"อนุทิน"วอนอย่าโยงดีล"4 บิ๊กการเมืองจันทร์ส่องหล้า"พันคดี"ฮั้ว สว." ปัดตอบ"พท.-ภท."จูบปากสงบศึกชั่วคราวช่วงใกล้ศึกซักฟอก ยันพรรคร่วมฯไม่ปล่อย"นายกฯ"เคว้ง รับ"เพื่อไทย"อาจจะกังวล เหตุเป็น"รัฐบาลผสม"ครั้งแรก แจงอวย"อิ๊งค์"เป็นลูกเสือ คำตอบอธิบายตัวมันเอง

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ปฏิเสธให้ความเห็นกรณีที่คณะข้าราชการประจำส่วนใหญ่ ไม่เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) เพื่อพิจารณาจะรับหรือไม่รับคดีฮั้วเลือก สว.เป็นคดีพิเศษ หรือไม่ ว่า ตนไม่เกี่ยวข้อง ไม่ได้สนใจรายละเอียด และไม่ใช่ภารกิจตน ขอให้ไปถาม รมว.ยุติธรรม มีเพียงปลัดกระทรวงมหาดไทย ที่อยู่ใน กคพ.ซึ่งมอบหมายให้อธิบดีกรมการปกครอง เข้าร่วมประชุมแทน

เมื่อถามต่อว่า จะเป็นการได้รับสัญญาณอะไรก่อนหน้านี้หรือไม่ หลังจากที่ 4 ผู้ทรงอิทธิพลทางการเมือง ไปพบกันที่บ้านจันทร์ส่องหล้า นายอนุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า อย่าไปผูกพัน เค้าเรียกว่าคนละเรื่องเดียวกันแล้ววันนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีแล้ว รัฐบาลมีความเข้มแข็งจะตาย นายกฯก็บอกว่ามีความมั่นใจ และคณะรัฐมนตรีก็ให้ความมั่นใจกับนายกฯ ว่าจะสนับสนุนเต็มความสามารถทำให้นายกฯ ชี้แจงการอภิปรายให้เคลียร์ที่สุดเท่าที่จะเคลียร์ได้ และทำให้ประชาชนเห็นถึงความตั้งใจของนายกฯ และรัฐบาลชุดนี้ในการทำงานเพื่อรับใช้ประชาชน

เมื่อถามย้ำว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้คลี่คลายเบาลงแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่มีสถานการณ์การเมืองที่ตึงเครียด และบุคลิกโดยทั่วไปของนายกฯ ก็ดูเป็นคนอารมณ์ดี ให้เกียรติให้ความเคารพรัฐมนตรีแม้อายุน้อยกว่าทุกคน เพราะเราไม่ได้มองว่านายกฯ เป็นคนที่อายุน้อยกว่า แต่มองว่าท่านเป็นนายกฯซึ่งเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกัน และตนเชื่อว่านายกฯมีความมั่นใจมากว่ารัฐมนตรีทุกคนจะสนองนโยบาย ตนไม่เคยเห็นความตึงเครียด และไม่เคยมีความตึงเครียด เนื่องจากมีเพียงนักวิเคราะห์ นักวิชาการซึ่งตนก็ไม่ทราบมีวัตถุประสงค์ที่ต้องการมุ่งโจมตีในเรื่องความสัมพันธ์รัฐบาล

เมื่อถามต่อว่า หลังจากนี้การผลักดันนโยบายต่างๆของรัฐบาลจะราบรื่นหรือไม่ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.กัญชง-กัญชา นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เห็นมีปัญหาอะไร เพราะอะไรที่เป็นเรื่องเร่งด่วนก็ดำเนินการไปอย่างรวดเร็วส่วนที่สื่อชนคาดหวังว่าจะไปติดตรงโน้นตรงนี้ และตั้งฉายาภูมิใจกว่า มาขวางอะไรไม่มีขวางอะไรซักอย่าง แต่ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมายหรือมีประเด็นหมิ่นเหม่ผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ เราก็มีสิทธิ์ที่จะทัก และหากมีการเคลียร์ประเด็นต่างๆก็ไปได้

เมื่อถามว่า ปัญหาที่ต้องจบเพราะใกล้ช่วงอภิปรายไม่ไว้ใจใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยืนยันว่า ไม่เกี่ยว พร้อมยอมรับว่าพวกตนไม่รู้สึกอะไรเพราะเป็นเรื่องปกติ เป็นพรรคร่วมรัฐบาลจนชินแล้ว แต่อย่างพรรคเพื่อไทย เที่ยวนี้อาจจะเป็นครั้งแรกที่มาอยู่ในสถานะรัฐบาลผสม เพราะที่ผ่านมาเป็นรัฐบาลเดี่ยวมาตลอด แล้ววันนี้พอมาเป็นรัฐบาลผสมก็อาจจะมีความกังวลอะไรบ้างในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งในฐานะที่มาร่วมรัฐบาลก็ยืนยัน นั่งยัน นอนยันกับนายกรัฐมนตรีว่าไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ไม่ว่าจะถูกอภิปรายคนเดียว พรรครัฐบาลก็พร้อมสนับสนุน

เมื่อถามถึง สัญญาณปรับ ครม.หลังการอภิปราย นายอนุทิน กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนายกฯ เพียงคนเดียว

เมื่อถามว่า มีโอกาสที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม จะกลับมาเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ หลังจากที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ยื่นศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความคุณสมบัติรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องจริยธรรม นายอนุทินกล่าวว่า เป็นอำนาจนายกฯ เพราะจะเป็นการก้าวก่าย และละเมิดอำนาจนายกฯ ซึ่งตนให้ความเห็นได้เฉพาะรัฐมนตรีพรรคภูมิใจไทย

เมื่อถามอีกว่า นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ก็มีโอกาสจะกลับมาเป็นรัฐมนตรีได้อีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า นายชาดา เคยให้สัมภาษณ์แล้วว่ามีความสุขที่เห็น น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ บุตรสาว เป็นรมช.มหาดไทย และก็ทำงานดีจะตาย ก่อนพูดติดตลกว่าเที่ยวหน้ากระแสอาจจะดีกว่าตนด้วยซ้ำไปเพราะน่ารัก ก่อนกล่าวว่า วันนี้ตนรักลูกมากกว่าพ่ออีก เพราะสั่งอะไรแล้วก็ทำสำเร็จ และคุณพ่อเองก็ช่วยด้วย ซึ่งมันเป็นพลัง เป็นผลงาน

นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณีที่ระบุ มองการทำงานนายกฯเข้มแข็งขึ้นทุกวัน เพราะลูกเสืออย่างไรก็เป็นเสือ ในฐานะที่ร่วมงานด้วยสบายใจใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ว่าเป็นการให้สัมภาษณ์ถึงคำถามเรื่องการทำงานร่วมกับนายกฯตนจึงบอกว่า ลูกเสือก็ต้องเป็นเสือ ก่อนถามกลับว่า “แล้วท่านลูกใครล่ะ คุณพ่อท่านเป็นใครล่ะ” เพราะฉะนั้นมันก็อธิบายตัวมันเอง ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า ”ผมก็ลูกเสือนะ พ่อผมก็ไม่เบานะ“

/////