“มาริษ”ทำสื่อไทย-เทศงงหนัก เผยชิ่งทันที หลังแถลงไตรภาคี “ไทย-จีน-เมียนมา”แก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ คาดเลี่ยงตอบปมส่งอุยกูร์กลับจีน
28 ก.พ.68 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวภายหลังเป็นประธานในการประชุมระดับรัฐมนตรี 3 ฝ่าย ระหว่างไทย-เมียนมา-จีน เพื่อประสานงานการปราบปรามการหลอกลวงทางโทรคมนาคมว่า การประชุมวันนี้มีนายหลิว จงอี ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และนายอ่อง จอจอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเมียนมา โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยดี มีการแลกเปลี่ยนความเห็น และมีการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมา เพื่อแก้ไขปัญหา ที่มีผลกระทบให้เป็นรูปธรรม
นายมาริษ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ถือเป็นความพยายาม ของประเทศไทยที่จะเสริมสร้างความร่วมมือ กับประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศที่เกี่ยวข้อง ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะการหลอกลวงทางออนไลน์ ที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้โดยลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายประเทศ โดยในที่ประชุมทุกประเทศ ยังตระหนักถึงผลกระทบต่อประชาชน จึงได้หารือถึงความร่วมมือเรื่องการบังคับใช้กฎหมายจริงจัง เพื่อปราบปราม รวมทั้งการพัฒนาความร่วมมือผ่านกลไก ประสานงานที่มีอยู่แล้ว ให้มีความชัดเจน คล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยให้ผู้แทนความมั่นคงของสถานทูตของ 2 ประเทศ ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีศูนย์ ที่จะมีความร่วมมือกับฝ่ายความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ เพื่อการแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพ ยั่งยืน ยกระดับความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศไปประสานงานต่อไป
นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นพ้อง ถึงการดำเนินมาตรการไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ปฏิบัติการต่อไปได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การตัดไฟ ตัดอินเทอร์เนต และการส่งน้ำมัน บริเวณชายแดนไทยเมียนมา ที่รัฐบาลไทยดำเนินการ จนนำไปสู่การปล่อยตัวชาวต่างชาติ 260 คน ในเมืองเมียวดี เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รวมทั้งได้ได้กำหนดแนวทางในการช่วยเหลือชาวต่างชาติ ที่ได้รับการปล่อยตัว และถกส่งกลับมาตุภูมิ ซึ่งทั้ง 3 ประเทศ ต้องกระชับความร่วมมืออย่างใกล้ชิด ตามกลไกความร่วมมือ 3 ฝ่าย และมีส่วนร่วมในการดูแลกลุ่มคนที่รอการส่งกลับ
นายมาริษ กล่าวว่า เพื่อให้กระบวนการส่งกลับของคนทุกชาติที่รออยู่เป็นไปด้วยความเป็นระบบ และรวดเร็ว ซึ่งตัวเลข ณ วันนี้ มีคนติดค้างอยู่ราว 7,000 คน แบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ คนจีน 5,000 คน ซึ่งสามารถดำเนินการได้เลย เนื่องจากมีกระบวนการรับตัวที่เป็นระบบอยู่แล้ว และกลุ่มที่เหลือเป็นกลุ่มคนชาติอื่นหลายประเทศ ที่ประชุมมีการหารือกัน โดยให้เจ้าหน้าที่สถานทูตต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง อยู่ในประเทศไทยสามารถเดินทางไปสนับสนุนยืนยันคนชาติตนในฝั่งเมียนมา เพื่อให้กระบวนการรวดเร็วขึ้น รวมถึงการประสานผ่านองค์กรระหว่างประเทศ เช่น โครงการโยกย้ายถิ่นฐานต่างประเทศ ได้เข้ามาร่วมมือด้วย
"การประชุมในวันนี้ ถือเป็นสิ่งตอกย้ำมีความชัดเจน ในความมุ่งมั่นของไทยในการแก้ปัญหานี้ร่วมกับนานาประเทศ เพื่อสร้างความมั่นคงตามชายแดน ความปลอดภัยทั้งชีวิต และทรัพย์สินในภูมิภาคนี้รวมถึงประชาชนชาวไทย นอกจากนี้การที่ไทยมีความสัมพันธ์อันดีอย่างยิ่ง กับจีนและเมียนมา จึงทำให้เกิดความร่วมมือข้ามหลายหน่วยงาน ของทั้ง 3 ฝ่ายได้อย่างแนบแน่น แม้เป็นปัญหาที่ยากและซับซ้อนจึงเชื่อว่าจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาได้อย่างจริงจังและเด็ดขาดในอนาคต"รมว.ต่างประเทศ ระบุ
ทั้งนี้ ภายหลังการแถลง นายมาริษ เดินออกจากห้องแถลงทันที แจ้งเพียงว่าขอให้ท่านโฆษกเป็นผู้ตอบคำถาม ท่ามกลางความสงสัยของสื่อมวลชนไทยและต่างประเทศที่วันนี้เตรียมประเด็นคำถามเรื่องรัฐบาลส่งอุยกูร์กลับจีนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี