‘วุฒิสภา’ส่ง‘ญัตติตีโต้ฮั้วสว.67’ให้’ครม.’พิจารณา พ่วงชง‘กมธ.องค์กรอิสระฯ สว.‘สาวต่อ ด้าน‘ฉัตรวรรษ’ชี้‘ดีเอสไอ’จ้องล้มล้างการปกครอง มองไร้อำนาจรับเป็นคดีพิเศษ-ก้าวก่ายงาน‘กกต.’ ขู่เล็งเปิดซักฟอก‘ทวี-ยุทธนา’ลามถึงขั้นถอดถอนพ้นตำแหน่ง ขณะที่‘ชินโชติ’จวกอย่าสะเออะ ส่วน‘อลงกต’เสนอย้าย‘กรมสอบสวนคดีพิเศษ’ไปสังกัด‘อสส.’ เหตุตกเป็นเครื่องมือการเมือง
เมื่อวันที่ 4 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาญัตติให้วุฒิสภาพิจารณาปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรม และการบังคับใช้กฎหมายเสนอโดยพล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ และการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภาที่มีเนื้อหาชี้แจงตอบโต้กรณีที่รมว.ยุติธรรม และกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สอบคดีฮั้วการเลือกสว.ปี67 โดยตั้งประเด็นอั้งยี่ซ่องโจรและฟอกเงิน เป็นประเด็นหลักในการสอบสวน
โดยนายชินโชติ แสงสังข์ สว. อภิปรายว่า ขอปรักปรำฟันธงว่า ถ้าวันที่ 6 มี.ค.นี้ ดีเอสไอรับคดีเลือกสว.มาทำ แสดงว่า มีวาระซ่อนเร้น รับใช้กลุ่มบุคคล กลุ่มการเมือง การเลือกสว.ไม่ใช่หน้าที่ดีเอสไอ เป็นหน้าที่กกต.จะทำงานช้า ผิดพลาด ก็ไปฟ้องกกต.ละเลยปฏิบัติหน้าที่ ที่เจ็บปวดคือ โยนข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจรให้สว. โจรอั้งยี่มีจริง โจรคอลเซ็นเตอร์มีจำนวนมาก ดีเอสไอทำเรื่องนี้หรือยัง จะทำกี่โมง ถ้าดีเอสไอทำเรื่องเลือกตั้งเองก็เอายางลบลบองค์กรอิสระออกจากสารบบได้เลย ต่อแต่นี้ดีเอสไอจะต้องรับทุกเรื่อง ในฐานะทำงานด้านแรงงาน ต่อไปถ้าโกงค่าแรง ไม่ต้องร้องกระทรวงแรงงาน วิ่งไปร้องดีเอสไอ ตนไม่มีอคติ แต่มีความรู้สึกดีเอสไอเล่นการเมืองมากเกินไป ดีเอสไอไม่มีหน้าที่เรื่องนี้ อย่าสะเออะ
ด้านนายอลงกต วรกี สว. อภิปรายว่า ตนเป็นสว.สีน้ำเงินและสีเหลือง ที่จงรักภักดี หากผู้ใดไม่ใช่ ถือเป็นสว.กลุ่ม21 พวกปลาหมอคางดำ ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตนมีบัญชีหลักฐานว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้ มีทั้งหมด 11+3 ล้มล้างการปกครองฯ มาตรา112 ในการแก้รัฐธรรมนูญ ถ้าอยากได้ข้อมูลมาเอาที่ตนได้ กรณีดีเอสไอจะรับคดีเลือกสว.เป็นคดีพิเศษ อ้างว่าใส่เสื้อเหลืองไปในวันเลือกสว.ที่เมืองทองธานี และวันรายงานตัวที่สำนักงานกกต. เป็นพวกอั้งยี่ซ่องโจร ถ้าเป็นเช่นนั้นคนใส่เสื้อเหลืองคงเป็นอั้งยี่ซ่องโจรทั้งประเทศ ดีเอสไอตั้งมา 20กว่ามีผลงานอะไรเป็นชิ้นอันบ้าง จากการศึกษารายงานคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม สภาปฏิรูปแห่งชาติ ที่ไปศึกษาพ.ร.บ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 ผลการศึกษาพบว่า การทำหน้าที่ของดีเอสไอซ้ำซ้อนกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสร้างความแตกแยกในสังคม เพราะถูกนักการเมืองในแต่ละรัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือ กลั่นแกล้งทางการเมือง จึงมีข้อเสนอให้ย้ายดีเอสไอไปสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุดเพราะกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรอยู่ใต้การบังคับบัญชารมว.ยุติธรรม ขณะที่การรับฟังความเห็นประชาชนตามรายงานดังกล่าว ถึงขั้นเสนอให้ยุบดีเอสไอ
ทั้งนี้ภายหลังจากที่สว.อภิปรายแสดงความเห็นในญัตติครบถ้วนแล้ว พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ อภิปรายปิดญัตติตอนหนึ่งว่าการอภิปรายของ สว. ทำให้เห็นว่า รมว.ยุติธรรม และ อธิบดีดีเอสไอ งานควรทำไม่ทำ กลับไปทำในสิ่งที่ไม่มีอำนาจ อย่างไรก็ดีกรณีที่คณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เตรียมพิจารณาคดีการฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษนั้น มีข้อโต้แย้งว่าการพิจารณาดังกล่าวเข้าข่ายก้าวก่ายอำนาจของะคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) อีกทั้งไม่มีหลักฐานเพียงพอทั้งเส้นทางการเงิน โพย ไม่มีพยานหลักฐานชี้ชัดว่าทุจริตเลือก จึงไม่มีน้ำหนักเพียงพอที่จะรับเรื่องไว้เป็นคดีพิเศษ
“การดำเนินการก้าวก่ายเข้าข่ายล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ที่บุคคลใดจะใช้สิทธิล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้นการสอบสวนคดีฮั้ว เป็นอำนาจหน้าที่ของกกต. ไม่ใช่ ของดีเอสไอ ซึ่งการที่ดีเอสไอจะสอบสวนฮั้วเลือกตั้ง สว. เป็นการกระทำนอกเหนือจากอำนาจหน้าที่ เมื่อพิจารณาแล้วหากดีเอสไอจะรับคดีฮั้วสว. เป็นคดีพิเศษต้องพิจารณาตามกฎหมายการสออบสวนคดีพิเศษ คือ คดีอาญาที่กำหนดไว้ตามมาตรา 21 และเมื่อพิจารณาแล้วคดีเลือกตั้งไม่ใช่คดีที่กำหนดไว้ในอำนาจของดีเอสไอ” พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ อภิปราย
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวด้วยว่า จากการอภิปรายของสว. แสดงให้เห็นว่ากระบวนการยุติธรรมขาดประสิทธิภาพ ถูกครอบงำจากฝ่ายการเมือง ขอมติที่ประชุมส่งการอภิปรายที่เกี่ยวข้องกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรมและพ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ ส่งไปยังคณะรัฐมนตรีต่อไป หรือขอเปิดอภิปรายทั่วไป พ.ต.อ.ทวี กรณีผิดมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรงและยื่นถอดถอนต่อไป รวมถึงพิจารณาการทำหน้าที่ของ พ.ต.ต.ยุทธนา ฐานทุจริตต่อหน้าที่ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จากนั้น นายมงคล ประธานการประชุม แจ้งต่อที่ประชุมด้วยว่า ให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ส่งข้อเสนอแนะให้ครม. พิจารณาต่อไป และการพิจารณาญัตติดังกล่าวเห็นว่าสำคัญและเป็นประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของ คณะกรรมการธิการ (กมธ.) องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ การป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบและการเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา จึงมอบหมายให้ศึกษาเพิ่มเติม และเสนอผลการศึกษาให้ สว.พิจารณาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี