"สว.สรชาติ"ชี้"ดีเอสไอ" ต้องพิสูจน์เส้นเงินกระบวนการ"ฮั้วเลือกสภาสูง" ยกกรอบอำนาจสอบฟอกเงิน หากจำนวนไม่ถึง 300 ล้านบาท ต้องยุติ ชี้ 1,200 รายชื่อ-โพย ถูกเมคทีหลัง สร้างความน่าเขื่อถือ
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงมติคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) รับคดีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นคดีพิเศษ ในฐานความผิดฟอกเงิน ว่า ประเด็นฟอกเงินเป็นอำนาจของดีเอสไอ ตามกรอบคือ ต้องมีวงเงินทั้งกระบวนการ จำนวน 300 ล้านบาท ซึ่งกรณีการเลือก สว.นั้น ดีเอสไอจะตรวจสอบอย่างไร เพราะเป็นประเด็นที่ไม่เหมือนนกับคดีแชร์ลูกโซ่ หรือคดีหลอกลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่มีมูลค่าความเสียหายและเส้นเงิน ดังนั้น แม้ว่าดีเอสไอจะมีอำนาจตรวจสอบประเด็นฟอกเงิน ต้องตรวจสอบให้ได้ว่ามาจากไหน หากไม่ได้ หรือยอดเงินไม่ถึง เท่ากับว่าไม่เข้าข่ายการสอบสวน ต้องยุติ
"การตรวจสอบเส้นทางการเงินต้องหาให้ได้ว่ามาจากไหน มีหลักฐานที่มา ซึ่งพวกเรามั่นใจว่าไม่มีหลักฐานที่ถึงจำนวนดังกล่าว และมั่นใจว่าไม่มีการฮั้ว เพราะ สว.ปัจจุบันที่ถูกกล่าวหานั้น ไม่มีพฤติกรรมอะไร แต่พวกสอบตก หรือพวกที่มาร้อง คือ พวกที่ทำแล้วทำคะแนนไม่ได้จึงมาร้อง ดังนั้น จึงมาร้องว่าคนอื่นฮั้ว เป็นคนที่วางแผนเข้ามา ทั้งนี้ คนกลุ่มดังกล่าวเป็นคนกลุ่มเดียวกับที่ปิดห้องลับ จำนวน 400 คน และยังมีที่อื่นๆ อีก ซึ่งเป็นคนกลุ่มปลายแถวที่จัดฮั้ว แต่เมื่อทำไม่สำเร็จจึงมาร้อง ดังนั้น จึงเป็นเกมของผู้แพ้" นายสรชาติ กล่าว
เมื่อถามว่า มองประเด็นตรวจสอบเส้นเงินเรื่อง สว.อย่างไร นายสรชาติ กล่าวว่า จะเอาหลักฐานมาจากไหน พวกเรามั่นใจว่าจะไม่มีหลักฐานที่ถึงจำนวนดังกล่าว หากถามว่าฮั้วหรือไม่ ก็ไม่มี เพราะ สว.ไม่ได้ฮั้ว และไม่เข้าข่ายสักอย่างไม่มีหลักฐาน
เมื่อถามว่า เรื่องตรวจสอบจะเกี่ยวกับ 1,200 รายชื่อผู้สมัคร สว.ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้หรือไม นายสรชาติ กล่าวว่า เป็นการสร้างหลักฐานเพื่อให้เชื่อมโยง และให้มีความน่าเชื่อถือเท่านั้น เพราะหากคิดย้อนกลับเหมือนกับว่ามีตัวเลข สว. 138 คน ที่รู้ว่ามาได้อย่างไร และที่เปิดเผยคือโหวตเตอร์ ซึ่งการเลือก สว.นั้นต้องดูโปรไฟล์ ส่วนโพยที่กล่าวหานั้นสามารถทำย้อนหลังได้หมด แต่เป็นหลักฐานไม่ได้ ยกเว้นนำไปตรวจดีเอ็นเอ หรือพิสูจน์ลายมือได้ว่าเป็นของใคร
เมื่อถามว่า ใน 1,200 รายชื่อ พบชื่อของตนเองด้วย กังวลหรือไม่ นายสรชาติ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะไม่ได้ฮั้ว เพราะก่อนหน้านี้ตนได้เข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทั้งส่วนจังหวัดและส่วนกลาง ตามที่มีข้อร้องเรียนให้ตรวจสอบ คือ จัดตั้งหรือไม่ มีการฮั้วหรือไม่ และคุณสมบัติครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งตนเดินทางไป กกต. 2 ครั้ง มีเอกสารไปชี้แจงและยืนยันได้ทั้งหมด อีกทั้งในการเลือกระดับอำเภอ และจังหวัด ตนไม่ได้มาเป็นอันดับหนึ่ง มีผู้เลือกที่เป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ดี การเลือก สว.นั้นต้องดูความเหมาะสม พิจารณาจากโปรไฟล์ ส่วนโพยนั้นทุกคนต้องมี เพราะไม่รู้จักกันทั่วถึง ดังนั้น ต้องทำการบ้านมาก่อน ไม่ใช่ให้นึกในห้องประชุม
เมื่อถามว่า ประเด็นดังกล่าวมองว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลัง เพราะต้องการเปลี่ยนสีเสื้อ สว.หรือไม่ นายสรชาติ กล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ เพราะ สว.ไม่มีสีเสื้อ ไม่มีข้อบังคับให้อยู่กับกลุ่มใด ทุกคนทำงานอิสระ การทำงานของ สว.ที่ผ่านมามีอิสระ ไม่ใช่โหวตตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก
เมื่อถามย้ำว่า มีการวิเคราะห์ว่าเหตุที่ต้องเปลี่ยนสี สว.เพราะเกี่ยวกับการตัดสินใจเลือกองค์กรอิสระ นายสรชาติ กล่าวว่า การเลือกองค์กรอิสระจะมี กมธ.ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติ ซึ่งที่ผ่านมา กมธ.ตรวจสอบได้ให้ สว.แถวหนึ่ง คือ ระดับประธานกรรมาธิการสามัญ เข้ามาพิจารณา แต่ปัจจุบันพบว่ามี สว.แถวสอง ซึ่งเป็นระดับเลขานุการ กมธ.สามัญเข้ามาทำหน้าที่ และจะมีสลับให้ สว.คนอื่นๆ ได้เข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งเป็นการไปตามกระบวนการ ส่วนการลงมติเลือกเป็นไปตามกรอบความคิดของ สว.เอง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี