‘หนู’ยอมรับมุด‘จันทร์ส่องหล้า’
พา‘เนวิน’พบ‘แม้ว’
ปัดเคลียร์ใจ-แค่ขอคำปรึกษา
สั่ง‘สส.-รมต.ภท.’ห้ามแตกแถว
ศึกอภิปรายต้องหนุนนายกฯ
เพื่อไทยเย้ย‘ลุงป้อม’ซักฟอก2วิ
“สมคิด”แซะ“บิ๊กป้อม”ซักฟอกนายกฯชี้ 4 ปีเห็นอภิปราย 2 วิ แนะเลขาฯ พปชร.ติวเข้ม เพราะต้องยืนเป็นชั่วโมง เตือนฝ่ายค้านเขียนญัตติแคบ อย่าโวยวายพูดได้ไม่เยอะ ด้าน“อนุทิน”รับ พา“เนวิน”เข้าพบ“ทักษิณ-นายกฯจริง” คุยกันหลายเรื่อง ปัดเคลียร์ใจรับศึกซักฟอก กำชับสส.-รมต.ห้ามโดดประชุม พร้อมซัพพอร์ตข้อมูลนายกฯคาดโทษหากหายเตรียมone way ticketชี้’ลุงป้อม’อภิปรายสั้น-ยาว ต้องฟังเชื่อมีน้ำหนัก
เมื่อวันที่ 5มีนาคม2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีมีกระแสข่าว เมื่อวันที่ 24ก.พ.ที่ผ่านมา “คีย์แมน” ผู้มีอิทธิพลทางการเมือง 4คน ได้แก่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี,น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.),นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) นัดพบกันที่โรงแรมพูลแมน ซอยรางน้ำ กทม.เพื่อหารือเคลียร์ใจในหลายเรื่อง ก่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เนื่องจากความเห็นไม่ตรงกันของทั้ง 2พรรค แม้วันดังกล่าวผู้สื่อข่าวต่างมุ่งไปสังเกตการณ์การหารือครั้งสำคัญนี้ แต่กลับไม่พบความเคลื่อนไหวที่โรงแรมพูลแมน พบเพียง นายเนวิน เดินทางมาทำธุระส่วนตัวตามปกติ อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวล่าสุดยืนยันว่า ทั้ง 4คน ได้พบปะพูดคุยกันเรียบร้อย แต่ไม่ได้รับการเปิดเผยว่าหารือกันในประเด็นใดบ้าง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีรายงานเพิ่มเติมว่า ทั้ง4คนนัดพบกันเมื่อวันที่ 2มี.ค.ที่ผ่านมา ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า โดยเป็นการหารือแค่ 2เรื่อง คือ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์และการพนันออนไลน์ ไม่ได้พูดคุยในเรื่องอื่น จึงเป็นที่มาของการชะลอนำเรื่องดังกล่าวเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่3มี.ค.ที่ผ่านมา
‘อนุทิน’รับพา’เนวิน’เข้าพบ’แม้ว-อิ๊งค์’
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ยอมรับถึงกระแสข่าวที่ได้พบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ยูไนเต็ดและนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่บ้านจันทร์สองหล้า เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่ผ่านมา โดย นายอนุทิน ย้อนถามสื่อว่า ทราบได้อย่างไร พร้อมกับหัวเราะ ก่อนยอมรับว่า ไปเป็นเรื่องปกติเป็นประจำอยู่แล้ว ก่อนถามกลับอีกครั้งว่า รู้ได้อย่างไร ยอมรับว่า ตนเป็นคนชวนไป นัดกันวันหยุดอยู่กันพอดี พร้อมยอมรับว่า มีการหารือหลายเรื่อง แต่ไม่มีอะไรมาก เป็นการขอคำแนะนำเนื่องจากนายทักษิณ เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ แต่รู้กันได้อย่างไร เพราะไม่มีคนอื่น ใครหลุดออกมา
คุยกันหลายเรื่อง-รวมทั้งรับศึกซักฟอก
เมื่อถามย้ำว่า ยอมรับใช่หรือไม่ว่าได้เดินทางไปบ้านจันทร์ส่องหล้าจริง นายอนุทิน ถึงกับอุทานว่า “โห่ ผมยืนอยู่ตรงนี้ก็พูดแล้วว่า ไปพบกันทุกเดือนเป็นเรื่องปกติ“พร้อมระบุว่า เมื่อตนถามอะไร นายทักษิณ ก็ให้คำแนะนำดีๆเสมอ เมื่อถามต่อว่า มีประเด็นการหารือเรื่องร่างพระราชบัญญัติเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์และ เรื่องพระราชบัญญัติการพนันออนไลน์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็คุยกันทุกเรื่อง ทั้งการอภิปรายไม่ไว้วางใจและนโยบายรัฐบาล
ไม่มีการเคลียร์ใจ-คุยกันประจำอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า ได้พูดคุยเรื่องจัดแข่งขันโมโตจีพีด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี ไม่ได้คุยเรื่องนี้ เพราะเรื่องนี้อีกนาน เมื่อถามย้ำว่า ถือเป็นการเคลียร์ใจหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมา มีกระแสข่าวถึงรอยร้าวระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี เพราะตนคุยกับ นายทักษิณ เป็นประจำอยู่แล้ว ไม่คุยโทรศัพท์ก็คุยไลน์ ไม่เคยมีอะไรที่เป็นปัญหา เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะมีประเด็นออกมาอีกหรือไม่ว่าพรรคภูมิใจไทยขวางพรรคเพื่อไทย หรือประเด็นรอยร้าว นายอนุทิน ถึงกับย้อนถามกลับสื่อว่า เดี๋ยวก่อนนะ ภูมิใจไทยเคยขวางอะไรเพื่อไทย หากผู้สื่อข่าวพูดแบบนี้เอาอีกแล้ว เสี้ยมคนให้ชนกันอีก
ห้ามรมต.โดดร่ม-ต้องอยู่ช่วยนายกฯ
เมื่อถามต่อว่า การหารือที่บ้านจันทร์ส่องหล้าได้มีการหารือถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตรงนั้นไม่ต้องพูดหรอก เราเชียร์กันมาตั้งแต่วันดินเนอร์พรรคร่วมฯ ซึ่งตอนนั้นยังไม่ทราบว่านายกฯจะถูกอภิปรายคนเดียว แต่พอวันรุ่งขึ้นทราบว่า นายกฯถูกอภิปรายคนเดียว ตนก็ออกมาให้ความมั่นใจว่าพรรคภท.สนับสนุนนายกฯเต็มที่ เมื่อถามว่า เสียงโหวตพรรคภูมิใจไทยจะเป็นแนวทางเดียวทั้งพรรคหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า วันนั้นสมาชิกพรรคภูมิใจไทยห้ามลา ห้ามขาด รัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทยทั้ง 8 คน ต้องอยู่ในสภาเตรียมข้อมูลที่ถูกพาดพิงก็ต้องตอบได้ เราจะไปหวังให้นายกฯตอบคนเดียวก็ไม่ได้ ท่านจะไปรู้เรื่องรายละเอียดได้อย่างไร แต่หากมีความประสงค์ที่จะตอบเอง ก็ต้องเตรียมข้อมูลนำเสนอให้นายกฯ ซึ่งก็มีการเตรียมตัวที่จะสนับสนุนนายกฯอย่างเต็มที่
‘ลุงป้อม’ลุกซักฟอก-พวกเราต้องรับฟัง
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะร่วมอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย นายอนุทิน ย้อนถามกลับว่า “อ๋อ เหรอ ก็ดี เพราะไม่ได้เห็นท่านในสภามานาน คิดถึง”เมื่อถามว่า คาดหวังต่อการอภิปรายของ พล.อ.ประวิตร ครั้งนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เราต้องให้ความเคารพการอภิปรายของสส.ทุกคน ถ้านักข่าวถามถึงพล.อ.ประวิตร ก็ต้องบอกว่าท่านก็เป็นสส.แล้วคนระดับท่านพูดอะไรมาก็ต้องมีน้ำหนัก จะพูดสั้นหรือยาวก็มีน้ำหนัก เมื่อถามว่าในฐานะที่ทำงานร่วมกันมารู้สึกอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า คนละบทบาทหน้าที่ วันนี้เราเป็นบทบาทรัฐบาล แม้คนที่เราเคยทำงานร่วมกันมา วันนี้จะไปมีบทบาทเป็นฝ่ายค้านเราก็ต้องรับฟังและชี้แจง เมื่อฝ่ายค้านซักฟอกรัฐบาลก็ต้องชี้แจง ถ้าชี้แจงได้ก็รอด แต่ถ้าชี้แจงไม่ได้ก็ไม่รอด ถึงแม้จะรอดมือที่โหวต แต่ก็ไม่รอดสังคม ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือ ต้องชี้แจงให้ได้ นำข้อเท็จจริงออกมาตีแผ่ให้มากที่สุด ซึ่งหน่วยงานที่เรากำกับดูแลทั้ง4 กระทรวงพร้อมอยู่แล้ว รัฐมนตรีคนไหนไม่พร้อม ตนก็ตัดสินรัฐมนตรีในส่วนของตนได้ ต้องพร้อม ไม่อยู่ก็ไม่ได้นะ ถ้าไม่อยู่ก็ “one way ticket” ก่อนกล่าวย้ำว่า นี่ตนพูดถึง รมต.ภูมิใจไทยนะ
ออกพ้นระเบียบข้อบังคับต้องประท้วง
เมื่อถามว่า ทางพรรคพลังประชารัฐออกมาระบุว่า ข้อมูลที่ พล.อ.ประวิตร จะอภิปรายจะทำให้รัฐบาลสั่นสะเทือนถึงขั้นยุบสภาได้ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ต้องฟังการอภิปรายก่อน เพราะไม่รู้ว่ามีข้อมูลอะไรบ้าง ของพวกนี้มันโกหกไม่ได้ คนที่อภิปรายเขาก็ต้องมีหลักฐาน คนที่ถูกอภิปรายก็ต้องแก้ต่าง ขึ้นอยู่กับวิธีการของแต่ละคน ส่วนการอภิปรายไม่ไว้ใจครั้งนี้ จะเห็นสส.ภูมิใจไทย ทำหน้าที่เป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯหรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ขอใช้คำว่า เป็นองครักษ์พิทักษ์นายกฯ หน้าที่คือถ้าใครไม่อยู่ในกฎระเบียบผิดข้อบังคับ ก็มีสิทธิ์ที่จะลุกขึ้นทักท้วงเพื่อไม่ให้เกิดการเสียเวลา เพราะหากใช้เวลานานเกินไป ก็ไม่เกิดประโยชน์ หากมีการพาดพิงก็ต้องดูว่า อยู่ในระเบียบข้อบังคับหรือไม่
‘สมคิด’แซะ’บิ๊กป้อม’ซักฟอก2วินาที
นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง กล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านระบุรัฐบาลใจแคบที่ให้อภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงไม่กี่วันว่า ในยุคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้าน ร่วมกับพรรคประชาชน เคยขออภิปรายรัฐบาล 5วัน แต่ได้มา 3วัน โดยมีรัฐมนตรี11คนแต่ครั้งนี้อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯคนเดียว
ส่วนเรื่องจำนวนวันอภิปราย ตอนนี้ยังเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ โดยวิป 3ฝ่ายยังไม่มีการพูดคุยกัน ซึ่งตอนนี้เปรียบเสมือนการขายของ คนซื้ออยากได้ของถูกคนขายอยากขายของแพง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส. บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพปชร.จะลุกขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย นายสมคิด กล่าวว่า ต้องขอบคุณที่ พล.อ.ประวิตร จะลุกขึ้นอภิปราย ซึ่งความจริงมีความเป็นห่วงท่านที่จะอภิปรายครั้งนี้ เพราะท่านเคยอยู่สภาฯและเท่าที่เคยเห็น 4ปีท่านอภิปรายได้แค่ 2วินาที แต่ครั้งนี้เห็นว่า จะยืนเป็นชั่วโมง ซึ่งต้องขอขอบพระคุณท่านก็ไม่เป็นอะไรเราก็เตรียมที่จะตอบ และยินดีที่จะอภิปรายและขอให้กำลังใจท่าน โดยขอให้ทีมรอบๆข้าง รวมไปถึงเลขาธิการพรรค พยายามให้ข้อมูล พล.อ.ประวิตร เยอะๆจะได้พูดคุยกับประชาชนได้ สำหรับตนเองจะรอดู ไม่ไปไหน
มุ่งนายกฯคนเดียว-ตีกรอบให้ตัวเอง
เมื่อถามว่า รู้สึกหวั่นไหวกับข้อมูลของพรรคประชาชนที่จะอภิปรายฯหรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่ต้องหวั่นไหว หากถามมาก็ตอบไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะตอบมากที่สุด ทั้งนี้ จากการได้ไปดูญัตติที่ฝ่ายค้านเขียนมา มีเรื่องการครอบงำ ภาวะผู้นำ เชื่อว่านายกฯจะสามารถตอบได้ ไม่ต้องเป็นห่วง ส่วนจะไปพาดพิงกระทรวง ทบวง กรมไหน ตัวรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องก็สามารถชี้แจงได้และจากการพูดคุยเบื้องต้น ญัตติแบบนี้ไม่ค่อยได้เกิดบ่อยนัก ซึ่งเคยเกิดครั้งหนึ่งในสมัย นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกฯ นอกจากนั้น เป็นการอภิปรายนายกรัฐมนตรีและคณะหรือรัฐมนตรีรายบุคคล ดังนั้นกรอบการอภิปรายของฝ่ายค้านก็จะง่ายขึ้น เพราะต้องมีการตกลงกันก่อนประชุมว่า ญัตติเช่นนี้จะพูดได้แค่ไหน ฝ่ายค้านจะมาโวยวายว่า พูดถึงใครก็ไม่ได้นะ เพราะเขียนญัตติมาแบบนี้ ทำไมไม่เขียนมาว่าอภิปรายนางสาวแพทองธาร ชินวัตร และคณะ เพื่อจะพูดได้หมดเลย แต่พอเขียนกรอบแคบแบบนี้ สมาชิกจะยอมหรือไม่ ประธานสภาจะทำได้หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี