‘พปชร.’โว‘อุ๊งอิ๊งค์’หวั่นไหวแน่
‘บิ๊กป้อม’ขออภิปราย
ฝ่ายค้านจอง 4 วัน/จบแค่ 5 ทุ่ม
พท.ขู่ประท้วงพาดพิง‘แม้ว’
‘หนู’อวยยืนเคียงข้างนายกฯ
“ไพบูลย์” เผย“บิ๊กป้อม”เตรียมลุกขึ้นซักฟอกนายกฯเอง “อิ๊งค์” หวั่นไหวแน่ลั่นยุบสภาอีกไม่นาน“ปกรณ์วุฒิ”ปธ.วิปฝ่ายค้าน รอถกวิป 3 ฝ่ายเคาะวัน“ซักฟอก”ชงอภิปราย 4 วัน จบไม่เกิน 5 ทุ่ม ชี้นายกฯต้องแจงด้วยตัวเองหรือไม่ ต้องดูบริบทปมวิวาทะ“วิสุทธิ์”ยังไม่เคลียร์ โกรธจริงซีกรัฐบาล “อนุทิน” ยัน“ภท.” พร้อมเคียงข้างนายกฯ‘อิ๊งค์’สู้ศึกซักฟอก พร้อมซัปพอร์ต‘ข้อมูล-ช่วยแจง’ยันไม่แตกแถวยกมือโหวตอุ้ม ยันไร้ปัญหาทำงานต่างGENนายกฯขอเป็น‘ลุงหนูใจดี’ไร้พิษภัย ‘ประเสริฐ’เผยสส.เพื่อไทย ประชุม เตรียมรับมือซักฟอก เชื่ออิ๊งค์แจงได้-สามารถมอบเจ้ากระทรวงตอบแทนได้ ชี้จ้อ 1วันเพียงพอ หากไม่นอกประเด็น-สร้างวาทกรรม พร้อมประท้วงพาดพิง‘นายใหญ่
เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2568 เวลา13.00 น.ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค พปชร.เป็นประธานการประชุม ศูนย์นโยบายและวิชาการและเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค จากนั้นเวลา 14.15 น. ภายหลังประชุมเสร็จสิ้น ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยพล.อ.ประวิตรไม่ตอบคำถามใดๆ ก่อนขึ้นรถยนต์ออกจากที่ทำการพรรคไป
‘ลุงป้อม’เตรียมลุกซักฟอก‘อิ๊งค์’
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่าพล.อ.ประวิตร มีดำริจะเป็นผู้ร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจในครั้งนี้ ส่วนจะเป็นประเด็นใดให้รอฟังรายละเอียดอีกครั้ง ส่วนประเด็นที่พรรคจะอภิปรายไม่ไว้วางใจ มีไม่น้อยกว่า 4 ประเด็น ตั้งแต่กรณีสนามกอล์ฟอัลไพน์เอ็มโอยู 2544 กาสิโน และคดีชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ รวมถึงมีเรื่องอื่นด้วย โดยพล.อ.ประวิตร จะอภิปรายในภาพรวม ส่วนจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจกี่วันนั้นจะต้องสอบถามฝ่ายที่จัดสรรเวลา เบื้องต้นพรรค ได้เวลาในการอภิปราย 2 ชั่วโมงซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ มั่นใจว่าจะทำให้นายกฯหวั่นไหวแน่
ลั่นยุบสภาระยะเวลาอันสั้นแน่
ผู้สื่อข่าวถามว่าถึงขั้นจะทำให้มีการยุบสภาฯได้หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่าในระยะเวลาอันสั้น ส่วนที่นายกฯระบุพร้อมตอบเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนั้นก็แล้วแต่ท่านก็รอแล้วกันแต่มั่นใจว่ามีผลกับความมั่นคงของตัวนายกฯอย่างยิ่ง
โวพร้อมลุยชำแหละถล่ม’อิ๊งค์’
ขณะที่นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร รองหัวหน้าพรรคพปชร. กล่าวว่าในวันที่ 24 มี.ค.จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯซึ่งพรรค พปชร.ให้ความสำคัญเรื่องนี้เพราะเราทำหน้าที่ฝ่ายค้านตรวจสอบรัฐบาลจะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์แบบ จะชี้ให้เห็นถึงเหตุผล ข้อบกพร่องในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลชุดนี้นำโดยน.ส.แพทองธาร เพราะมีทั้งความล้มเหลว สิ่งที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ ขาดการเป็นผู้นำพรรคพปชร.พร้อมที่จะอภิปรายภายใต้กรอบกฎหมายและข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เรามุ่งมั่นใจตั้งใจที่จะตรวจสอบรัฐบาลอย่างตรงไป ตรงมาเพื่อนำข้อเท็จจริงมาสู่ประชาชน และเกิดประโยชน์ต่อประชาชน
นายอัคร ทองใจสด สส.เพชรบูรณ์ รองโฆษกพรรค พปชร.กล่าวว่า ผลการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและคณะทำงานนโยบายและยุทธศาสตร์พรรค มีการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯที่จะมีขึ้นวันที่ 24 มี.ค.พรรคได้เตรียมนำรายชื่อบุคคลและประเด็นสาระสำคัญในการอภิปรายแล้วซึ่งการอภิปรายครั้งนี้เรามีข้อมูลที่เป็นความจริงและประโยชน์กับประชาชนเพื่อพิจารณาการทำงานของนายกฯ
พปชร.เปิด13ผู้สมัครสส.อีสาน
เวลา 13.30 น.ที่ทำการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร รองหัวหน้าพรรค พปชร.นำแถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ภาคอีสาน 13 คนโดยหัวหน้าพรรคได้ให้การรับรองเป็นว่าที่ผู้สมัครเรียบร้อยแล้ว โดยนายชัยมงคลกล่าวว่าผู้คนเหล่านี้จะเป็นตัวแทนพรรคในการลงพื้นที่ เพื่อนำอุดมการณ์ แนวทางของพรรค พปชร.ไปสู่ประชาชน ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในระยะใกล้หรือครบวาระพรรคมีความพร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ขณะนี้พรรค พปชร.อยู่ในช่วงของระยะผลัดใบ พร้อมชูธงในการเลือกตั้งเป็นพรรคอนุรักษ์นิยมทันสมัย ยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ จึงทำให้มีผู้สนใจสมัครเป็นสมาชิกจำนวนมาก แต่ยังเปิดตัวไม่ครบ และคาดว่า จะมีการเปิดตัวเป็นรายสัปดาห์ในภาคใต้และภาคอีสานเพิ่มเติม โดยพรรค พปชร.ต้องการคนดี คนที่ยินดีรับใช้ประชาชน และอยู่เคียงข้างประชาชนมาเป็นตัวแทนของพรรค
รอถกวิป3ฝ่ายเคาะซักฟอกกี่วัน
ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน(ปชน.)ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข้อถกเถียงเรื่องจำนวนวันอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลว่าจะต้องมีการพูดคุยกับวิป3ฝ่ายอีกครั้ง เพราะตอนที่ขอไป 5 วันก็มีการเตรียมการไว้แล้วว่าจะมีผู้อภิปรายประมาณไหน ซึ่งที่ขอไป 5วันนั้นไม่ใช่ฝ่ายค้านต้องลุกมาพูดทั้ง 5 วันเลย ต้องมีเวลาให้คณะรัฐมนตรี ชี้แจงด้วย เราต้องพูดกันทั้ง 2 ฝ่าย รัฐบาลคงทราบดีอยู่แล้วว่าต้องมีการแบ่งเรื่องเวลากัน
“ผมเห็นข่าวแต่ไม่แน่ใจว่าใครเป็นคนพูดว่าการจะออกมาพูดว่าขอเวลาอภิปราย 5วันนั้นเป็นการผิดมารยาทซึ่งผมก็ไม่เข้าใจว่าผิดมารยาทตรงไหน จริงๆผมเห็นข้อดีคือการที่ผมบอกก่อนนั้นรัฐบาลจะได้เตรียมการได้คร่าวๆว่าฝ่ายค้านเตรียมผู้อภิปรายไว้ประมาณไหน แต่ทางรัฐบาลกลับออกมาตอบโต้ว่าจะให้เวลาในการอภิปรายเพียง 1 วัน ส่วนเรื่องดีอีกเรื่องคือเป็นเรื่องที่ประชาชนได้หยิบยกขึ้นมาวิพากษ์วิจารณ์ว่าพวกเขาเห็นอย่างไรแล้วพรรคการเมืองจะได้รับฟังเสียงจากสังคมแล้วนำมาตัดสินใจว่าการทำงานในสภาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณไหน”นายปกรณ์วุฒิ กล่าว
ชงอภิปราย4วันจบไม่เกิน 5 ทุ่ม
ส่วนหากสรุปแล้วไม่ได้ 5วันตามที่หวัง อยากได้ประมาณกี่วัน ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ตนค่อนข้างเห็นด้วยกับประธานวิปรัฐบาลที่บอกว่าไม่ควรจะประชุมสภากันถึงเวลา 01.00-02.00 น. เนื่องจากประชาชนแทบจะไม่ได้ติดตาม และส่งผลให้เนื้อหาสาระไม่ถูกออกไปสู่สาธารณะเท่าที่ควร ฉะนั้น ฝ่ายค้านจะเสนออภิปราย 4 วัน โดยที่จะเลิกประชุมประมาณเวลา 23.00 น. จึงคิดว่าพอจะเป็นไปได้อยู่และรัฐมนตรีจะได้ชี้แจงด้วย
ชี้นายกฯให้รมต.แจงแทนไม่เหมาะ
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องชี้แจงเพียงคนเดียวหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในส่วนของข้อบังคับเราคงต้องไปตีความกันว่าคำว่านายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีหมายถึงผู้ที่ถูกไม่ไว้วางใจเท่านั้นหรือไม่ หรือว่าหมายถึงรัฐมนตรีท่านอื่นด้วย แต่ส่วนตัวตนคิดว่าถ้าเรื่องไหนเกี่ยวกับกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งโดยตรง ก็ไม่ได้น่าเกลียดที่จะให้รัฐมนตรีกระทรวงนั้นๆ เป็นผู้ชี้แจง แต่หากเรื่องไหนที่เกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นายกรัฐมนตรีจำเป็นที่จะตอบด้วยตนเอง จะให้รองนายกรัฐมนตรีขึ้นมาตอบแทน คงไม่ค่อยเหมาะ ต้องดูบริบทของเนื้อหาที่อภิปรายด้วย
เหน็บไม่เคยเห็นซักฟอกวันเดียว
เมื่อถามถึง ข้ออ้างที่ระบุว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว จึงลดเหลือ 1 วัน นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตอนที่เป็นฝ่ายค้านด้วยกัน ยื่นอภิปรายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งพรรค พท.ก็บอกว่าอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นคนเดียว 30 ชั่วโมง แต่โดยปกติแล้วแน่นอนว่าจะต้องพุ่งเป้าไปที่นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้นำ แต่ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเคยมีการยื่นไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีเพียงท่านเดียว อยู่ไม่กี่ครั้ง แต่ไม่เคยเห็นการอภิปรายครั้งไหนที่อภิปรายไม่ไว้วางใจกันแค่วันเดียว
ยันไม่เคลียร์ปมวิวาทะ‘วิสุทธิ์’
เมื่อถามว่า กรณีการตอบโต้ระหว่างนายปกรณ์วุฒิและนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยในฐานะประธานวิปรัฐบาลจะถึงขั้นไม่ยกมือไหว้เลยหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า“ผมเป็นคนมีมารยาท ผมเกิดเป็นคนไทย ตั้งแต่เด็กเวลาเห็นผู้ใหญ่ผมก็ยกมือไหว้อยู่แล้ว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่3มีนาคมนั้น ต้องบอกตามตรงว่าผมโกรธจริงๆคนธรรมดามีอารมณ์โกรธได้ สิ่งที่โกรธ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเพราะเห็นการเมืองที่อ้างตัวเองว่าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยมาก่อนกลับพูดถึงเรื่องการยุบพรรค พูดถึงเรื่องอาวุธที่ฝ่ายเผด็จการนำมาประหัตประหาร นักการเมืองที่มาจากประชาชนได้ราวกับเป็นเรื่องตลกจึงได้ตอบโต้ออกไปในลักษณะนั้น แต่ก็ยังไม่เห็นว่าฝ่ายนั้นจะพูดถึงสิ่งที่ผมพูด แต่กลับไปพูดประเด็นอื่นแทน และคาดหวังว่าคงไม่มีเจตนาที่จะทำเช่นนั้น ซึ่งสิ่งที่น่าผิดหวังมากที่สุดคือนักการเมืองที่อยู่ในระบบประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่อ้างอยู่ตลอดว่าทำตามเสียงของประชาชน ยึดโยงกับประชาชนกลับไปพูดถึงอาวุธของเผด็จการที่มาประหัตประหารนักการเมืองราวกลับเป็นเรื่องตลกหรือเป็นเรื่องปกติ”
เมื่อถามว่า ได้เคลียร์กับนายวิสุทธิ์แล้วหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย แต่หากได้เจอกันก็คงได้คุยกันอยู่แล้ว ตนคิดว่าการกระทบกระทั่งเป็นเรื่องปกติ แต่เดี๋ยวมันจะผ่านไปและกลายเป็นหนึ่งในบทเรียนให้ทั้งสองฝั่งว่าการสื่อสารควรจะหยุดที่ประมาณไหน ซึ่งหากไปถามสมาชิกพรรคเพื่อไทยคนอื่น เชื่อว่าก็คงมีบางท่านไม่สบายใจเช่นกัน
‘หนู’ยันภท.พร้อมเคียงข้างอิ๊งค์
ที่กระทรวงมหาดไทย(มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังจากฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายแค่ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนเดียว จะสนับสนุนอย่างไรในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลว่า ท่าทีของตนในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันหลายครั้งแล้วตั้งแต่วันที่มีการหารือในการร่วม
“ผมก็ยืนยันว่าพรรคภูมิใจไทยพร้อมจะให้การสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค พอวันรุ่งขึ้นพรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติปรากฏว่าอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯเพียงคนเดียวพรรคภูมิใจไทยก็ยังคงยืนยันเจตนารมณ์ เราต้องให้การสนับสนุน พร้อมที่จะยืนอยู่เคียงข้างนายกรัฐมนตรีในการชี้แจงเรื่องญัตติไม่ไว้วางใจ”นายอนุทิน ระบุ
ไม่แตกแถวยกมือโหวตอุ้ม
เมื่อถามว่า สส.พรรคภูมิใจไทย มีความเป็นเอกสิทธิ์ หากมีคนใดแตกแถว ดื้อ ไม่โหวตสนับสนุนนายกฯ จะดำเนินการอย่างไร หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า สส.ทุกคน มีเอกสิทธิ์ แต่หลักปฏิบัติทุกครั้งเราจะประชุมหารือกัน ที่ผ่านมาตั้งแต่ร่วมรัฐบาลมา 6 ปี เราไม่เคยมีปรากฏการณ์สส.เห็นไปในทิศทางที่ต่างกัน สิ่งที่เราไม่สนับสนุนคือเป็นที่พิสูจน์ชัดว่า ผู้ถูกอภิปรายได้กระทำสิ่งที่ผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม ผิดต่อหลักการบริหารบ้านเมือง ขาดจริยธรรมขัดต่อรัฐธรรมนูญ นี่ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรามั่นใจว่าน.ส.แพทองธาร เราทำงานด้วยกันมาโดยตลอด ตนยังไม่เห็นว่านายกฯกระทำใดๆ ที่ผิดพลาดออกไปจากการบริหารราชการแผ่นดินบริหารด้วยธรรมาภิบาล ความซื่อสัตย์สุจริต เห็นชัดเจนอยู่ว่า นายกฯมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง
ทั้งรมต.ต้องลุกชี้แจงในสภา
เมื่อถามว่าทางพรรคเพื่อไทยจะมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯในฐานะที่เป็นรมว.มหาดไทย จะเป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯด้วยหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่าการที่นายกฯถูกอภิปราย ถือว่ารัฐบาลและคณะรัฐมนตรีทุกคนต้องมีส่วนร่วมชี้แจงในหน้าที่การงานตัวเอง เพราะทุกคนทำตามนโยบายรัฐบาล ทำตามข้อสั่งการของนายกฯทุกอย่าง หากมีการพาดพิงหน่วยงานใดหน่วยงานนั้นก็ต้องชี้แจงให้สภาฯและประชาชนได้รับทราบ เป็นเรื่องปกติ นายกฯจะมาทราบรายละเอียดในการทำงานของแต่ละหน่วย แต่ละกระทรวงคงไม่ขนาดนั้น
พร้อมซัปพอร์ตข้อมูลให้นายกฯ
“อย่าไปเรียกว่าองครักษ์พิทักษ์ ฟังดูแล้วเหมือนนายกฯทำอะไรไม่ดีแล้วต้องคอยปกป้อง เรายังมั่นใจว่า นายกฯทำตามหน้าที่ทำตามบทบาทโดยถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง หากเกี่ยวข้องกับหน่วยงานในกระทรวงมหาดไทยหรือในส่วนพรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรีของพรรคทุกคนก็พร้อมที่จะลุกขึ้นชี้แจงในรายละเอียด หรือมีหน้าที่ที่จะเตรียมข้อมูลส่งให้หากนายกฯมีความประสงค์จะตอบเองอยู่ที่การตัดสินใจของท่านเราต้องพร้อม”นายอนุทิน กล่าว
ไร้ปัญหาทำงานGENนายกฯ
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีระบุเป็นนายกฯGEN Y ในฐานะที่เป็น GEN X จะเปลี่ยนให้เข้าหากันอย่างไรว่าตนไม่เคยมีปัญหาในการทำงาน A-Z เข้าได้อยู่แล้ว ตนปรับตัวเข้ากับคนได้ง่าย พยายามเข้าใจเจตนารมณ์ และความต้องการ แนวความคิดของคนทุกคนที่ตนมีปฏิสัมพันธ์ด้วย ตนไม่ค่อยมีปัญหา เพื่อนตนมีตั้งแต่ถือไม้เท้ายันระดับวัยรุ่น ตนคบกับคนทุกระดับทำให้เราปรับตัวได้ และเข้าใจความรู้สึกของเขามากขึ้นเวลาทำงาน เราก็สามารถครอบคลุมได้ทุกช่วงวัย ตนเคยเป็นรมว.สาธารณสุข เข้าใจตั้งแต่วัยเจริญภัณฑ์จนถึงวัยสูงอายุ
ขอเป็น‘ลุงหนูใจดี’ไร้พิษภัย
เมื่อถามว่า ตอนนี้เป็นดาวดวงใหม่ของ GEN Z แล้ว นายอนุทิน หัวเราะพร้อมกล่าวว่า “ตอนนี้ผมยังใส่เสื้อเฉิ่ม ใส่ชุดซาฟารีอยู่เลย ขอเป็นคุณลุงใจดีให้กลุ่ม GEN Z จริงๆ เป็นคนใจดี เป็นคนอารมณ์ดี เป็นคนที่หวังดี เชื่อคนง่าย ไม่มีพิษไม่มีภัย น่าคบ น่ารักด้วย“
‘เพื่อไทย’ถกรับมือซักฟอก‘อิ๊งค์’
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงการประชุม สส.พรรคช่วงบ่ายวันนี้ว่าจากการที่ได้คุยกับประธานที่ประชุมสส.พรรคเพื่อไทย จะมีการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีซึ่งในฐานะนายกฯ Gen Yคนแรก ตนเชื่อว่านายกรัฐมนตรีสามารถตอบได้อยู่แล้ว ตั้งแต่มีบางเรื่องที่อาจมีสงสัยและต้องลงรายละเอียดจึงมอบให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลแต่ละกระทรวงชี้แจงแทนได้ซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับที่อนุญาตอยู่แล้ว
พร้อมประท้วงพาดพิง‘ทักษิณ’
นายประเสริฐ กล่าวถึงจะมีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกรัฐมนตรีหรือไม่นั้นว่า ในสภาฯสมาชิกสามารถลุกขึ้นประท้วงได้ในกรณีที่มีการพูดผิดข้อบังคับซึ่งเป็นปกติอยู่แล้วที่สมาชิกฝ่ายรัฐบาลจะมีหน้าที่คอยช่วยดูส่วนนี้เมื่อถามว่าจะกำชับสมาชิกให้ลุกขึ้นประท้วงหากมีการเอ่ยชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการอภิปรายหรือไม่นายประเสริฐ ตอบว่าต้องยึดข้อบังคับที่กำหนดว่าไม่ควรเอ่ยถึงบุคคลที่3โดยไม่จำเป็น และหากเอ่ยแล้วทำให้เกิดความเสียหาย ยิ่งไม่ควรเอ่ยจึงขอให้เป็นไปตามข้อบังคับ
ย้ำ1วันพอ/ถ้าไม่นอกประเด็น
เมื่อถามว่าได้มีการส่งสัญญาณจากฝั่งรัฐบาลไปแล้วหรือไม่ว่าจะสามารถอภิปรายได้ในวันใดนายประเสริฐ กล่าวว่า เท่าที่ทราบและติดตามดู น่าจะเป็นวันที่ 24 มีนาคม ส่วนระยะเวลาจะเป็นเท่าใดนั้น เข้าใจว่าประธานสภาฯจะมีการเรียกวิป3ฝ่ายเข้ามาคุยกันและขอวันจากรัฐบาล
ส่วนกรณีที่ประธานวิปรัฐบาลยืนยันจะให้ฝ่ายค้านอภิปรายเพียง 1วัน ยังคงเป็นไปตามนั้นหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ประธานวิปรัฐบาลได้ให้สัมภาษณ์แบบนั้น แต่คิดว่าในเรื่องนั้น ถ้าดูจากญัตติที่ฝ่ายค้านยื่น ขอให้การอภิปรายเป็นไปตามญัตติ อย่าอภิปรายนอกประเด็น ถ้าหากไม่สร้างวาทกรรม คิดว่าการอภิปรายด้วยความกระชับจะใช้เวลาไม่นาน 1วัน อาจจะเพียงพอ แต่เป็นเรื่องที่จะต้องไปตกลงกัน
‘เพื่อไทย’เฮ!รอดคดียุบพรรค
รายงานว่านายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้มีความเห็นกรณีนายนพรุจ วรชิตวุฒิกุล อดีตแกนนำกลุ่มพิราบชาว 2006 ยื่นคำร้องต่อ กกต.และนายทะเบียนพรรคการเมือง ขอให้พิจารณาว่า พรรคเพื่อไทย (พท.) กระทำการเข้าข่ายความผิดต้องยุบพรรค การเมือง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 หรือไม่ กรณีพรรคเพื่อไทย(พท.)ส่งนายชาญ พวงเพ็ชร ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาและชี้มูลความผิดคดีทุจริต
โดยสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)โดยนายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาคำร้องแล้ว เห็นว่าการกระทำดังกล่าว มิใช่การกระทำอย่างหนึ่งอย่างใด ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (4 )แห่งพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 อันเป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมืองแต่อย่างใดและไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดให้พรรคการเมืองต้องดำเนินการคัดเลือกบุคคลเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น กรณีจึงไม่มีหลักฐานหรือข้อมูลเพียงพอที่จะรับคำร้องไว้ดำเนินการ ตามข้อ6วรรคสอง ของระเบียบ กกต.ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง2566
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี