"สว.ชิบ จิตนิยม"ปลุก"วุฒิสภา" ร่วมแก้ปัญหามหันตภัยบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำกระท่อมคุกคามสุขภาพเยาวชนอย่างหนัก ล่าสุด"รพ.อุบลฯ"พบ 2 เยาวชนป่วยวิกฤติหนัก"ปอดพังจากบุหรี่ไฟฟ้า"และ"ลำไส้ทะลุจากน้ำกระท่อม" จี้ทุกหน่วยงานรัฐเกี่ยวข้องจัดการเด็ดขาดจริงจัง
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 20 (สมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่สอง) โดย นายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา ได้ตั้งกระทู้หารือต่อประชุมวุฒิสภา เรื่อง "มหันตภัยบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำกระท่อมต่อเยาวชนไทย" โดยระบุว่า ปัจจุบันปัญหาบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำกระท่อมกำลังทวีความรุนแรงขึ้นอย่างน่าวิตก และส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเยาวชนอย่างมีนัยสำคัญ
ซึ่งปัญหาล่าสุดเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี นพ.เพียรศักดิ์ แซ่หว่อง กุมารแพทย์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งเตือน กรณีผู้ป่วยเยาวชน 2 ราย โดยรายแรกเป็นผู้ป่วยเยาวชนที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าและดื่มน้ำกระท่อม เป็นเยาวชนหญิงอายุ 14 ปี มีอาการปอดและหลอดลมอักเสบรุนแรงจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า จนต้องใส่ท่อช่วยหายใจ แม้จะถอดท่อช่วยหายใจแล้ว แต่ยังคงมีอาการหายใจเหนื่อย และต้องได้รับการฟื้นฟูสภาพร่างกายต่อไป ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้ามีสารนิโคตินที่ทำให้เกิดการเสพติด และยังมีสารเคมีอันตรายอีกกว่า 1,000 ชนิด ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดการอักเสบรุนแรงในระบบทางเดินหายใจ
ส่วนกรณีที่สองนั้น เป็นเยาวชนที่ดื่มน้ำกระท่อมจนมีภาวะกระเพาะอาหารและลำไส้ทะลุ เกิดเลือดออกรุนแรงในระบบทางเดินอาหาร จนเกิดภาวะช็อกจากการเสียเลือด ต้องเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน ซึ่งนพ.เพียรศักดิ์ ระบุว่า การดื่มน้ำกระท่อมในปริมาณมากทำให้เกิดการระคายเคืองกระเพาะอาหารอย่างรุนแรง จนเกิดการบาดเจ็บ ทะลุ และเลือดออก หากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที อาจเสียชีวิตได้
นายชิบ กล่าวว่า จากข้อมูลการสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติปี 2566 พบว่า เยาวชนไทยอายุ 15 - 24 ปี มีอัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าสูงถึงร้อยละ 7.5 หรือประมาณ 680,000 คน เพิ่มขึ้นจากปี 2564 ที่มีอัตราร้อยละ 4.2 คิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 78.6 ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี ที่น่าตกใจคือ อายุเฉลี่ยของผู้เริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าลดลงเหลือเพียง 13.4 ปี ซึ่งแสดงให้เห็นว่าปัญหานี้กำลังลุกลามสู่กลุ่มเด็กที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ ส่วนสถานการณ์การบริโภคน้ำกระท่อม นับตั้งแต่มีการปลดล็อกพืชกระท่อมออกจากบัญชียาเสพติดในปี 2564 พบว่า อัตราการบริโภคน้ำกระท่อมในกลุ่มเยาวชนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากข้อมูลของสำนักงาน ป.ป.ส.พบว่า ในปี 2566 มีเยาวชนอายุ 15 - 19 ปี ดื่มน้ำกระท่อมถึงร้อยละ 5.8 หรือประมาณ 240,000 คน และที่น่าเป็นห่วงคือ การดื่มน้ำกระท่อมในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 2.3 หรือประมาณ 93,000 คน
"ทุกวันนี้เราต้องยอมรับว่าการหาซื้อบุหรี่ไฟฟ้าและน้ำกระท่อมได้อย่างง่ายดาย มีข่าวสารมากมายจากในพื้นที่ต่างๆ ขณะที่คณะอนุกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา ได้เดินทางลงพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ก็ได้ข้อมูลมีการลักลอบนำเข้าบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก เพราะคนในพื้นที่ และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังเสียเอง ฉะนั้นเรื่องนี้จำเป็นที่ต้องมีการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โจทย์วันนี้เราจะทำอย่างไรให้เยาวชนของเรานั้นมีภูมิต้านทาน ไม่คิดจะลอง ไม่คิดจะเสพ ไม่คิดจะซื้อ ไม่คิดจะขาย ขอให้ทุกคนช่วยเป็นหูเป็นตาและนำคนผิดมาลงโทษให้ได้ด้วย เรื่องนี้มีหลายหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ผมขอกระตุ้นเตือนให้ทุกคนช่วยกันทำหน้าที่เต็มประสิทธิภาพเพื่อประเทศชาติของเราครับ" นายชิบ กล่าว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี