ศาลออกหมายจับ
112 คนไทยเอี่ยว
แก๊งคอลฯเขมร
ตร.เร่งขยายผล
ผบช.ไซเบอร์ ยันตำรวจ ขออำนาจศาลออกหมายจับ คนไทยที่สมัครใจไปทำงานกับแก๊งคอลฯที่ปอยเปต กัมพูชา กว่า 100 คน ด้านนายกฯ ขอให้ศึกษาแนวทางสร้างกำแพงกั้นชายแดนไทย-กัมพูชา อุปกรณ์เอกซเรย์ตรวจสินค้าขาเข้า ติดตั้งกล้อง CCTV บริเวณชายแดนเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.กล่าวถึงความคืบหน้าการรับตัวคนไทย 119 คน ที่ถูกส่งกลับมาจากประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ หรืแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM ว่าขณะนี้ยังอยู่ในกลไก NRM ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการของพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) ที่ให้ตั้งคณะสืบสวนสอบสวนในกรณีที่มีคดีอาชญากรรมออนไลน์ ทั้งหมด 46 เคสไอดี โดยมีผู้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับบุคคลที่เดินทางกลับมาด้วย ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้อง 10 ราย ทางตำรวจ บช.สอท.ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะทำงานร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 ตำรวจภูธร จ.สระแก้ว และตำรวจ บก.ปคม.
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่า จากการซักถามเบื้องต้นและได้นำข้อมูลประกอบกับการสืบสวนของ ตำรวจภูธรภาค 2 พบว่ามีผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ฐานมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติและข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อยู่นับ 100 ราย จึงรวบรวมพยานหลักฐานและมอบหมายให้ พ.ต.อ.รชตโชค ลีวาณิชคุณ รอง ผบก.สอท.5 ขออำนาจศาลออกหมายจับ ซึ่งทั้งหมดจะถูกดำเนินคดีในข้อหามีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เป็นข้อหาหลัก ซึ่งเป็นคนไทยกว่า 100 ราย ชาวต่างชาติ 2 ราย ที่เรียกกันว่า บอสชาวจีน ซึ่งตนจะเดินทางไปติดตามความคืบหน้ากรณีนี้ อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการแถลงในรายละเอียดกรณีดังกล่าวอีกครั้ง
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ศาลอาญาได้ออกหมายจับขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในคดีดังกล่าว เพิ่มอีก 112 รายแล้ว
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนี้ ในการลงพื้นที่ตรวจราชการ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา เพื่อติดตามข้อสั่งการและแก้ไขปัญหาอาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ทุกภาคส่วนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงกลาโหม หน่วยงานความมั่นคง กสทช.และภาคเอกชน ในการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ และตัดสายเชื่อมสัญญาณ ลดความสูงและความแรงของเสาสัญญาณ ถือว่าได้ผลเป็นอย่างมาก
ขอให้พึงระวังถึงผลกระทบต่อประชนในพื้นที่ในการเข้าถึงสัญญาณโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตด้วย ปัญหาดังกล่าวถึงแม้จะดีขึ้น แต่ทุกภาคส่วนต้องทำงานอย่างต่อเนื่อง และหากติดขัดปัญหาด้านใด ก็ขอให้เร่งประสานมาที่รัฐบาล จะได้เร่งแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนต่อไป
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า นายกฯ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งศึกษาถึงแนวทางการสร้างกำแพงระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันการข้ามแดนโดยผิดกฎหมาย และการเดินทางของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยขอให้กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงกลาโหม ประสานกับหน่ายงานที่เกี่ยวข้องของประเทศกัมพูชา เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันต่อไป
“ขอให้กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง ศึกษาความจำเป็นในการจัดซื้อจัดจ้าง อุโมงค์ X-ray เพื่อใช้ในด่านศุลกากรบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในการตรวจสอบสิ่งของต้องสงสัย เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ขอให้กระทรวงมหาดไทย หน่วยงานความมั่นคง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ศึกษาถึงความจำเป็นในการติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อติดตามดูสถานการณ์ได้อย่างครอบคลุมและทั่วถึงมากยิ่งขึ้นต่อไป” นายจิรายุ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี