“สว.อังคณา-สส.รอมฎอน-เทพไท-จตุพร”รุมยำ“ทักษิณ”ที่ปรึกษาประธานอาเซียน หลังล่องใต้“ขออภัย”คดีสังหารหมู่ที่ตากใบ ซัดยังไม่จริงใจ สะท้อนถึงไม่สำนึกรับผิด ทำนโยบายผิดพลาด หวั่นดับไฟใต้ทำได้ยาก ด้าน“ภูมิธรรม”โวรัฐบาล เดินมาถูกทาง“เทวดาแม้ว”ช่วยให้เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน (นายอันวาร์ อิบราฮิมนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย) ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขออภัยต่อเหตุการณ์ที่ สภ.ตากใบ เมื่อปี 2547 ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก โดยอ้างว่าตนเองมีความตั้งใจและห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานก็มีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้ามีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย นั้น
เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ถูกอุ้มหาย โพสต์เฟซบุ๊ก Angkhana Neelapaijit เนื้อหาระบุว่า ขออภัยตากใบ แล้วจะคืนศพคนที่ถูกอุ้มฆ่าให้ญาติไหม จะคืนความเป็นธรรมโดยนำคนผิดมาลงโทษไหม หรือแค่ขอโทษตอนหมดอายุความ #การบังคับสูญหายไม่มีอายุความ สิ่งที่เหยื่อต้องการคือ #ความจริงและความยุติธรรม
ด้าน นายรอมฎอน ปันจอร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวว่า การกล่าวคำขออภัยเช่นนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะคุณทักษิณเคยกล่าวถ้อยคำในลักษณะเช่นนี้มาแล้วในรายการสนทนาออนไลน์เมื่อวันครบรอบ 18 ปี เหตุการณ์ตากใบในปี 2565 ความจริงใจในการขอโทษ มี 2 องค์ประกอบหลัก คือ คำพูด และการกระทำ นอกจากนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่คุณทักษิณขอโทษ
นายรอมฎอน กล่าวว่า การกระทำของรัฐบาลยังสะท้อนความไม่จริงใจ เมื่อพิจารณาว่าเป็นคำกล่าวในช่วงที่อายุความของคดีตากใบสิ้นสุดลงในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา หรือผ่านมาแล้ว 4 เดือน ท่ามกลางคำถามที่ว่ารัฐบาลได้พยายามมากเพียงพอหรือไม่ที่จะโน้มน้าวให้จำเลยที่ประชาชนผู้เสียหายฟ้องร้องดำเนินคดีที่ศาลประทับรับฟ้องแล้วให้เดินทางไปเบิกตัวต่อศาล คำถามที่ว่านี้พุ่งตรงไปที่รัฐบาลปัจจุบัน เนื่องจากจำเลยคนสำคัญมีสถานะเป็น สส.ของพรรคเพื่อไทยเอง
“นอกจากนี้การที่คุณทักษิณพูดว่าเหตุการณ์ตากใบเป็นความผิดพลาดในการทำงาน ยังเป็นการลดทอนความสำคัญของรากเหง้าปัญหา แล้วยังเรียกร้องฝ่ายเดียวให้ประชาชนให้อภัย โดยไม่ได้พูดสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยว่ารัฐบาลจะทำอย่างไรให้เกิดสันติภาพในพื้นที่” นายรอมฎอน กล่าว
ฝ่าย นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์กล่าวถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไปนราธิวาสว่า นายทักษิณกล่าวขออภัยคนภาคใต้ในเหตุการณ์ตากใบเมื่อตุลาคม 2547 สมัยทักษิณเป็นนายกฯ แต่การพูดขออภัยแสดงถึงการหลีกเลี่ยงที่จะพูดขอโทษเพราะคำพูดขออภัย เป็นคำพูดสื่อสารในความผิดเล็กน้อยปกติ ซึ่งไม่ใช่กรณีเป็นต้นเหตุให้เกิดเหตุการณ์ตากใบ จนทำให้คนตายมากกว่า 78 คน ดังนั้น การขออภัยจึงสะท้อนถึงไม่สำนึกรับผิดชอบกับนโยบายที่ผิดพลาดรุนแรงถึงขั้นทำให้ประชาชนเสียชีวิต
“หากเปรียบเทียบกับพล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ (เป็นนายกฯ ปี 2550) ลงใต้ยังกล่าวขอโทษในนามรัฐบาลต่อเหตุการณ์ไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แต่วันนี้นายทักษิณ ลงใต้ ยิ่งปฎิเสธไม่ได้เลย เพราะชายแดนใต้ไม่สงบมาจากนโยบายสมัยทักษิณ เป็นนายกฯ ดังนั้น คำว่าขออภัยจึงมีความหมายที่เบากว่าคำว่าเสียใจ และคำพูดรับผิดชอบสูงสุดกับเหตุการณ์รุนแรงคือคำขอโทษ แต่ไม่ค่อยได้ยินหัวหน้ารัฐบาลที่เกี่ยวข้องกับนโยบายที่สร้างความเสียหายต่อชีวิตของประชาชนได้กล่าวขอโทษอย่างจริงออกมาเลย
“แล้วนายทักษิณกลับลงใต้กล่าวคำพูดแค่ขออภัย ซึ่งเป็นสิทธิ์ของนายทักษิณ และเป็นสิทธิ์ของคน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่สูญเสียในแต่ละเหตุการณ์จะได้ซึมซับกับคำพูดขออภัยที่แตกต่างจากคำขอโทษกับเหตุการณ์รุนแรงและชีวิตที่สูญเสียไป แม้เปลี่ยนแปลงไมได้แล้ว แต่ควรขอโทษอย่างจริงใจ ดังนั้น เราจึงมองกันคนละมิติ”นายจตุพร ย้ำ
นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ ข้องใจ”ทักษิณ“ เลือกใช้คำว่า “ขออภัย” ไม่ใช้คำ“ขอโทษ” เนื้อหาระบุว่า วันก่อนผมได้มีคำแนะนำถึงนายทักษิณ ชินวัตร ในโอกาสลงพื้นที่3จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งแรกในรอบ 20 ปีว่า ควรไปไถ่บาป สารภาพผิด และกล่าวคำขอโทษอย่างเป็นทางการ ต่อเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลของนายทักษิณ แต่ภาพข่าวที่เห็นเมื่อวานตอนนายทักษิณลงจากสนามบิน มีการจัดฉาก สร้างภาพนำมวลชนมามอบดอกกุหลาบ และต้อนรับนายทักษิณเป็นจำนวนมาก
ซึ่งทำให้ผมแปลกใจว่า 1.ทำไมนายทักษิณเลือกใช้คำว่า “ขออภัย” ไม่ใช้คำว่า“ขอโทษ”,2.ทำไมขออภัยเฉพาะเหตุการณ์ที่ตากใบ ซึ่งหมดอายุความไปแล้ว โดยไม่ได้นำผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเลย,3.ควรขอโทษต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 85 ศพที่ตากใบ หรือเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ หรือการปล้นปืนค่ายทหารปิเหล็ง ที่ปัตตานี ฯลฯ,4.ควรจะกล่าวคำขอโทษ หรือยอมรับผิดต่อความผิดพลาดทางนโยบายของรัฐบาลนายทักษิณ ซึ่งจะครอบคลุมเหตุการณ์ความรุนแรงได้ทั้งหมด
การที่นายทักษิณไม่ยอมขอโทษ และไม่ยอมรับผิดต่อความผิดพลาดของนโยบายดับไฟใต้ เพราะเป็นความผิดของตัวเองแต่การเลือกกล่าวคำขออภัยต่อเหตุการณ์ตากใบ เพราะเป็นความผิดของเจ้าหน้าที่ระดับผู้ปฎิบัติไม่ใช่ความผิดของรัฐบาล ซึ่งแสดงให้เห็นว่านายทักษิณยังไม่ยอมรับว่าตัวเอง คือสาเหตุของการเกิดความรุนแรงที่ลุกลามมาถึงปัจจุบันนี้
ผมขอบคุณนายทักษิณที่ได้กล่าวคำขออภัย แม้ว่าไม่ได้ใช้คำว่าขอโทษตามที่ผมได้แนะนำไว้ก็ตาม และสิ่งที่นายทักษิณประกาศกับพี่น้อง3จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จะแก้ไขปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นให้ได้ในรัฐบาลชุดนี้ ก็ต้องจับตาดูว่า เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาลนายทักษิณผู้เป็นพ่อ จะแก้ไขสำเร็จในรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ผู้เป็นลูก ตามคำประกาศหรือคุยไว้หรือไม่
วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัญ รองนายกฯและรมว.กลาโหม กล่าวว่า การลงพื้นที่ของนายทักษิณ ในฐานะเป็นที่ปรึกษาประธานอาเซียน ลงไปเพื่อไปรับทราบปัญหา และรับฟังความคิดเห็นของผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ซึ่งได้ไปหลายจุดทั้งชุมชนไทยพุทธและมุสลิม เพื่อต้องการสร้างสังคมพหุนิยม ให้อยู่ร่วมกันได้ ดังนั้น ปีนี้น่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจน จะมีทิศทางที่ดีขึ้น และปีหน้าจะหาทางจบเรื่องนี้ ซึ่งถือว่าเป็นแนวคิดที่ดีที่รัฐบาลจะต้องนำมาพิจารณา ในฐานะที่ตนรับผิดชอบงานภาคใต้ น่าจะหาทางออกได้
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า โดยนายทักษิณ เชื่อว่าเรื่องภาคใต้ จะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ซึ่งท่านทักษิณ ได้พูดความในใจไปแล้ว ในส่วนของตนและนายทวี ในฐานะที่รับผิดชอบของพื้นที่ ก็รับฟังปัญหา และนำไปแก้ไข และอาจจะต้องพูดคุยกับอีกหลายภาคส่วนในเร็ววันนี้ แต่เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ได้ พร้อมยืนยันว่ากระบวนการพูดคุยยังมีอยู่ เพียงแต่ไม่มั่นใจ ที่พูดคุยเป็นระดับไหน สามารถแก้ไขปัญหาได้หรือไม่ จึงอยากให้เดือนรอมฎอน เป็นตัวพิสูจน์ว่า ต้องไม่มีการก่อเหตุ หยุดสร้างความรุนแรง
ส่วนที่นายทักษิณ กล่าวว่า ปี 70 เรื่องของภาคใต้จะจบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เราเชื่อมั่นว่าปีนี้จะดีขึ้น ปีหน้าก็จะหาแนวทางจบเรื่องนี้ แต่จะเป็นอย่างไรนั้นต้องช่วยกันคิด ยังไม่สามารถตอบอะไรได้ เพียงแต่นี่คือความมุ่งมั่นและความมั่นใจที่จะทำงาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี