‘ภูมิธรรม’บอก ‘กกต.’เป็นคนชงเรื่องฮั้วเลือก สว.ให้ดีเอสไอสอบเป็นคดีพิเศษเอง โยน ‘เลขา กกต.’ แจงมูลเหตุให้ตรวจสอบ เพราะส่งมาต้องคิดว่ามีอะไร รับตกใจข้อหา รุนแรงระบุเรื่องอั้งยี่ซ่องโจร ลั่นบอร์ดคดีพิเศษ พิจารณาตามข้อเท็จจริง-กฎหมาย ไม่ได้หาเรื่องก่อนหวังกลั่นแกล้งทางการเมือง
เมื่อเวลา 08.55 น.วันที่25 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่วันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะประชุม คณะกรรมการพิเศษ (กคพ.) เพื่อพิจารณาว่าจะรับคดีเกี่ยวกับการฮั้ว เลือก สว. เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ในฐานะประธาน กคพ. มีความหนักใจหรือไม่ว่า ไม่หนักใจ เราทำตามหน้าที่ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ กกต.ส่งเรื่องมาให้ดีเอสไอ และเมื่อมีการส่งเรื่องมาดีเอสไอมีหน้าที่พิสูจน์ทราบว่ามีแนวโน้มจะเป็นอย่างไร หลังจากที่รวบรวมมาแล้ว ดีเอสไอก็รายงานมายังตนว่ามีข้อมูลที่น่าจะพิสูจน์ทราบได้ว่า น่าจะเป็นปัญหา
นายภูมิธรรมกล่าวต่อว่า ซึ่งก่อนที่จะนำเรื่องเข้ามา ตนมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนิติบัญญัติแห่งชาติ ถ้าเป็นเรื่องจริงขึ้นมาจะเสียหายต่อสถาบันหลักของชาติ ตนถึงมองว่าอย่าใช้อารมณ์หรือมองว่าเป็นความรู้สึกในการกลั่นแกล้งทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เรื่องนี้ต้องมีข้อเท็จจริงมารองรับอย่างชัดเจน และหากกฎหมายอนุญาตให้ดีเอสไอทำ จึงจะสามารถทำได้
“เมื่อส่งเรื่องมาที่ผม ผมตกใจเพราะข้อหาพูดถึงเรื่องอั้งยี่ซ่องโจร ผมจึงตั้งคำถามไปว่าใช้ข้อกล่าวหานี้ไม่รุนแรงไปใช่หรือไม่ เพราะเป็นคำพูดที่รุนแรง ซึ่งดีเอสไอระบุว่าเป็นคำพูดทางกฎหมายที่มีมานานแล้ว ข้อและเรื่องนี้เข้ากฎหมายข้อนั้นจึงต้องดำเนินการตามนั้น วันนี้ก็ต้องเอาข้อเท็จจริงทั้งหมดมาให้กรรมการฯดูให้ชัดเจน ถ้ากรรมการทั้งหมดดูแล้วเห็นว่าเป็นปัญหา ก็ต้องถามว่า ตามข้อกฎหมายเป็นอำนาจของดีเอสไอหรือไม่ ถ้าชัดเจนแล้วดีเอสไอก็จะเดินหน้าทำตามหน้าที่ โดยต้องโหวตให้ได้ 2ใน 3 หรือ 15 เสียง จาก 22 เสียง ใครไม่มา หรือหลบ หรือติดภารกิจก็ไม่นับ แต่ต้องได้ 15 เสียง”นายภูมิธรรมกล่าว
ส่วนการประชุมจะจบในวันนี้ หรือหากยังไม่ชัดเจนต้องต่อเวลาออกไป นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่คิดขอดูข้อเท็จจริงวันนี้ หากข้อเท็จจริงชัดก็เดินหน้า แต่หากจะมีอะไรขาดตกบกพร่องก็ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม แต่ทั้งหมดต้องขึ้นอยู่กับที่ ประชุม เพราะข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมายก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของที่ประชุมด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีที่สว.ระบุว่าจะฟ้องกลับมีความกังวลหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่าเราไม่ได้หวั่นไหวอะไรเราทำตามหน้าที่ หากฟ้องก็ต้องไปกกต. เพราะกกต.เป็นคนยื่นเรื่องมายังดีเอสไอ ถ้าดีเอสไอดูแล้วไม่มีมูลก็ตัดเรื่องนี้ทิ้งไป ซึ่งในข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงอยู่ที่มุมมอง เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่กรรมการทั้ง 22 คนต้องใช้ดุลยพินิจ ทั้งข้อ กฎหมายและข้อเท็จจริง ไม่เอาความชอบความเกลียดประเด็นทางการเมือง เข้ามาประกอบการตัดสินใจครั้งนี้
เมื่อถามย้ำถึงต้นตอของการตรวจสอบเรื่องนี้ มาจาก กกต. เป็นคนยื่นเรื่องใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องคือ กกต.ยื่นมา ส่วนไม่ได้รับเรื่องมาจาก สว. สำรองใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องไปถาม กกต. เพราะกกต. ส่งเรื่องให้ดีเอสไอ
ถามต่อว่าหากดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ และจบกระบวนการของดีเอสไอแล้วต้องส่งเรื่องไปที่ศาลใด นายภูมิธรรม กล่าว กฎหมายให้อำนาจดีเอสไอ หากพิจารณาแล้วก็ต้องยื่นศาลซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ และอัยการสูงสุดก็อยู่ในคณะกรรมการชุดนี้อยู่แล้ว ส่วนต้องยื่นไปที่ศาลอาญา หรือศาลอาญาคดีและทุจริตและประพฤติมิชอบ นายภูมิธรรม ระบุว่า แล้วแต่ประเด็นและข้อกฎหมาย
เมื่อถามว่าสังคมมองว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นทางการเมือง นายภูมิธรรมกล่าวว่า สังคมให้ความสนใจและรู้สึกว่าเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเรื่อง การเมืองตนไม่แน่ใจว่าสังคมรู้สึกแบบนั้นหรือไม่ แต่ที่สังคมให้ความสนใจและคิดว่าหากเป็นเรื่องจริง เป็นความเสียหายต่อประเทศชาติ
“ผมจึงได้กำชับว่าให้ดำเนินการตามข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายที่ชัดเจน ให้ทำตามหน้าที่โดยไม่ต้องคิดว่าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ใครทำผิดจริงก็ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องมานั่งปวดหัว เราพิจารณาเรื่องนี้ เราไม่ได้พิจารณาว่า สว. เป็นคนของพรรคภูมิใจไทย ผมยังไม่ทราบว่าใช่หรือไม่ใช่ ต้องให้พรรคภูมิใจไทยพูดหรือแสดงท่าทีออกมาว่าเป็นคนของพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าไม่มีการเมือง เรา ไม่ได้พิจารณาว่าเป็นการเมืองฝ่ายไหน“ นายภูมิธรรม ระบุ และว่า ส่วนต้องใช้เวลานานแค่ไหนนั้น ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
เมื่อถามว่า สว. มีความเป็นห่วงถึงการใช้กระบวนการของดีเอสไอ เข้ามาตรวจสอบอาจโดนการเมืองแทรกแซง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องไปดูที่ กกต. เป็นความรับผิดชอบของนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ที่ส่งเรื่องมาให้ดีเอสไอ เมื่อนายแสวง ส่งเรื่องมาก็ต้องคิดว่ามีเรื่องอะไรดีเอสไอตรวจสอบ
“นี่ผมเดานะไม่เช่นนั้นก็จะไม่ส่งเรื่องมาให้ดีเอสไอ ไม่ใช่ดีเอสไอไปหาคดีมาทำ คุณแสวงก็ต้องชี้แจง“ นายภูมิธรรม กล่าว
ถามว่าเรื่องนี้จะกระทบกับภาพรวมการทำงานของรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า ไม่กระทบเพราะการทำงานของรัฐบาลอยู่บนพื้นฐาน ความบริสุทธิ์และยุติธรรม และทำทุกอย่างตามกระบวนการของกฎหมาย ไม่ว่าพรรคไหน คนของพรรคใดกระทำความผิดก็ต้องรับผิดชอบ
ส่วนจะกระทบกับเสถียรภาพและความเชื่อมั่นของรัฐบาลหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องคิดว่าทุกคนมีสามัญสำนึกและจิตสำนึกที่ดีที่ถูกต้อง ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้วกระทบทางการเมือง ก็แสดงว่าการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของ สว. ถ้าคิดว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ไม่น่าจะมีอะไรเกิดขึ้น ถ้ารู้สึกว่าจะโดนพรรคนั้นพรรคนี้ ก็แสดงว่าพรรคนั้นมีส่วนเกี่ยวข้อง หรืออาจจะมีดุลยพินิจแบบนั้นก็ได้ขออย่าคิดไปไกลแบบนั้น เอาตามข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไรและการตัดสินใจทางกฎหมายถูกต้องหรือไม่
014
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี