‘อิ๊งค์’อ่วม!ฝ่ายค้านยื่นซักฟอกคนเดียว
ซดขาดภาวะผู้นํา
ปล่อยให้‘พ่อ’ชักนำบริหาร
‘เท้ง’หวังผลถึงขั้นยุบสภา
นายกฯโวพร้อมตอบทุกข้อ
เสียงอ่อยต้องตั้ง‘องครักษ์’
ตามคาด! “พรรคฝ่ายค้าน” เข้าชื่อ 166 สส.ยื่นญัตติ“ซักฟอก”ล็อกเป้า“นายกฯอิ๊งค์”เพียงคนเดียว ข้อกล่าวหาแรงขาดภาวะผู้นำ ปล่อยให้“พ่อ”ชักนำ-จูงใจมีส่วนช่วยบริหารประเทศยันพูดโยง“ทักษิณ”ได้ญัตติเขียนชัด ตั้งใจพุ่งเป้านายกฯ
โวรอดูความเข้มข้นเนื้อหาวันอภิปราย แย้มหลักฐานคอร์รัปชั่น หวังผลถึงขั้นยุบสภาเปิดญัตติซักฟอกคลุมทุกประเด็น ฉะยินยอมให้‘พ่อ’ชักนำ-จูงใจบริหารประเทศย้อนต้นตอตั้งแต่‘จัดตั้งรัฐบาล-ขาดภาวะผู้นำ-โกง’ นายกฯ‘อิ๊งค์’ยันไม่เกินคาดหมายรุมซักฟอกคนเดียว โวพร้อมตอบทุกข้อ รับต้องมี‘องครักษ์’ช่วย แจงคนเดียวคอแห้ง เผยพรรคร่วมฯพร้อมหนุนส่งข้อความขอความช่วยเหลือไปแล้ว ลั่น‘ทักษิณ’ไม่โดดป้อง แค่ขอคำปรึกษา-กำลังใจแน่นอน‘ปธ.สภาฯ’คิกออฟ24มีนาคม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 กุมภาพันธ์2568 ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพร้อมส.ส.ฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151 ต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ฝ่ายค้าน166สส.ยื่นซักฟอก‘อิ๊งค์’
โดย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านได้ลงรายชื่อ 166 คน ประกอบด้วยพรรคประชาชน 143 คน , พรรคเป็นธรรม 1 คน , พรรคพลังประชารัฐ 19 คน และพรรคไทยสร้างไทย 3 คน ซึ่งพรรคร่วมฝ่ายค้านขออภิปรายนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่เพียงผู้เดียว
โดยเนื้อหาในการอภิปรายจะครอบคลุมทุกประเด็น หลายกระทรวง หลายพรรคร่วมรัฐบาล เราเชื่อว่าปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดินเกิดขึ้นจากการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้วที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีขาดภาวะผู้นำ ไม่สามารถควบคุมเสียงของพรรคร่วมรัฐบาลได้ ขาดวุฒิภาวะขาดความรู้ความสามารถ มีการแต่งตั้งบุคคลที่เขาขอมา มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ยอมให้ผู้ใต้บังคับบัญชามีอำนาจเหนือตนเอง รวมถึงยินยอมให้ผู้เป็นบิดาสามารถชักนำ จูงใจ มีส่วนให้บริหารราชการแผ่นดินได้ เราเชื่อว่าทุกปัญหาเกิดจากนายกรัฐมนตรี เราเห็นว่าไม่มีประโยชน์ที่จะอภิปรายรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล เพราะปัญหาทั้งหมดอยู่ที่รัฐมนตรีเพียงผู้เดียว และต้องตอบชี้แจงด้วยตนเองเท่านั้น
วันนอร์คิกออฟ24มี.ค.ศึกซักฟอก
ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่าตนจะนำญัตตินี้ไปตรวจสอบตามระเบียบข้อบังคับ จากนั้นจะส่งญัตติไปให้รัฐบาลเพื่อให้รัฐบาลแจ้งมาว่าพร้อมเมื่อไหร่แต่ทางรัฐบาลได้แจ้งไว้แล้วว่าพร้อมให้อภิปรายในวันที่ 24 มี.ค. ส่วนจะใช้เวลาอย่างไร เป็นเรื่องที่ผู้นำฝ่ายค้านฯและฝ่ายรัฐบาลต้องไปตกลงกัน โดยตนมอบหมายให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯคนที่ 1เป็นประธานในที่ประชุม ตนหวังว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะเป็นไปได้ด้วยดีและเป็นประโยชน์กับประชาชน
ยันตั้งใจพุ่งเป้านายกฯปัดข้อมูลรั่ว
จากนั้น เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนสอบถาม นายณัฐพงษ์ยืนยันว่า เราตั้งใจอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวตั้งแต่แรก ส่วนกระแสข่าวที่มีข้อสอบรั่ว ก็เป็นเพียงกระแสข่าว ไม่ใช่ข้อเท็จจริงส่วนตัวญัตติที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้เป็นเฟคนิวส์หรือไม่ ตนไม่แน่ใจว่าทางผู้สื่อข่าวได้ข้อมูลมาจากไหน แต่ขณะนี้ข้อเท็จจริง ก็เปิดเผยตามที่เรายื่นญัตติ
เมื่อถามว่าไม่กล้าอภิปรายพรรคร่วมรัฐบาลเพราะเขาส่งข้อมูลให้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นการวิเคราะห์ทางการเมือง ไม่ว่าเราจะดำเนินการอย่างไรก็จะมีการวิเคราะห์อีกด้านเสมอ ขอให้ติดตามเนื้อหาในการอภิปราย เพียงแต่ว่าการลงมติ เราลงแค่นายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว
มั่นใจข้อมูลชัดเน้นเชือดนายกฯ
เมื่อถามว่าอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียวจะกว้างออกทะเลไปหรือไม่ และมั่นใจในผู้อภิปรายว่าจะเอาอยู่หรือ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าอยากให้ติดตาม เป็นประเด็นที่เจาะจง มีหลักฐานค่อนข้างชี้ชัด ส่วนการลงมติไม่ไว้วางใจนายกฯเพียงคนเดียวจะเป็นสิ่งที่อยากให้ประชาชนได้เห็นปัญหาของรัฐบาลชุดนี้ตนเชื่อมั่นใจพรรคร่วมฝ่ายค้านที่เตรียมเนื้อหามาเป็นอย่างดีรวมถึงพรรคประชาชนเตรียมเนื้อหามาอย่างดีเยี่ยมเช่นเดียวกัน
เมื่อถามว่าจะต้องถึงขั้นยื่นถอดถอนนายกฯหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่าโดยกระบวนการปกติของสภาฯ จะลงมติไม่ไว้วางใจก่อน แต่แน่นอนว่าทุกครั้งสามารถดำเนินการอื่นๆได้เช่นกรณีที่อดีตพรรคก้าวไกลยื่นถอดถอนนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ อดีต รมว.คมนาคม
ชี้พูดโยง‘แม้ว’ได้เขียนไว้ญัตติ
ส่วนการอภิปรายนายกฯเพียงคนเดียวจะกลายเป็นคู่ขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า หากดูที่ตัวเนื้อหาในญัตติค่อนข้างครอบคลุมในหลายประเด็น หากตามกรอบญัตติ สะท้อนปัญหาทุกอย่างของรัฐบาลและอภิปรายได้ครอบคลุมแน่นอน การลงมติจะพุ่งเป้าไปที่นายกฯ ส่วนประเด็นการเมืองที่เราจะไปขัดแย้งกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้นไม่อยากให้มองเช่นนั้น เราตรวจสอบทุกอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อถามถึงการเอ่ยชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะผิดข้อบังคับหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในตัวญัตติมีการเขียนเอาไว้อย่างชัดเจน เรื่องนี้อยู่ที่ประธานสภาฯเอง เมื่อพิจารณาญัตติแล้ว ตนเชื่อว่าไม่ได้ขัดข้อบังคับแต่อย่างใด ถ้าบรรจุญัตติได้ตามนี้ แปลว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจสามารถพูดถึงนายทักษิณได้ เพราะเป็นปัญหาสำคัญของประเทศในปัจจุบัน
โวซักฟอกหวังผลถึงยุบสภา
เมื่อถามว่าหวังผลถึงขนาดยุบสภาฯเลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในอดีตก็เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งตนไม่สามารถตอบแทนรัฐบาลได้ แต่เชื่อว่าเนื้อหาที่เราเตรียมมา เข้มข้นและพุ่งเป้าไปที่รัฐมนตรีหลายคน รวมถึงนายกรัฐมนตรีเอง ส่วนมีข้อมูลชี้ชัดถึงการทุจริตคอรร์รัปชันเลยหรือไม่ ตนมีหลักฐานที่ชี้ชัดให้เห็นถึงการขาดคุณสมบัติของนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่าการอภิปรายนายกฯคนเดียวแบบนี้เป็นการกตัญญูต่อพรรคร่วมฯเลยไม่ซักฟอกหรือไม่นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน พรรคร่วมฝ่ายค้านเรามองที่เนื้อหาเป็นหลัก แต่ที่ตัดสินใจยื่นอภิปรายนายกฯเพียงคนเดียวเพราะรากเหง้าปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาลมาจากนายกฯก่อนที่จะตัดสินว่ามีการต่อรองกันระหว่างฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลในการแลกเนื้อหาจนทำให้เราไม่สามารถอภิปรายพรรคร่วมรัฐบาลได้อยากให้มองที่เนื้อหาว่าเราดำเนินการทุกอย่างอย่างตรงไปตรงมา ทั้งนี้ขอให้รอดูคนที่อภิปรายต่อไปว่าเนื้อหาจะเข้มข้นแค่ไหน
‘โรม’โวจัดเต็มเข้มข้น ดุเดือด
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ ยืนยันว่าเรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ เราจัดเต็มแน่นอน เราเตรียมข้อมูลมาเป็นอย่างดี ดีกว่าหลายครั้ง การทำหน้าที่ของเราคิดว่าข้อมูลหลายอย่างที่ได้รับมาจากหลายทิศทางจะช่วยทำให้เราสามารถอภิปรายไม่ไว้วางใจได้อย่างเข้มข้น บางเรื่องประชาชนอาจเดาได้ แต่เป้าที่เราได้จะมีความชัดขึ้นจึงทำให้การอภิปรายครั้งนี้เข้มข้นดุเดือดสมกับที่ประชาชนรอคอย และไม่ใช่แค่ความดุเดือดในเนื้อหา แต่ตนคิดว่าคือความร้ายแรงที่ประเทศเราต้องแบกรับภาระด้วย
ญัตติฉะอิ๊งค์ขาดภาวะผู้นำ-ความรู้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเนื้อหาของญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 โดยขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีระบุว่าอาศัยอำนาจตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พวกข้าพเจ้าซึ่งมีจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร ผู้มีรายนามท้ายญัตตินี้ ขอเสนอญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
พวกข้าพเจ้าเห็นว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้อีกต่อไป เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติและไม่มีความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายบริหารด้วยประการทั้งปวง ทั้งขาดภาวะผู้นำ ขาดวุฒิภาวะ ขาดความรู้ความสามารถ และขาดเจตจำนงในการบริหารราชการแผ่นดินที่จะแก้ปัญหาให้แก่ประเทศชาติและประชาชนส่งผลให้ทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประเทศชาติ จงใจลอยตัวอยู่เหนือปัญหาและไม่มีความรับผิดชอบต่อตำแหน่งหน้าที่ เพียงเพราะเห็นแก่ผลประโยชน์ของตนเอง บิดา ครอบครัวและพวกพ้องเป็นตัวตั้ง อยู่เหนือผลประโยชน์ของส่วนรวม
ไม่ซื่อสัตย์สุจริต/บริหารล้มเหลว
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ยังไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีพฤติการณ์เอาเปรียบประชาชน เอาเปรียบสังคม โกหกหลอกลวง ไม่ดำเนินการตามนโยบายที่ให้สัญญาไว้กับประชาชน เป็นนั่งร้านช่วยเหลือต่างตอบแทนกลุ่มบุคคลที่เป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย บริหารบ้านเมืองผิดพลาด ล้มเหลวอย่างร้ายแรง ทั้งในด้านการเมือง การปฏิรูปกองทัพ ความมั่นคง เศรษฐกิจ คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม ทำลายนิติรัฐ ทำลายระบอบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา เจตนา ตลอดจนปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นภายใต้การบริหารงานของตนเอง ทั้งยังทุจริตเชิงนโยบาย บริหารบ้านเมืองเพื่อเอื้อผลประโยชน์แก่พวกพ้องและกลุ่มทุน แต่งตั้งบุคคลที่ขาดความเหมาะสม ขาดความรู้ความสามารถ หรือไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไปเป็นรัฐมนตรีหรือตำแหน่งสำคัญอื่น
ยินยอม‘พ่อ’ชักนำ-จูงใจบริหารปท.
นอกจากนี้ ยังสมัครใจ ยินยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดา ชี้นำ ชักใย ให้กระทำการหรืองดเว้นกระทำการอันเป็นเรื่องสำคัญของชาติบ้านเมือง ประพฤติตนเป็นเสมือนนายกรัฐมนตรีหุ่นเชิด โดยมีบิดาเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้อำนาจ จากพฤติการณ์ดังที่พวกข้าพเจ้าได้กล่าวมา หากปล่อยให้บุคคลดังกล่าวยังคงบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไป ย่อมนำมาซึ่งความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ยากจะแก้ไขเยียวยาได้ จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดบรรจุญัตตินี้ให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาโดยด่วน ส่วนเหตุผลและรายละเอียดต่างๆจะได้แถลงและชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านได้ยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบรัฐมนตรีอีก 9 คนด้วย
‘อิ๊งค์’ชี้ไม่เกินคาด/ล็อกเป้าคนเดียว
ต่อมา เวลา10.47 น.ที่อาคารรัฐสภา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์ถึงการเดินทางเข้ารัฐสภาเป็นครั้งแรกหลังช่วงเช้า พรรคร่วมฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจน.ส.แพทองธาร นายกฯเพียงคนเดียวว่าก็ทราบข่าวเมื่อวันที่ 26 ก.พ.แต่ความจริงวางแพลนที่จะเข้าสภาฯวางไว้แล้วตั้งแต่ช่วงปีใหม่ โดยได้จิ้มวันที่เอาไว้แล้วว่าจะเข้าวันไหน แต่เป็นเรื่องบังเอิญที่เขาออกข่าวมาเมื่อวาน เราก็ต้องดูในเรื่องของภารกิจด้วยก็จะหาวันเข้าให้ได้ถือเป็นฤกษ์งามยามดี
นายกฯระบุว่าไม่เกินความคาดหมายที่ฝ่ายค้านพุ่งเป้าใหญ่นายกฯเพียงป้ายเดียวเป็นสิทธิของฝ่ายค้านและก็พูดคุยกันอยู่แล้วว่าอาจจะเป็นแบบนี้ซึ่งในวันที่ไปทานข้าวพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีรายชื่อออกมาก่อนเป็น10 ท่านก็รับทราบตามนั้น
พร้อมตอบทุกข้อ/ต้องมีองครักษ์ช่วย
ผู้สื่อข่าวตอบว่าญัตติที่ฝ่ายค้านยื่นระบุว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ นายกฯกล่าวว่า“ใช่ ตอบได้ทุกข้อ และถ้าอันไหนเกี่ยวกับกระทรวงไหนมีรายละเอียดลงมาก็คงให้รัฐมนตรีกระทรวงนั้นช่วยกันตอบ แต่ถ้าเป็นภาพรวมอยู่แล้วที่ถามก็พร้อมตอบอยู่แล้ว”เมื่อถามอีกว่ามีการโยงไปถึงเรื่องการเป็นนั่งร้านให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯบิดานายกฯกล่าวว่า“ก็เตรียมตอบ สิ่งที่ถามมาก็เตรียมตอบเท่านั้นเอง”
เมื่อถามย้ำว่ามั่นใจหรือไม่ว่าสามารถตอบได้ทุกข้อกล่าวหา นายกฯกล่าวว่า“ตอบได้อยู่แล้ว แต่จะชอบคำตอบหรือเปล่าไม่ทราบ”เมื่อถามอีกว่าจะต้องมีการตั้งองครักษ์ขึ้นมาช่วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า“มีค่ะ ตั้งแน่ ทุกคนต้องช่วยกัน คนเดียวอาจจะคอแห้งนิดนึง”ก่อนหัวเราะ
เชื่อพรรคร่วมฯไม่ลอยแพ/พร้อมหนุน
เมื่อถามอีกว่าใครจะเป็นหัวหน้าองครักษ์ให้นายกฯน.ส.แพทองธาร กล่าวว่าไม่หรอกค่ะที่เราพูดคุยกันในพรรคร่วมรัฐบาลถ้าเกี่ยวข้องกับกระทรวงของตัวเอง ตนเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าทุกกระทรวงอยากตอบ เพราะมันเป็นผลงานของเขา เขาอยากตอบแน่ และอื่นๆต้องรอหน้างาน ตนไม่ทราบเหมือนกันว่าจะออกมาอย่างไร คิดว่าจริงๆตั๋วฝั่งทุกๆท่าน หน้างานอาจจะมีอีกหลายแบบที่เกิดขึ้น
เมื่อถามย้ำว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่น่าจะปล่อยลอยแพใช่หรือไม่เพราะมีแค่เพียงชื่อเดียวที่ถูกอภิปราย นายกฯ กล่าวว่า พรรคร่วมรัฐบาลไม่ปล่อยลอยแพ ได้ส่งข้อความไปขอความช่วยเหลือจากทุกคนแล้วว่ามือใหม่ยังไม่เคยโดนอภิปรายมาก่อน ซึ่งทุกคนพร้อมที่จะสนับสนุนอันนี้เป็นสิ่งที่เป็นกำลังใจ แน่นอนว่าพรรคร่วมรัฐบาลเราได้พูดคุยน้อยกว่าพรรคตัวเองอยู่แล้ว แต่พอมีโอกาสได้คุย ได้รับการสนับสนุน ความอบอุ่น ความน่ารักจากหัวหน้าพรรคทุกท่านก็ถือเป็นกำลังใจมาก
ไม่กังวลซักฟอกมุ่งถล่มเป้าพ่อแม้ว
เมื่อถามย้ำว่าข้อกล่าวหาที่จะพุ่งเป้าไปที่นายทักษิณกังวลอะไรบ้างหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า“ไม่เลยค่ะก็ไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย ก็แน่นอนว่าไม่ว่าจากพูดอะไรอย่างนั้น อย่างนี้ ถ้าจะถามว่ากระทบต่ออะไรบ้าง ถ้าเราไม่มีหลักยึดเช่นในเรื่องของกฎหมายมันก็จะแย่ แต่ถ้ามีหลักยึดแล้วว่ามันเป็นไปตามกฎหมาย ก็โอเค พร้อมตอบอยู่แล้ว”เมื่อถามอีกว่านายทักษิณจะเป็นหัวหน้าองครักษ์พิทักษ์นายกเองหรือไม่ น.ส.แพรทองธาร กล่าวว่า “โอ๊ย! ไม่แล้วค่ะ ท่านทักษิณจะมาเป็นองครักษ์คงไม่ใช่เรื่องมาตอบในสภา ท่านจะตอบคำถามเมื่อเราถามและเมื่อเราอยากทราบว่าถ้าเป็นพ่อจะทำอย่างไรเดินอย่างไร ขอคำปรึกษาอันนั้นให้อยู่แล้ว100%”
เมื่อถามต่อว่าที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติไปเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้นายทักษิณได้ให้กำลังใจอย่างไรบ้าง นายกฯ กล่าวว่า ท่านโทรศัพท์มาตั้งแต่เช้าแต่ยังไม่ได้รับสาย พอโทรกลับไปท่านก็ยังไม่ได้รับ ไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะวันนี้ยังไม่ได้คุยกันเลยเมื่อถามว่าจะขอคำแนะนำหรือไม่ นายกฯกล่าวว่าขอคำแนะนำเดี๋ยวรอดู ก็อาจจะขอเป็นธรรมดา แต่ขอกำลังใจขอแน่นอน
อ้อนถูกซักฟอกครั้งแรกขอช่วยตอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในการรับประทานอาหารค่ำดินเนอร์ร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล เมื่อวันที่ 25ก.พ.ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยกันถึงการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรวมถึงพูดคุยกันถึงประเด็นที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกมาอภิปราย เช่น เรื่องการแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยเฉพาะเรื่องกาสิโน MOU 44 เรื่องโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ไม่ตรงปก ฝุ่น PM2.5 และตัวรัฐมนตรี 10 คนที่จะถูกอภิปรายด้วย
โดยนายกฯกล่าวในวงกินข้าวกับพรรคร่วมรัฐบาลว่าเป็นครั้งแรกของตนในการถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจก็ขอให้ทุกคนช่วยกันตอบ และขอให้ทุกคนทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
ไม่ขัด‘ทักษิณ’ตั้ง‘วอร์รูม’รับมือ
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะเข้ามาตั้งวอร์รูมเพื่อแถลงตอบโต้หากเกิดกรณีที่ถูกพาดพิงนั้นว่า การอภิปราย เป็นเรื่องระหว่าง สส. และรัฐมนตรีเท่านั้น ส่วนการตั้งวอร์รูม เป็นเรื่องของแต่ละพรรคไปอย่างไรก็ต้องว่ากันตามกฎหมาย และข้อบังคับ สิ่งสำคัญ คือ หากมีการพาดพิงถึงบุคคลภายนอก เขาก็สามารถดำเนินคดีได้
ส่วนหากการอภิปรายนายกฯเพียงคนเดียวกังวลจะมีการบานปลายไปถึงครอบครัวหรือบุคคลคนภายนอกมากน้อยแค่ไหน ประธานสภาผู้แทนฯกล่าวว่ามีกติกาอยู่แล้วว่าไปตามข้อบังคับและข้อกฎหมาย ปัจจุบันประชาชนมีความรู้เรื่องการเมืองมากขึ้น เขาก็จะชั่งน้ำหนักกันเอาเองว่าการอภิปรายสมเหตุสมผลอย่างไรและประชาชนจะเป็นคนตัดสินเอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี