‘นายกรัฐมนตรี’เข้าสภาฯ เปิดซิงร่ายผลงานตอบกระทู้สางปัญหา‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ ให้คำมั่นกวาดล้างเด็ดขาด‘ไม่จบไม่เลิก’
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม
ระหว่างการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจาของนายณัฐพงศ์ เปรมพูลสวัสดิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน สอบถามนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เรื่องบ้านเพื่อคนไทยนั้นปรากฏว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้ามาในห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร มานั่งบนที่นั่งครม.ที่จะมาตอบกระทู้
เมื่อนายสุรพงษ์ตอบกระทู้สดเสร็จสิ้น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ขอหารือในห้องประชุมว่า ขอบคุณที่นายกฯสละเวลามาในสภาผู้แทนราษฎร ขอหารือไปยังนายกฯว่าต่อไปจะเป็นกระทู้ถามสดของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ต่อด้วยกระทู้ถามทั่วไป ของนายภูริวรรธก์ ใจสำราญ สส.กทม. พรรคประชาชน เรื่องแนวทางแก้ปัญหาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย ที่จะสอบถามนายกฯ แต่มอบให้น.ส.สุดาวรรณ หวังสุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม มาชี้แจงแทน อยากฝากนายกฯว่าหากนายกฯอยู่ในสภาฯแล้วพร้อมที่จะตอบกระทู้ จะเป็นไปได้หรือไม่ที่จะสลับคิวนำกระทู้ถามทั่วไปขึ้นมาก่อนกระทู้ถามสด เพื่อให้นายกฯมาตอบกระทู้ทั่วไปของนายภูริวรรธก์ก่อน
ระหว่างนั้นนายกรัฐมนตรีได้นั่งยิ้ม แต่นายพิเชษฐ์ รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม ให้ดำเนินการประชุมตามวาระปกติคือ พิจารณากระทู้ถามสดก่อน
ต่อมาเวลา 12.00น. นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ตั้งกระทู้ถามสดสอบถามนายกรัฐมนตรี ถึงการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอาชญากรรมออนไลน์ข้ามชาติ ซึ่งเดิมนายกฯมอบให้นายประเสริฐจันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ชี้แจงแทน แต่ภายหลังเปลี่ยนใจเดินทางมาฟังกระทู้ถามสดที่ห้องประชุมสภาฯ จึงลุกขึ้นมาตอบกระทู้ถามสดของนายอัครเดชด้วยตัวเอง ถือเป็นครั้งแรกที่น.ส.แพทองธารมาตอบกระทู้สดในสภาฯ
น.ส.แพทองธาร ระบุว่า รัฐบาลจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์แก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รับแจ้งเหตุ 24ชั่วโมง เพื่อระงับความเสียหาย มีการปิดบัญชีม้าไป 1.92ล้านบัญชี การยกร่างพ.ร.ก.ปราบ ปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พร้อมกำชับหน่วยงานความมั่นคงซีลพื้นที่ชายแดน แก้ปัญหาเข้มข้น จับกุมขบวนการค้ามนุษย์ที่ผ่านแดนไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำลายแหล่งส่งสัญญาณอินเตอร์เน็ตผิดกฎหมายส่วนผู้ต้องสงสัยที่จับได้จะคัดกรองและส่งตัวดำเนินการตามกฎหมาย โดยเฉพาะการแก้ปัญหาที่ได้ผลคือ การตัดไฟและหยุดส่งน้ำมัน ได้สั่งการทันที ทำให้ปัญหาลดลง ถือว่ารัฐบาลได้รับความร่วมมือ และมีผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ จนมีการขนย้ายอุปกรณ์และคนออกจากพื้นที่ทำการของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติ
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ขณะที่การควบคุมซิมม้า จะสั่งการให้กสทช. และกระทรวงดีอีรับไปดำเนินการ ในวันที่28 ก.พ. ตนจะไปเดินทางไปจ.สระแก้ว เพื่อติดตามสิ่งที่สั่งการ อาทิ การลดเสาส่งสัญญาณอินเตอร์เนต ปราบปรามซิมบ็อกซ์ระงับไวไฟคอลลิ่งจากประเทศเพื่อนบ้าน จัดระเบียบผู้ซื้อผู้ให้บริการไลน์เซ่นส์โทรคมนาคม ที่ผ่านมาเกิดความเสียหาย 100 ล้านบาทต่อวัน แต่ตอนนี้เหลือ 50 ล้านบาทต่อวัน ถือว่ายังมากอยู่ แต่ตั้งใจจะให้ตัวเลขลดลงเรื่อยๆ หากได้รับความร่วมมืออย่างบูรณการแบบนี้ เชื่อมั่นว่า คอลเซ็นเตอร์จะต้องหมดจากประเทศไทยในเร็ววันนี้อย่างแน่นอนส่วนผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ทราบดีถึงการมีผู้มีอิทธิพลชื่อดังๆ ที่มีข่าวลือออกมาทั้ง นักการเมือง นายทุน ข้าราชการ
“ขอให้คำมั่นสัญญากับสภาฯว่า จะจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง ให้ทุกคนมั่นใจว่า ไม่ว่าใครก็ตาม ตำแหน่งสูงใหญ่ ถ้าทำผิดเรื่องนี้ ทำให้คนไทยเดือดร้อน ดิฉันจะจัดการอย่างเด็ดขาด มั่นใจว่า จะทำได้อย่างเต็มที่แน่นอน พูดไปหลายที่แล้ว เป็นนายกฯของคนไทย ต้องดูแลคนไทยก่อนคือ สิ่งสำคัญที่สุด เรื่องคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด ให้ทุกคนมั่นใจว่ารัฐบาลไม่จบไม่เลิกแน่นอน” น.ส.แพทองธาร กล่าว
ทั้งนี้ หลังจากที่นายกฯ ชี้แจงจบ มีเสียงปรบมือจากสส.ที่แสดงความชื่นชมด้วย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี