วันที่ 3 มี.ค.2568 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคประชาชน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "พริษฐ์ วัชรสินธุ - ไอติม - Parit Wacharasindhu "ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นในเชิงกฎหมาย ที่ฝ่ายค้านจะต้องนำชื่อ “บุคคลภายนอก” ออกจากเนื้อหาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อบ่ายวันนี้ ทางผมและพรรคได้รับแจ้งว่าทางประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ทำหนังสือด่วนถึงผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้นำชื่อ “บุคคลภายนอก” (นายทักษิน ชินวัตร) ออกจากเนื้อหาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ ก่อนที่ประธานสภาฯจะบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยอ้างถึงข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรข้อ 176
ผมไม่เห็นถึงเหตุผลว่าทำไมเรามีความจำเป็นต้องดำเนินการดังกล่าว
1. ในเชิงอำนาจหน้าที่ : ผมเห็นว่ารัฐธรรมนูญและข้อบังคับไม่ได้ให้อำนาจประธานสภาในการใช้ดุลพินิจมาตัดสินว่าเนื้อหาสาระของญัตติควรจะเป็นเช่นไร หรือมีความเหมาะสมหรือไม่
- รัฐธรรมนูญมาตรา 151 ระบุชัดเจนถึงสิทธิของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในการเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ โดยไม่มีส่วนไหนที่พูดถึงดุลพินิจของประธานสภาในการประเมินเนื้อหาของญัตติเพื่อตัดสินใจว่าจะบรรจุญัตติหรือไม่
- ข้อบังคับ ข้อ 176 ระบุเพียงแค่ให้ประธานสภาตรวจสอบว่าญัตติมี “ข้อบกพร่อง” หรือไม่
- เมื่อพิจารณาจากข้อกฎหมายดังกล่าว “ข้อบกพร่อง” ในที่นี้ ย่อมถูกเข้าใจได้ว่าหมายถึงในกรณีที่มีข้อผิดพลาดในเชิงรูปแบบ (เช่น มีรายชื่อผู้เสนอที่ไม่ครบตามเกณฑ์ที่ต้องการ ลายเซ็นของผู้เสนอไม่ตรงกับลายเซ็นในระบบ มีการอ้างถึงมาตราหรือข้อกฎหมายที่คลาดเคลื่อน)
2. ในเชิงขั้นตอน : แม้จะอ้างข้อบังคับข้อ 176 ในการแจ้งให้เราแก้ไขข้อความในญัตติ ก็ต้องบอกว่าการแจ้งของประธานสภาไม่ชอบด้วยข้อบังคับเพราะไม่เป็นไปตามกรอบเวลาที่ระบุไว้ในข้อบังคับข้อ 176
- ข้อบังคับ ข้อ 176 ระบุว่า “หาก[ญัตติ]มีข้อบกพร่อง ให้ประธานสภาแจ้งผู้เสนอทราบภายในเจ็ดวันนับแต่วันที่ได้รับญัตติ”
- แต่สำหรับกรณี้ ทางประธานสภาได้รับญัตติวันที่ 27 ก.พ. (ตามที่สำนักงานฯ ลงวันรับ + ตามหลักฐานการยื่นหนังสือที่ถูกรายงานตามสื่อต่อสาธารณะ) ในขณะที่ได้ทางประธานสภาได้มีการแจ้งมาที่ผู้เสนอ (ผ่านรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร) ในวันที่ 7 มี.ค. ซึ่งเลยกรอบ “ภายในเจ็ดวัน” อย่างชัดเจน
3. ในเชิงเนื้อหาสาระ : การระบุชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาของญัตติไม่ได้เป็นอะไรที่ผิดข้อบังคับ
- ไม่ว่าใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกับเนื้อหาสาระของญัตติ แต่ปัจจุบันไม่มีข้อกฎหมายหรือข้อบังคับข้อไหนที่ระบุห้ามไม่ให้พูดถึงชื่อบุคคลภายนอกในเนื้อหาของญัตติ และญัตติในอดีตก็มีหลายครั้งที่มีการกล่าวถึงบุคคลภายนอก (เช่น เนื้อหาของญัตติที่เสนอโดย สส. เพื่อไทย ในปี 2562 เกี่ยวกับการติดตามการทำงานของหน่วยงานภาครัฐต่อการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน ก็มีการกล่าวถึงบุคคลภายนอกอย่างชัดเจน)
- ข้อบังคับมีการพูดถึงบุคคลภายนอกในข้อ 69 ในบริบทของการอภิปราย ซึ่งก็ไม่ได้เป็นการห้ามการอภิปรายบุคคลภายนอกโดยสิ้นเชิง แต่เป็นเพียงการห้ามไม่ให้กล่าวถึงบุคคลใด “โดยไม่จำเป็น”
- ท้ายสุดแล้ว หากเนื้อหาของญัตติและการอภิปรายมีการกล่าวถึงบุคคลภายนอกจนเกิดความเสียหาย ผู้เสนอญัตติและผู้อภิปรายจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าวเอง
.
ดังนั้น
- ในมุมกฎหมาย ผมไม่เห็นถึงเหตุผลว่าทำไมเราจำเป็นนำชื่อ “บุคคลภายนอก” ออกจากเนื้อหาญัตติ
- ในมุมการเมือง ผมเห็นว่าเป็นดุลพินิจของพี่น้องประชาชนที่จะเป็นผู้ตัดสินเอง ว่าการระบุถึง “บุคคลภายนอก” มีความเหมาะสมและจำเป็นต่อการวิเคราะห์และวิจารณ์การบริหารราชการแผ่นดินของ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร หรือไม่ โดยเฉพาะในเมื่อบุคคลดังกล่าวก็ประกาศเองหลายครั้งว่าต้องการ “สทร.” เกี่ยวกับการบริหารประเทศของรัฐบาลชุดนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี