“กฤษฎีกา”เผยส่ง“ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” ให้เลขาฯ ครม.แล้ว ระบุ เงื่อนไข 50 ล้านบาทยังอยู่ ยันไม่มีใครแทรกแซง คปท.นัดรวมพลังคัดค้าน “กาสิโน-พนันออนไลน์” ที่คาดว่าจะเข้า ครม.อังคารนี้ เผย “นักวิชาการ-มวลชน” เตรียมเปิด“สภาประชาชน” ซักฟอกรัฐบาลทั้งคณะ

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปกรณ์นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จะนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 11 มี.ค.หรือไม่ว่า ต้องถามเลขาธิการ ครม. ตนยังไม่เห็นวาระ ยืนยันตนไม่รู้จริงๆ กฎหมายเหมือนกันทุกฉบับ ตนส่งไปแล้ว ถือว่าพ้นแล้วก็จบ

เมื่อถามว่า ที่รัฐบาลบรรจุไว้ในแผน กฎหมายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการภายใน 50 วัน ต้องนับรวมนำเข้า ครม. ด้วยหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ไม่ต้อง ตนทำก่อนไปแล้ว และส่งมาก่อนแล้ว

เมื่อถามว่า ครบกำหนด 50 วันคือเมื่อไหร่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ครบ 50 วันเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา แต่ตนได้ส่งมาก่อนหน้านั้นแล้ว

เมื่อถามถึงความคืบหน้าการรับฟังความเห็นจากกระทรวงการคลัง และกระทรวงมหาดไทย นายปกรณ์ กล่าวว่า ยังไม่มี ยังไม่ทราบ เพราะตนก็ให้เขาส่งตรงมาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเลย เดี๋ยวเขาก็คงทำกัน

เมื่อถามว่า ความชัดเจนกรณี กำหนดให้ผู้เข้าเล่นจะต้องมีเงินในบัญชี 50 ล้านบาท ที่คณะกรรมการกฤษฎีกาส่งมายังอยู่หรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่า ยังอยู่ แต่รายละเอียดตนไม่ทราบ แล้วแต่กระทรวงการคลัง เพราะเป็นเรื่องของนโยบายรัฐบาล ก็ต้องพิจารณาว่านโยบายอย่างไหนถึงจะเหมาะสม

เมื่อถามว่า มีผู้ใหญ่ไปคุยในเรื่องนี้โดยตรงหรือไม่ว่าจะเดินต่ออย่างไร นายปกรณ์ กล่าวว่า ไม่มี ท่านให้อิสระกับคณะกรรมการกฤษฎีกาในการทำงาน ไม่ได้แทรกแซงอะไร

เมื่อถามว่า ร่าง พ.ร.บ. การพนัน จะต้องเข้ากฤษฎีกาด้วยหรือไม่ นายปกรณ์ กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวยังไม่เข้า ครม. และตนไม่รู้ว่า ครม.จะดำเนินการอย่างไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ร่างเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์อยู่ในขั้นตอนรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำเข้าที่ประชุม ครม.ต่อไป

ขณะที่ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊กหัวข้อ “หารือ”ระบุว่า วันนี้มีการนัดหารือปัญหาบ้านเมือง ด้วยความห่วงใยต่อการเมืองที่ ระบอบทักษิณ เข้ามามีอำนาจจัดการจนจะทำให้เกิด รัฐล้มเหลว เพราะ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรี ไร้ความสามารถในการบริหารประเทศ มีความจำเป็นที่คณะเรา (ตามรูป) ต้องเตรียมการเคลื่อนไหวกันอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เกิดหายนะของประเทศครั้งใหญ่

เฉพาะหน้า คือ การแสดงพลังคัดค้าน กาสิโน และ พนันออนไลน์ ที่จะเข้า ครม. นัดเจอกัน อังคารที่ 11 มีนาคม 2568 นี้ 9.00 น.เป็นต้นไป

พร้อมทั้งเตรียมเปิดสภาประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ทั้งคณะ ทุกนโยบาย โดยจะมีนักวิชาการในแต่ละประเด็นเป็นผู้อภิปราย

ด้าน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง “ไม่เอาคาสิโน. NO Casino” ระบุว่า ครม.จะมีการประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบ พรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งในนั้นจะซ่อนกาสิโนไว้คนในรัฐบาลบอกว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเร่งด่วนต้องรีบเอาเข้า ครม.

ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ ชาวนาเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไข คำตอบที่ได้ คือขอให้คนไทยช่วยกินข้าวมากขึ้น และให้ชาวนาเปลี่ยนไปปลูกกล้วยส่งออก คนตกงานหลายแสนคน รัฐบาลนิ่งเฉย ผู้นำหลบร้อนไปเดินเล่นต่างประเทศ ทั้งๆที่เป็นงานระดับปลัดกระทรวง ไม่เห็นความทุกข์ยากของประชาชน

ดังนั้น ในอังคารนี้ ร่าง พ.ร.บ.นี้อาจจะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. และอาจมาในวาระเร่งด่วน หากมาในวาระปกติ ต้องมีข่าวเล็ดลอดให้สื่อระแคะระคายบ้าง แต่นี่เงียบฉี่ แต่ไม่ว่าจะเข้า ครม.อังคารนี้หรืออังคารไหน เราก็จะคัดค้าน

คนไทยขอเรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา ประชาธิปัตย์ แสดงจุดยืนคัดค้านไม่เห็นด้วยกับร่าง พรบ.ฉบับนี้ ไม่ให้ร่าง พรบ.นี้ผ่าน ครม. หมอวรงค์ เดชกิจวิกรม ได้รวบรวมรายชื่อคนที่คัดค้านไม่เห็นด้วยกับการมีกาสิโนมากกว่าแสนรายชื่ออย่าเมินเฉยต่อเสียงคัดค้านนี้ มั่นใจได้ คนคัดค้านมีเป็นเรือนล้าน

คงต้องถามใจคนไทย อย่างน้อยแสนรายชื่อที่คัดค้านกาสิโน พร้อมจะออกมาแสดงพลังให้รัฐบาลเห็นหรือยัง เป็นไงเป็นกัน มิเช่นนั้น บ้านเมืองจะฉิบหายเพราะการพนัน

อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยถึงความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ว่าขณะนี้ อยู่ระหว่างที่กระทรวงการคลังเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชาชน ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 14 มีนาคม ก่อนนำเข้าที่ประชุม ครม. และส่งให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ต่อไป

ส่วนความคืบหน้าร่าง พ.ร.บ.การพนัน ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนส่งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และกฤษฎีกาตามลำดับ ทั้งนี้ หากกฤษฎีกาให้ความเห็นว่าต้องมีการปรับแก้ ก็จะต้องส่งไปรับฟังความคิดเห็นประชาชน