99.5% ของจริง!! โพยพยาน'คดีฮั้ว สว.67'กว่า 1,200 รายชื่อหลุดว่อนโซเชียล ส่วนที่ขาดอีก 0.5% เป็นระดับหัวหน้าแก๊ง-ทีมบริหาร ด้านแหล่งข่าวจากบอร์ดคดีพิเศษ เเย้มแนวทาง 6 มี.ค.นี้ หากมีมติรับเป็นคดีพิเศษ เตรียมทยอยร่อนหมายเรียกพยาน 1,200 รายสอบปากคำ ชี้หากพบมีส่วนร่วมขบวนการกระทำผิด ขยับจากพยานเป็นผู้ต้องหา
เมื่อวันที่ 2 มี.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังมีเอกสารรายชื่อบรรดาผู้สมัคร สว. และผู้ได้รับเลือกเป็น สว.รวมประมาณ 1,200 ราย ซึ่งถูกเผยแพร่ในไลน์กลุ่มการเมือง โดยเป็นไลน์ของสมาชิกรัฐสภาบางกลุ่ม ระบุว่า เป็นเอกสารหลุดรายชื่อพยานที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ เตรียมเรียกมาสอบปากคำในคดีฮั้ว สว. นั้น
แหล่งข่าวระดับสูงจากบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือ บอร์ดดีเอสไอ กล่าวว่าสำหรับรายชื่อกว่า 1,200 ชื่อ ที่ปรากฏชื่อว่าจะเป็นบุคคลที่ดีเอสไอเตรียมเรียกสอบปากคำในฐานะพยานในคดีฮั้ว สว.67 นั้น มีความถูกต้อง 99.5% ส่วนที่ขาดอีก .5% จะเป็นกลุ่มคนระดับหัวหน้าแก๊งกับทีมบริหาร อย่างไรก็ตาม หากในวันที่ 6 มี.ค.นี้ ซึ่งจะเป็นการประชุมหารือครั้งที่ 2 เพื่อเอาคำตอบสุดท้ายของคณะกรรมการคดีพิเศษ(กคพ.) ในการมีมติในที่ประชุมว่าจะรับหรือไม่รับคดีฮั้ว สว.67 เป็นคดีพิเศษ หากผลมติในที่ประชุมขอให้รับไว้ดำเนินการเป็นคดีพิเศษ ขั้นตอนต่อไปก็จะมีการแต่งตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษเพื่อทำการสอบสวนและขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการในการกระทำความผิด ซึ่งในขั้นตอนดังกล่าวนั้น ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษจะได้ทยอยออกหมายเรียกพยานกว่า 1,200 ราย เข้าให้ปากคำและสอบสวนดำเนินการต่อเนื่อง
แต่ทั้งนี้ หากมีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพบว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ทางคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษก็จะเปลี่ยนสถานะพยานของบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ต้องหาในคดี เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
แหล่งข่าวฯ กล่าวอีกว่า เรื่องนี้ถือเป็นการกระทำความผิดในระดับเครือข่ายองค์กร มีผู้ร่วมขบวนการกว่า 10,000 ราย มีพยานหลักฐานเรื่องการสมคบคิดชัดเจน มีการนัดหมายรวมตัวกัน มีนักคณิตศาสตร์ นักเทคโนโลยีและไอทีช่วยเซ็ตระบบเรียบร้อยว่า ตามหลักความน่าจะเป็น จะเป็นอย่างไรได้บ้าง และในวันที่ 6 มี.ค. นอกจากบอร์ด กคพ.เองแล้ว ก็ให้เชิญประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือรองประธาน กกต. หรือกรรมการ กกต.มาร่วมประชุม เพื่อชี้แจงประเด็นต่างๆ ด้วยตัวเอง
อย่างไรก็ตาม การเชิญ กกต. มาชี้แจงในวันดังกล่าว เป็นเรื่องที่บอร์ด กคพ.คิดไว้แล้วว่าโอกาสที่ กกต.อาจจะไม่มาชี้แจงก็มีสูง แต่เราก็อยากทำให้ถูกต้องตามขั้นตอน อีกทั้งได้มีกรรมการคดีพิเศษท่านหนึ่งเสนอความเห็นไว้ในที่ประชุมบอร์ดฯเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่าที่ผ่านมามันไม่เคยมีการตั้งคณะกรรมการว่าด้วยกฎหมายขัดกัน ทำนองว่าเรื่องนี้ใครจะต้องเป็นผู้ดำเนินการหากมองตามกฏหมาย เป็นต้น เพราะ กกต.และดีเอสไอก็ยังไม่เคยทำคดีร่วมกัน เพราะถ้าเป็นคดีอาญาเล็กน้อย กกต.ก็จะขอความร่วมมือไปยังพนักงานสอบสวนตำรวจมากกว่า เนื่องด้วย กกต.ไม่มีห้องควบคุม ไม่มีนักสืบสวนที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ไม่มีเครื่องมือเทคโนโลยีในการสืบสวนสอบสวน จึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใดบอร์ด กคพ. จึงประสงค์ขอเชิญ กกต.มาร่วมประชุมหารือ
ทั้งนี้ ในวันที่ 6 มี.ค. บอร์ด กคพ.จะต้องได้คำตอบแล้วว่าจะรับหรือไม่รับคดีฮั้ว สว.เป็นคดีพิเศษ และตามความเห็นของประธานกรรมการแล้ว ให้รับเพียงคดีอั้งยี่ซ่องโจรและคดีฟอกเงิน ส่วนคดีของ กกต.ไม่ต้องรับ และให้ชงเรื่องคืนไปให้ กกต. เพื่อให้ กกต.ชงเรื่องเป็นทางการไปให้ ป.ป.ช. จากนั้น ป.ป.ช.จะได้ดำเนินการตามกฎหมาย หากเห็นว่าประเด็นใดที่ กกต.ไม่ได้ดำเนินการ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายชื่อกว่า 1,200 รายที่ปรากฏในโพยพยานของดีเอสไอ มีทั้งในส่วนของผู้สมัครสมาชิก สว. และผู้ได้รับเลือกเป็น สว. อาทิ พื้นที่ จ.กระบี่ กรุงเทพมหานคร กำแพงเพชร ขอนแก่น จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชัยนาทชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครนายก นครพนม นครปฐม นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ นนทบุรี นราธิวาส น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา พะเยา พัทลุง พิจิตร เพชรบุรี แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ยะลา ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำปาง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สงขลา สตูล สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อำนาจเจริญ อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อุบลราชธานี เป็นต้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี