝุ่นนำแนวทางของคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 66/2523 กลับมาใช้ก็ระบุเพียงแค่ว่าเป็นแนวทางที่ต้องมีการหารือกันอีก ในขณะที่การสร้างมุ่งความร่วมมือในพื้นที่นั้นจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อมีนิติสงครามและการฟ้องร้องปิดปากที่ยังดำเนินอยู่ ส่วนความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้านที่แม้จะระบุว่าผู้นำหลายประเทศได้แสดงเจตจำนงในการให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะอดีตรองประธานาธิบดีอินโดนีเซีย แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนบรรดาผู้นำเหล่านั้นจะเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการสันติภาพอย่างไร
“คุณทักษิณส่งสัญญาณว่าจะต้องจบ แต่ก็ไม่ได้ให้ความมั่นใจว่าจะเดินไปในทิศทางใด การพูดคุยสันติภาพที่จะนำไปสู่สันติสุขนั้น จะหมายถึงการบรรลุถึงข้อตกลงสันติภาพหรือไม่ หรือเป็นเพียงการพูดคุยกันเฉย ๆ โดยไม่ได้คาดหวังถึงความคืบหน้าใดๆ ตรงนี้ไม่ชัดเจน คำถามก็คือคำว่าจบในความหมายนี้คืออะไร สิ่งนี้ยังคงคลุมเครือ ซึ่งอาจจะสะท้อนความไม่จริงใจ หรือไม่มีเจตจำนงทางการเมืองของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยในการสร้างสันติภาพในพื้นที่ชายแดนใต้จริงๆ” นายรอมฎอน กล่าว
นายรอมฎอน กล่าวด้วยว่า สิ่งที่นายทักษิณสื่อสารนั้นแตกต่างไปจากนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน แต่ปัญหาก็คือเป็นคำกล่าวของบุคคลที่ไม่ได้มีความรับผิดรับชอบหรือตำแหน่งทางการในระบบการเมือง ด้วยเหตุนี้ ตนและพรรคประชาชนจะต้องติดตามและสอบถามรายละเอียดต่อรัฐบาลและผู้ที่มีส่วนรับผิดชอบเกี่ยวกับทิศทางในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป โดยในวันพฤหัสนี้ ตนได้เสนอบรรจุวาระการประชุมของคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐฯ เพื่อพิจารณาสถานะของกระบวนการพูดคุยสันติภาพและยุทธศาสตร์ดับไฟใต้ใหม่ของรัฐบาล โดยเชิญรองนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง และหวังว่าจะได้หารือและรับทราบสาระสำคัญที่รัฐบาลกำลังคิดและดำเนินการอยู่จริง
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี