‘คารม’ชี้‘คณะกรรมการคดีพิเศษ’เลื่อนพิจารณาปมตรวจสอบ‘ฮั้วเลือกสว.ปี67’ถูกต้องแล้ว เตือน 6 ข้อเสี่ยงทางกฎหมาย หากฝืนรับเป็นคดีพิเศษ ระวังจะสร้างปัญหาเป็น‘หนังอินเดีย’
26 กุมภาพันธ์ 2568 นายคารม พลพรกลาง สมาชิกพรรคภูมิใจไทย ในฐานะนักกฎหมาย และอดีต สส. กล่าวว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 25ก.พ.ที่ผ่านมา คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษได้มีการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) และได้มีมติให้เลื่อนการพิจารณาวาระดังกล่าวออกไปก่อน เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มาให้ข้อเท็จจริง เพื่อความชัดเจนในพิจารณารับหรือไม่รับเป็นคดีพิเศษ ว่า แม้ตนจะเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ก็ตาม แต่เป็นนักกฎหมาย และแสดงเหตุในเชิงกฎหมาย และขอย้ำว่า ไม่เกี่ยวกับพรรคภูมิใจไทย และไม่ได้แสดงความคิดเห็นในฐานะรองโฆษกรัฐบาล แต่จำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นในฐานะนักกฎหมายเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตีความกฎหมาย และอาจนำมาซึ่งความยุ่งยากและวุ่นวายทางการเมือง และตนเคยแสดงความคิดเห็นไปหลายครั้งแล้วว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไม่มีอำนาจดำเนินคดีหรือไม่มีอำนาจสอบสวนเรื่องนี้
นายคารม กล่าวต่อว่า ส่วนหลักการในเรื่องนี้คือกระบวนการที่ทำให้เกิดคดีอาญา เกิดจากกระบวนการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเรียกว่าสรรหา หรือคัดเลือก หรือเลือกตั้ง ก็คือการเลือกตั้ง ซึ่งการเลือกตั้งนั้นจะอย่างไรก็ตาม ก็ต้องมีการจัดการ มีการพูดคุย มีการหาพวก คนหาพวกได้มากที่สุด ก็จะได้รับการเลือกตั้ง ถือเป็นเรื่องปกติ แต่จะตีความว่าการที่มีพวกเยอะเป็น “การฮั้ว” ก็ไม่น่าใช่เสียทีเดียว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ ต้องชี้แจงให้ได้ว่า
1.ลักษณะเป็นความผิดฐานอั้งยี่หรือไม่
2.หากพิจารณาว่าเป็นความผิดฐานะอั้งยี่ แล้วความผิดนี้มาจากกระบวนการเลือกตั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีอำนาจรับหรือไม่
3.ถ้าหากจะรับแล้วจะหักล้างการรับรองการเลือกตั้ง สว.อย่างไร เพราะความผิดนี้เกิดจากกระบวนการเลือกตั้ง พิจารณาเบื้องต้นนอกจากจะต้องตีความว่าเป็นความผิดก็เป็นความผิดอาญาก่อนที่มีต้นเรื่องจากการเลือกตั้ง ความผิดใดๆที่เกี่ยวข้อง ก็ต้องอยู่ขบวนการเลือกตั้งนั้นเอง
4.ใน พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ได้บัญญัติเกี่ยวกับการเลือก สว. เกี่ยวกับความผิดฐานฟอกเงินไว้ด้วย แต่ทำไมไม่ระบุฐานความผิดฐานอั้งยี่ในพ.ร.บ,คดีพิเศษฯ
5.การที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ อ้างว่าการเลือกเป็นอั้งยี่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ จะรับเป็นคดีพิเศษ จะทำได้ไหม
6.ถ้ารับไปคนที่ลงมติไปจะมีปัญหา ว่าปฏิบัติหน้าที่ชอบไหม เพราะคดีพิเศษตาม พ.ร.บ.กรมสอบสวนคดีพิเศษมีสองอย่าง คือคดีพิเศษโดยแท้ ตามบัญชีแนบท้ายพ.ร.บ. กับคดีพิเศษ ที่ กคพ.มีมติให้รับ ถ้ามีมติให้รับโดยขาดหลักการเท่ากับมีการขยายความคดีพิเศษ แต่คดีอาญานั้น หลักการห้ามขยายความและขยายอำนาจของคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ
“เพราะฉะนั้นการที่คณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ ได้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไป จึงถูกต้องและถ้าจะให้ถูกต้องและปลอดภัย ต้องมีมติไม่รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษ ไม่อย่างนั้นปัญหานี้จะเป็นหนังอินเดียไม่ใช่หนังจีน เพราะหนังอินเดียยาวกว่าหนังจีน” นายคารม กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี