‘จตุพร’คาดมีนาคม‘นายกรัฐมนตรี’ตกที่นั่งลำบาก ปัญหาประเดประดังเข้าใส่ ทั้งต่างชาติรุมประณามมนุษยธรรมบกพร่อง ทำลับล่อส่ง 40 อุยกูร์ส่อแลกความช่วยเหลือจากจีน จวกปิดปากซักฟอกฉุดประชาธิปไตยสง่างามถดถอย
2 มีนาคม 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์เมื่อวันที่ 1 มี.ค.68 ว่า นายกฯอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ตกที่นั่งลำบาก ทั้งถูกต่างชาติประณามด้านมนุษยธรรม ขณะที่สถานการณ์ในประเทศปัญหาหลากหลายเริ่มประเดประดังเข้าใส่ตั้งแต่มีนาคม ส่วนนายทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ จะรอดหรือหนี ต้องจับตาอย่ากระพริบ
นายจตุพร กล่าวถึงนายกฯอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ส่ง 40 ชาวอุยกูร์กลับจีนเป็นการสมัครใจว่า ถ้าสมัครใจจริงทำไมไม่แสดงความจริงใจตั้งแต่ไทยส่งกลับและจัดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน โดยไม่ต้องไปเสนอภาพครอบครัวกอดกันที่จีนมาโชว์ ดังนั้นถ้าเริ่มแสดงตัวที่ไทยก่อน จะเกิดผลดีกับประเทศมากกว่า และโลกไม่ต้องโกรธเคืองไทยไร้มนุษยธรรม แต่สิ่งที่นายกฯ ก่อความเสียหายขึ้นแล้ว จึงพูดแก้ตัวและอ้างว่า 40 อุยกูร์สมัครใจกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว
“หลักคิดการบริหารประเทศต้องไม่นำพาประชาชนไปพบความเสี่ยง และยังไม่แน่ชัดว่า สหรัฐที่เอาแน่เอานอนไม่ได้จะลงทัณฑ์เรื่องการค้ากับเราอย่างไร ส่วนการท่องเที่ยวส่งผลกระทบชัดเจนโดยไม่จำเป็น”
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้า 40 อุยกูร์อยากกลับไปอยู่ครอบครัวกันจริงแล้ว ปัญหาคือ นายกฯ ไปใช้วิธีทำอย่างลึกลับกันทำไม ควรทำอย่างตรงไปตรงมาจะเกิดผลดีกับประเทศมากกว่า ดังนั้นการหาเรื่องส่งชาวอุยกูร์ไปจีนอย่างลับๆ ล่อๆ จึงเป็นบทเรียนบริหารประเทศไม่ตรงไปตรงมากับประชาชนไทยและประชาคมโลก
นายจตุพร กล่าวว่า ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ นั้น พรรคเพื่อไทยต้องการให้เวลาแค่วันเดียว ขอเตือนกันไว้ก่อนว่า เหตุที่ทำให้พังเพราะใช้พวกมากลากไปปิดปากในสภา โดยสมัยทักษิณ พ่อนายกฯ บริหารประเทศ ฝ่ายค้านถูกปิดกันการอภิปรายฯ ตรวจสอบนายกฯในสภา ส่วนรัฐมนตรีทุจริตก็อภิปรายฯ ไม่ได้ ทำได้แค่อภิปรายฯ รัฐมนตรีบริหารงานล้มเหลวผิดพลาดเท่านั้น จนเกิดความไม่พอใจ แล้วม็อบก็ลามออกถนนขับไล่รัฐบาล
นายจตุพร กล่าวว่า มาวันนี้ นักการเมืองไม่ควรกลัวถูกสภาตรวจสอบ ถ้ามีความสุจริตเป็นเกราะกำบังจะกลัวอะไร เพราะนายกฯ ถูกอภิปรายฯ ในสภาเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย และยังเปิดโอกาสให้แสดงความรู้ความสามารถอย่างกล้าหาญเมื่อเผชิญปัญหาในระบบประชาธิปไตยอีกด้วย
“ถ้ารัฐบาลเอาแต่เล่นเหลี่ยม ใช้ลีลากลเกมการเมืองพื้นฐาน อีกหน่อยสภาก็พังเอง พรรคเพื่อไทยควรให้เวลาอย่างเหมาะสมกับการอภิปรายฯ และตรวจสอบได้ ถ้าฝ่ายค้านพูดน้ำท่วมทุ่งฝ่ายค้านเสียหายเอง ถ้าล็อกเวลาก็ไปสร้างความอึกอัดไปเกิดขึ้นในหมู่ประชาชนโดยไม่จำเป็น”
นายจตุพร กล่าวว่า รัฐบาลจะใช้เสียงข้างมากลากไปไม่ใช่เรื่องยากเลย และเคยทำมาแล้วกับกรณีเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยในสมัยอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวทักษิณ เพื่อเปิดโอกาสให้ทักษิณกลับบ้าน แล้วท้ายที่สุดรัฐบาลก็พัง ดังนั้น การบีบรัดปิดปากฝ่ายค้านให้อภิปรายฯ แค่วันเดียว ถึงที่สุดแล้วจะทำให้ประชาชนไม่พอใจและส่อนำพาไปสู่ไม่มีสภาให้พูดกัน
นายจตุพร กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ของกรมดีเอสไอนัดประชุม 6 มี.ค.นี้ ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ต้องการให้วันนั้นลงมติรู้ผลกันเลยว่า จะรับหรือไม่รับกรณีข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร ฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ดังนั้น ฝ่าย สว. คงต่อสู้แบบดิ้นหนีตายกันแน่นอน ขณะที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คงเอาแต่ป้องกันตัวเองไม่ให้ความผิดขยายลามมาถึงตัวเองเช่นกัน
“ถ้า กคพ.แน่จริงแล้ว ควรลงมติให้ถึง 15 เสียงจาก 22 เสียง เพื่อรับข้อหาฮั้วเลือก สว. อั้งยี่ ซ่องโจร เป็นคดีพิเศษเลย ส่วน สว.ต้องสู้เต็มกระดาน และอาจเดินหน้ายื่นถอดถอนนายกฯ ทั้งสองฝ่ายอย่ามาออกอาวุธต่อรองกัน เพราะเราจะได้เห็นบ้านเมืองนี้มีการปฏิบัติการกันอย่างไร ถ้าทุกอย่างคือการต่อรองทางการเมืองกันแล้ว ประเทศจะไม่มีความหวังอะไร”
นายจตุพร กล่าวว่า ในส่วนภาคประชาชนจะนัดชุมนุมปักหลักยาวที่หน้าทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. นี้เป็นต้นไป โดย คปท.และคณะจะพูดถึง พรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ หรือบ่อนกาสิโน ซึ่งคาดจะบรรจุวาระ ครม.ในวันที่ 11 มี.ค. นี้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะถัดจากนั้นคงจะพ่วงกฎหมายการพนันออนไลน์เข้า ครม.ด้วย
อย่างไรก็ตาม การแก้ไขของคณะกรรมการกฤษฎีกาให้คนไทยเข้าบ่อนกาสิโนได้ต้องมีเงินฝากในบัญชี 50 ล้านบาท แม้ไม่เป็นตามเป้าหมายของผู้ต้องการตั้งบ่อนกาสิโน แต่การพนันออนไลน์ที่ขึ้นตรงกับบ่อนกาสิโน ยังเล่นผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งคนทั่วไปมีเงินแค่ 100-200 บาทก็เล่นได้จึงเป็นความสุ่มเสี่ยงและจะเกิดความเสียหายต่อบ้านเมืองได้อย่างน่ากลัวยิ่งกว่า
นายจตุพร กล่าวว่า อีกสถานการณ์หนึ่ง ท่ามกลางปัญหาเศรษฐกิจซบเซาระบาด ชาวนาอยุธยาและอีกหลายจังหวัดใกล้เคียงกำลังก่อตัวไม่พอใจอย่างเงียบๆ และพร้อมขยับชุมนุมให้รัฐบาลแก้ปัญหาราคาข้าวและมันสำปะหลังตกต่ำเป็นประวัติการณ์ของประเทศ ดังนั้น ปัญหาหลากหลายย่อมไหลหลั่งไปสู่ถนนที่มุ่งไปทำเนียบรัฐบาล
“ผมหารือกันว่า ก่อนวันที่ 11 มี.ค.นี้ ทีมชุดใหญ่จะไปแสดงตนที่ทำเนียบรัฐบาลอย่างเต็มที่กันสักวัน ส่วนจะเป็นวันไหนจะแจ้งให้ทราบ หากประชานมีแรงและกำลัง ก็ไปที่หน้าทำเนียบรัฐบาลได้ทุกวันนับตั้งแต่ 2 มีนาคมนี้”
นายจตุพร กล่าวว่า รัฐบาลจะยกตู้คอนเทนเนอร์มาขวางถนนและสะพานรอบทำเนียบรัฐบาล เพื่อไม่ให้มีการชุมนุม ซึ่งเป็นความคิดเช่นนี้ไม่น่ากระทำ เพราะสร้างความเสียหายมากกว่าการส่งผลด้านดี และที่สำคัญไม่อาจหยุดยั้ง ต้านทานการชุมนุมได้ แต่ยิ่งทำให้ประชาชนไม่พอใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก
นายจตุพร กล่าวถึงกรณีผลสอบสวน รพ.ตำรวจ ชั้น 14 ของนายทักษิณว่า ในสัปดาห์ที่สองของเดือน มี.ค. เป็นต้นไป ต้องจับตาแพทยสภาและศาลฎีกาจะขยับกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ถ้าผลสอบสวนมีความชัดเจนและมาก่อนการอภิปรายฯ ของฝ่ายค้านซึ่งคาดมีขึ้น 24 มี.ค.นี้ เชื่อปัญหาทุกอย่างจะผสมปนเปไปกับสถานการณ์ที่กำลังประเดประดังเข้าใส่รัฐบาลกันไปหมดทุกทิศทาง
นายจตุพร กล่าวว่า แม้ช่วงนี้นายทักษิณ พยายามพูดถึงพระบรมราชโองการให้ใช้ความรู้ความสามารถรับใช้ประเทศชาติบ่อยขึ้น แต่ต้องทบทวนว่า ทักษิณต้องคดีทั้งหมด 12 ปี ขาดอายุความไปหนึ่งคดี และมีคดีนับพร้อมอีกหนึ่งคดี จึงเหลือโทษจำคุก 8 ปี ถูกถอดยศ ถูกริบเครื่องราช และก่อนเดินทางกลับไทยได้แสดงตนต่างกรรมต่างวาระว่า แก่แล้ว อยากพักผ่อน ขออนุญาตกลับมาเลี้ยงหลาน โดยไม่ยุ่งการเมือง เมื่อกลับมาแล้ว ได้ยื่นฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษ และมีพระบรมราชโองการลดโทษให้เหลือ 1 ปี โดยเนื้อหาในพระบรมราชโองการนั้น นายทักษิณระบุว่า เคารพในกระบวนการยุติธรรม ยอมรับทำความผิดคดีทุจริตจริง และสำนึกต่อการกระทำนั้นแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในข้อความวรรคท้ายระบุถึงให้ใช้ความรู้ความสามารถรับใช้ประเทศชาติบ้านเมือง ย่อมหมายความว่า ต้องไปติดคุกเสียก่อน เมื่อพ้นโทษจึงไปทำหน้าที่ใช้ความรู้ความสามารถรับใช้ชาติบ้านเมืองได้
“แต่ความพยายามของรัฐบาลเรื่องการทำบ่อนกาสิโน เรื่องการทำพนันออนไลน์ และเรื่องตั้งศูนย์กลางทางการเงินที่ซ้อนทับทำลายระบบการเงินของประเทศ รวมถึงการขายที่ให้ต่างชาติ 99 ปี เรื่องแลนด์บริดจ์ ทุกสิ่งทุกนโยบายเช่นนี้ ล้วนส่อถึงพฤติกรรมนำอนาคตประเทศไปสุ่มเสี่ยงทั้งสิ้น”
นายจตุพร กล่าวว่า การรับใช้ชาติบ้านเมืองนั้น ต้องรับโทษตามกระบวนการยุติธรรมให้เสร็จสิ้นตามพระบรมราชโองการก่อนหรือไม่ แต่ทักษิณไปทุกที่มักยกพระบรมราชโองการไม่ครบถ้วน เอาแต่ส่วนที่เป็นคุณกับตัวเองมาพูดเพื่อทำให้เข้าใจว่า ได้ไฟเขียวเท่านั้น ทั้งที่ไฟเขียวไม่เคยมีอยู่จริงเลย อย่างไรก็ตาม ถ้าทักษิณ สำนึกต่อชาติบ้านเมืองอย่างจริงใจแล้ว ความรับผิดชอบต่อกระบวนการยุติธรรมย่อมเป็นสำนึกอย่างหนึ่งและควรยึดมั่นกระทำให้ตรงไปตรงมา
นอกจากนายทักษิณ ถูกศาลลงโทษในคดีทุจริตแล้ว ช่วงเป็นนายกฯ ปี 2544-2549 ยังทำนโยบายผิดพลาดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จนความไม่สงบแผ่ขยายตัวราวกับเป็นไฟใต้ลุกลามเผาชีวิตสงบสุขเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ในสถานการณ์ทักษิณ จุดไฟใต้รุนแรงด้วยอำนาจปกครองประเทศที่แตะต้องไม่ได้นั้น ความไม่สงบได้ทำให้ประชาชนเสียชีวิตหลายพันคน หรือมีตัวเลขสำรวจระบุความตายมีถึง 7,500 ชีวิต บาดเจ็บนับหมื่น เสียงบประมาณในการรักษาความสงบเป็นแสนล้าน ไม่เพียงเท่านั้น ทักษิณยังผิดพลาดจากนโยบายปราบปรามยาเสพติด ซุกการฆ่าตัดตอน อุ้มหาย ทำลายชีวิตครอบครัวคนใต้อย่างเจ็บปวด แต่แล้วก็แก้ปัญหาไฟใต้ไม่ได้อยู่ดี
“ถึงบัดนี้ ทักษิณและรัฐบาลพรรคเพื่อไทย กลับเร่งผลักดันนโยบายตั้งบ่อนกาสิโน เปิดทางให้ธุรกิจสีเทาเข้าประเทศกลายเป็นศูนย์กลางการฟอกเงิน ส่งผลให้อาชญากรก่ออาชญากรรมเพิ่มขึ้น ภัยยาเสพติดทั้งคนเสพ คนขายจะระบาดไปทั่วบ้านเมือง โจรปล้น นักวิ่งชิ่งทรัพย์สิน กระทั่งย่อมขายร่างกายหารายได้ไปเล่นพนันหรือมาเลี้ยงครอบครัวก็จะตามมาไม่สิ้นสุด ส่วนนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ได้แต่อ้างสิ่งเหล่านี้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อดึงรายได้เข้าประเทศ”
นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าจะสร้างรายได้เข้าประเทศแล้ว ทุกนโยบายต้องเป็นไปในแนวทางเดียวกัน และมีผลการศึกษาว่า นักท่องเที่ยวเข้าไทยต้องการเล่นพนันจริงหรือไม่ อีกอย่างการสร้างรายได้ผ่านซอฟพาวเวอร์ที่ละเลงงบประมาณหนึ่งปีในยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน กว่า 5,000 ล้าน กลับเงียบเฉยและไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน
“ดังนั้น บ่อนกาสิโนกับการท่องเที่ยวฟื้นเศรษฐกิจ รวมถึงการส่ง 40 อุยกูร์กลับจีนกับการสร้างสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ให้จบในปี 69 และล่าสุดพยายามปิดปากซักฟอกของฝ่ายค้านให้เหลือเพียงวันเดียว ล้วนเป็นความย้อนแย้งและขัดกันทั้งสิ้น จึงไม่รู้รัฐบาลจะเอาอย่างไร และ นายกฯ จะนำประเทศไปทางไหนที่เป็นความหวังต่อบ้านเมืองและชีวิตปากท้องของประชาชนได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง” นายจตุพร กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี