'คกก.ความปลอดภัยทางถนน'ขยับ! จ่อถกเคส'รถบัสบึงกาฬ'คว่ำ 28 ก.พ.นี้ ด้าน'นิกร'ชงเพิ่มวงเงินประกันภัยเยียวยาผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ ชี้'รถหมวด 30'เสี่ยงสูง-ตรวจสอบยาก พบถนนสาย 304 ปราจีนบุรี เกิดอุบัติเหตุใหญ่ปีเดียว 10 ครั้ง
เมื่อวันที่ 26 ก.พ.2568 ที่รัฐสภา นายนิกร จำนง ที่ปรึกษาคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกัน และลดอุบัติเหตุทางถนนของรัฐสภา และประธานคณะอนุกรรมการ ด้านประสานงานบริหารจัดการรณรงค์ และประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการป้องกันอุบัติเหตุ แถลงแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์รถบัสศึกษาดูงานของเทศบาลบึงกาฬพลิกคว่ำบนถนนสาย 304 บริเวณเขาศาลปู่โทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ว่า คณะกรรมการฯ ให้ความสำคัญกับกรณีดังกล่าว เนื่องจากเป็นการเกิดอุบัติเหตุของรถโดยสารไม่ประจำทาง หมวด 30 ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกัน คือ กรณีไฟไหม้รถบัสนักเรียนจาก จ.อุทัยธานี
นายนิกร กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ได้มีการศึกษากรณีนี้ และเสนอแนวทางเชิงนโยบายไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัย สำหรับเหตุการณ์นี้นั้น คณะอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐาน และยานพาหนะ ซึ่งมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย อดีต สว. เป็นประธาน จะนำเรื่องนี้เข้าพิจารณาในคณะอนุกรรมการในวันศุกร์นี้ (28 ก.พ.2568) เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุ ว่าเกิดจากตัวผู้ขับขี่ สภาพรถ หรือเส้นทางคมนาคมที่ไม่ปลอดภัย ก่อนเสนอข้อสรุปต่อคณะกรรมการชุดใหญ่
นายนิกร กล่าวต่อว่า จากประสบการณ์ด้านคมนาคมของตนที่มีมากกว่า 20 ปี มองว่ารถโดยสารหมวด 30 มีความปลอดภัยต่ำมาก เนื่องจากไม่ใช่รถที่วิ่งประจำทาง ทำให้การตรวจสอบด้านความปลอดภัยเป็นไปได้ยาก รวมถึงการควบคุมความเร็วของรถกลุ่มนี้ ก็ติดตามได้ยากกว่า นอกจากนี้ในช่วงหลังพบอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับรถบัสโดยสารสองชั้น และรถตู้โดยสารหมวด 30 เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ การขับขี่ ความเร็ว และการเดินทางในพื้นที่เสี่ยงภัย อย่างเช่นในถนนสาย 304 เป็นเส้นทางที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง โดยในปี 2567 ที่จากการตรวจสอบเบื้องต้นเกิดอุบัติเหตุใหญ่ เกือบ 10 เคส นอกจากนี้ ยังมีถนนเสี่ยงอีกหลายเส้นทาง แต่ปัจจุบันมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ ยังอยู่ในระดับขอความร่วมมือเท่านั้น ไม่มีสภาพบังคับที่ชัดเจน
“เรื่องความปลอดภัยทางถนนต้องใช้เวลาในการปรับปรุง แต่การเยียวยาผู้ประสบเหตุไม่สามารถรอได้ ที่ผ่านมาได้หารือกับนายชูฉัตร ประมูลผล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) ซึ่งกำลังพิจารณาถึงแนวทางการเพิ่มวงเงินประกันภัยให้เหมาะสมแก่เหตุ เนื่องจากปัจจุบันวงเงินประกันภัยอยู่ที่ 10 ล้านบาท โดยแบ่งเยียวยาผู้เสียชีวิตเพียง 500,000 บาท ซึ่งตนมองว่าน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น เช่น กรณีนี้ที่มีผู้เสียชีวิตถึง 18 คน และยังมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก หากคำนวณเงินเยียวยาต่อรายจะไม่เพียงพอต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ดังนั้นต้องมีการขยายวงเงินประกันภัยให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เพื่อให้เกิดความระมัดระวังจากผู้ประกอบการ และช่วยเหลือครอบครัว ของผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บได้อย่างเหมาะสม” นายนิกร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี