เป็นเรื่องแล้ว! ‘หมอวรงค์’ยื่นหนังสือบี้‘อันวาร์’ ปลด‘ทักษิณ’พ้นกุนซือ ซัดส่อจุ้นกิจการภายในไทย
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก "วรงค์ เดชกิจวิกรม - Warong Dechgitvigrom" ระบุว่า #มายื่นหนังสือต่อสถานทูตมาเลเซีย เพื่อส่งต่อนายกฯ ในฐานะประธานอาเซียน นี่คือรายละเอียดของหนังสือทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ที่ส่งถึงนายกฯ มาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน
พรรคไทยภักดี 6 มีนาคม 2568 เรื่อง ขอให้ทบทวนบทบาทหน้าที่ของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของประธานอาเซียน อันเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทย
เรียน ฯพณฯ อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ประธานอาเซียน ผ่าน เอคอัครราชทูตมาเลเซียประจำประเทศไทย
สืบเนื่องจากการที่ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาไม่ป็นทางการของประธานอาเซียน ได้ลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ของประเทศไทย เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งนายทักษิณได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนว่า มาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่ปรึกษาของประธานอาเซียน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนประชาชน และพบปะกับผู้นำทางการเมือง ผู้นำท้องถิ่น เพื่อปรึกษาหารือการพัฒนาพื้นที่ด้วยการมุ่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และยาเสพติด พร้อมได้ขึ้นเวทีปราศรัยกับประชาชน ณ ห้องประชุมโรงเรียนสายบุรีอิสลามวิทยา อ.สายบุรี จ.ปัตตานี แสดงความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ พร้อมได้ให้สัญญาว่า ภายใน 1 ปี ประชาชนในพื้นที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ มีสันติสุขเกิดขึ้น
การกระทำของ นายทักษิณ ชินวัตร เป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่สังคมไทยเกิดข้อสงสัย และคำถามว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่เกินขอบเขตฐานะที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของประธานอาเซียนหรือไม่ ประธานอาเซียนรับทราบ และเห็นชอบการปฏิบัติหน้านี้หรือไม่ ทั้งๆ ที่ควรจะกระทำเพียงการรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่ รวบรวมเป็นข้อมูลเพื่อรายงานต่อประธานอาเซียนเท่านั้น การกระทำดังกล่าวจึงเกิดคำถามว่า เป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งผิดหลักการตามกฎบัตรอาเซียน และเป็นการไม่เคารพต่ออำนาจอธิปไตยของประเทศไทย
พรรคไทยภักดีขอเรียนมายังท่านประธานอาเซียน เพื่อเป็นข้อมูลว่า เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้นั้น มีสาเหตุสำคัญอันเกิดจากการบริหารจัดการพื้นที่ที่ผิดพลาด ในสมัยที่ นายทักษิณ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เริ่มต้นจากการขาดความรู้ความเข้าใจในบริบทสถานการณ์พื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ได้ทำการสั่งยุบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งเป็นหน่วยงานสำคัญ ในการอำนวยการสร้างความสงบสุข สันติสุขในพื้นที่
ซึ่งต่อมาได้เกิดเหตุการณ์ปล้นอาวุธปืน 413 กระบอก จากค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ ค่ายปิเหล็ง อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2547 รัฐบาลทักษิณได้ใช้วิธีการเชิงอำนาจนิยมที่กร้าวร้าว ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบที่เกิดขึ้น ทั้งกระบวนการอุ้มหายประชาชนในพื้นที่ การแก้ไขเหตุการณ์ สถานการณ์วิกฤตด้วยความรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ที่มัสยิดกรือเซะ จังหวัดปัตตานี จำนวน 32 คน และเหตุการณ์ที่อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 78 คน ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์ เป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความเคียดแค้นของประชาชนในพื้นที่ ต่อรัฐไทยเป็นอย่างยิ่ง เป็นส่วนในสาเหตุสำคัญของปัญหาความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจวบจนถึงปัจจุบัน
พรรคไทยภักดี จึงเรียนมายังท่านประธานอาเซียน เพื่อได้โปรดทบทวนบทบาทหน้าที่ของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษาไม่เป็นทางการของประธานอาเซียน เสียใหม่ เพื่อเป็นการป้องกันผลกระทบ อันจะเป็นการทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นการแทรกแซงกิจการภายในของประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี