‘สว.สีน้ำเงิน’เปิดฉากตีโต้อั้งยี่ฟอกเงิน บอมบ์‘ทวี-ดีเอสไอ’ทำงานอืด-ไม่รอบคอบ ล็อกเป้าจงใจเลือกสีโจมตี ด้าน‘ฉัตรวรรษ’เปิดหน้า ลั่นวันนี้จงใจใส่เสื้อ‘น้ำเงิน’ จวกตั้งโต๊ะจ้อรายวันหมิ่นประมาทเหมาเข่ง ปูดทฤษฎี‘0มากกว่า1’ เอาสภาสูงมารื้อแก้รธน. ย้อนเกล็ดสูตรบวกเลขเอาไปสอบเป็น‘คดีพิเศษ’ได้หรือไม่ ยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ
เมื่อเวลา 09.40 น.วันที่ 4 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภาคนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา เสนอญัตติ เรื่อง ขอเสนอญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและการบังคับใช้กฎหมาย
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวชี้แจงหลักการว่า กระบวนการยุติธรรมไทยมีความล่าช้า ขาดประสิทธิภาพ อีกทั้งมีการแทรกแซงและครอบงำจากฝ่ายการเมืองในการปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะการดำเนินการของกระทรวงยุติธรรม โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาคดีความผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อน มีผลกระทบต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ความมั่นคงของประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของผู้ต้องขัง อย่างไรก็ตาม ยังมีกรณีที่ให้สิทธิ์ผู้ต้องขังในการรักษาพยาบาลอย่างเท่าเทียมกัน ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการที่มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม ไม่โปร่งใส ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ผู้ต้องขังบางคนได้รับสิทธิพิเศษในการเข้ารักษาพยาบาลกว่าผู้ต้องขังผู้อื่น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องชาวอุยกูร์ที่มีการดำเนินการที่ไม่โปร่งใสขาดความชอบธรรม เห็นได้เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จนถูกประณามจากองค์กรต่างๆ ระหว่างประเทศ
“การดำเนินการของรมว.ยุติธรรม ขาดความรอบคอบในการพิจารณาดำเนินการตามหลักสากล ขาดความรู้ความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำมาซึ่งความเสียหายกับประเทศชาติได้ในอนาคต” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าว
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวถึงการได้มาของสมาชิกวุฒิสภาปี 2567ว่า รมว.ยุติธรรม และอธิบดีดีเอสไอ ร่วมกันแถลงข่าว จงใจกลั่นแกล้งกล่าวหาว่าการได้มาดังกล่าว มีการฮั้ว เป็นอั้งยี่ และกระทำผิดฟอกเงิน มีความผิดความมั่นคงของชาติ สว.ได้รับความเสียหาย เสียชื่อเสียง ว่าได้รับตำแหน่งมาโดยไม่ชอบทำโดยการสมยอมรวมหัวกัน เพื่อให้ได้เป็นสว. โดยไม่สุจริตและโปร่งใส เป็นการใส่ความต่อบุคคลที่ 3 ทำให้ผู้นั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ซึ่งฝ่ายกฎหมายวุฒิสภากำลังพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า การกล่าวหา ให้ข่าวกับสื่อมวลชนในลักษณะเหมาเข่ง ทั้งๆ ที่อธิบดีดีอเอสไอมีอำนาจตามกฎหมายอาญาและ พ.ร.ป.คดีพิเศษ สามารถดำเนินการได้หากพบว่ามีพยานหลักฐานมากเพียงพอที่จะสืบสวนสอบสวน แต่กลับกันอธิบดีดีเอสไอกลับพยายามที่จะทำให้เป็นคดีพิเศษ โดยเฉพาะการเสนอต่อคณะกรรมการสอบสวนคดีพิเศษ (คกพ.) แต่การประชุมที่ผ่านมาเกิดปัญหาโรคเลื่อน อ้างว่ายังไม่ได้นำเข้าการพิจารณาประชุมของอนุฯกลั่นกรอง จะเห็นได้ว่าการทำงานของอธิบดีดีเอสไอขาดความรอบคอบในการที่จะนำเสนอเรื่องเข้าบอร์ดพิจารณา ทั้งทั้งที่มีอำนาจหน้าที่ที่จะกระทำได้ แต่ยังนำเรื่องเพื่อให้บอร์ดพิจารณาให้ตนเองมีอำนาจหน้าที่ ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าว่ากรณีการได้มาของ สว.เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวอีกว่า รมว.ยุติธรรม และอธิบดีดีเอสไอ ยังได้แถลงข่าวเป็นรายวัน เพื่อขอความชอบธรรมจากสังคม ที่จะดำเนินการสอบสวน จัดให้มีการรับเรื่องร้องเรียนเป็นรายวัน เพื่อให้เห็นว่ามีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก เป็นวงกว้างทั่วประเทศ มุ่งหวังให้สังคมเห็นว่าการได้มาของสมาชิกวุฒิสภาไม่สุจริตและเที่ยงธรรม การกระทำดังกล่าวมีการล็อกเป้าหมายในการดำเนินคดี โดยอ้างว่ามีกลุ่มสว. 138 + 2 ซึ่งตัวเลขนี้ก็ไม่ทราบว่าจะสามารถเปิดเผยหรือดำเนินคดีตามอำนาจหน้าที่ได้หรือไม่ จึงสงสัยว่าการสืบสวนสอบสวนนี้สามารถล็อกเป้ากลุ่ม สว. โดยแยกประเภทสีได้อย่างไร โดยเฉพาะการมุ่งเน้นมาที่สีน้ำเงิน
“วันนี้ผมใส่เสื้อสีน้ำเงินมาเพื่อขออภิปราย พร้อมที่จะรับแจ้งข้อกล่าวหาจากอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมหากท่านมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ท่านเคยได้ยินไหมครับ 0 มีค่ามากกว่า 1 นักคณิตศาสตร์ระดับโลกยังคิดไม่ได้ แต่มีผู้นำทางการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของประเทศไทยสามารถที่จะคิดได้ ในการที่จะทำให้ 0 มีค่ามากกว่า 1 และได้จำนวนสมาชิกวุฒิสภาเข้ามาเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งตรงนี้มีเพื่อนสมาชิกที่ได้ไปพักโรงแรมใกล้กับอิมแพค เมืองทองธานี ได้พบเห็นมีการปิดห้องประชุมรับมีผู้เข้าประชุมประมาณ 400 คนมีการแจกจ่ายเอกสารหมายเลขที่จะให้เลือก”
“ซึ่งลักษณะเช่นนี้อธิบดีดีเอสไอ ท่านรู้หรือไม่ ได้รับการร้องเรียนหรือไม่ ท่านพอจะมีข้อมูลทำการสืบสวนเพื่อเป็นคดีพิเศษได้หรือไม่ ผลสุดท้ายจากการดำเนินการก็ได้ตัวเลขออกมาที่น่าสนใจคือ 21 + 24 คล้ายครึ่งกับตัวเลข 138 + 2 เพราะฉะนั้น ผมฝากปัญหาว่า 2 ตัวเลขชุดนี้ท่าน อธิบดีดีเอสไอสามารถสืบสวนสอบสวนตามที่ท่านกล่าวหาเป็นการอั้งยี่ฟอกเงินหรือไม่” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี