เคาะแล้วแจก1หมื่นเฟส3/2.7ล้านคน
วัยโจ๋16-20ปี
ประเดิมใช้ดิจิทัลวอลเล็ต
คาดเริ่มโอนได้ไตรมาส2
จ่ายค่าเทอม-ค่าน้ำค่าไฟได้
เฟส4ได้แน่แต่ไม่รู้ตอนไหน
“นายกฯอิ๊งค์” นั่งหัวโต๊ะถก บอร์ดกระตุ้นศก.มีมติเคาะ แจกเงินหมื่น เฟส 3 วัยรุ่น 16-20 ปี 2.7 ล้านคน ปลายไตรมาส 2 ต่อเนื่องไตรมาส 3
ประเดิมใช้“ระบบดิจิทัล วอลเล็ต”ครั้งแรก เล็งปรับ 2 เงื่อนไข “ตัดสินค้าต้องห้าม-เปิดกว้างให้ร้านค้าเข้าร่วม” ใช้จ่ายค่าน้ำค่าไฟ ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า-ของร้านโชห่วยได้ แจงเหตุผลเลือกกลุ่มนี้ เพราะตื่นรู้ทางไอทีสูง ใช้จ่ายค่าเทอมช่วงลดภาระผู้ปกครองได้ ส่วนเฟสต่อไปรอลุ้น ดูตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ด้านกลุ่มไม่มีสมาร์ตโฟน เตรียมเปิดให้ลงทะเบียนผ่าน 4 แบงก์ พร้อมเช็คการใช้เน็ตย้อนหลัง 3 เดือน
ความคืบหน้าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทในเฟส 3 สำหรับบุคคลทั่วไปที่ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ
นายกฯนั่งหัวโต๊ะถกบอร์ดกระตุ้นศก.
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 มี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.การคลัง นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง เข้าร่วมประชุม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนประชุมนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.การคลังจะเสนอการพิจารณาจ่ายเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ให้ประชาชนช่วงอายุ 16-20 ปี ให้ที่ประชุมพิจารณา
เคาะแจก1หมื่นเฟส3กลุ่ม16-20ปี
ด้านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและรมว.คลัง แถลงหลังประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่า การประชุมวันนี้มีวาระพิจารณา 3 เรื่องคือ 1.การขับเคลื่อนหรือการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดร้อยละ 3 ให้ได้ 2. เรื่องแจกเงิน Digital wallet เฟส 3 และ 3.การลงทะเบียนผู้ไม่มีสมาร์ตโฟน
สำหรับโครงการ Digital wallet เฟส 3 นั้น นายพิชัยกล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯมีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท สำหรับกลุ่มคนอายุ 16-20 ปี ที่มีการลงทะเบียนไว้ 2.7 ล้านคน วงเงิน 2.7 หมื่นล้าน ตนอยากให้เรียกว่าเป็น เฟสแรก เพราะเราแจกเงินผ่าน Digital wallet ครั้งแรก ซึ่งมีข้อดีที่สามารถควบคุมการใช้เงินได้ กำหนดกรอบการใช้จ่ายเป็นไปตามวัตถุประสงค์ทุกประการ ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบในหลักการ คาดว่าการแจกจะอยู่ช่วงปลายไตรมาส 2 ควบไตรมาส 3 จากนั้นต้องนำเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเข้าครม.เมื่อใด ส่วนกลุ่มที่เหลือจะจ่ายเงินในโครงการระยะต่อไปตามความเหมาะสม ทั้งนี้ นายกฯกังวลเรื่องความผิดพลาดในระบบ จึงตั้งอนุกรรมการเพื่อมาดูเรื่องนี้โดยเฉพาะ เชื่อว่าความผิดพลาดในอดีตจากการจ่ายเงินหมื่นจะลดลง เพราะจ่ายเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต
โวจัด1.5แสนล.กระตุ้นศก.ผ่านแจก1หมื่น
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตรัฐบาลเตรียมวงเงินไว้ประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งตามระเบียบการเบิกจ่ายงบประมาณต้องเบิกจ่ายงบฯให้เสร็จภายในเดือนตุลาคมหรือไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ในกรณีที่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ก็ต้องทำโครงการไว้ก่อน เพื่อขอผูกพันงบประมาณ อย่างไรก็ตาม ส่วนนี้ถือเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐบาลที่ต้องจ่ายให้กลุ่มเป้าหมายที่ลงทะเบียนไว้ ซึ่งพยายามทำให้ทันตามเงื่อนไข แต่ต้องดูเงื่อนไขต่างๆ และสภาวะเศรษฐกิจแต่ละช่วงด้วย ซึ่งการที่รัฐบาลยังไม่จ่ายให้ทั้งหมดไม่ใช่ว่างบประมาณไม่เพียงพอเพราะเตรียมงบประมาณส่วนนี้ไว้แล้ว
ไม่มีสมาร์ตโฟนลงทะเบียน4แบงก์
ส่วนการลงทะเบียนของกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ตโฟนนั้น นายจุลพันธ์กล่าวว่า รัฐบาลเตรียมเปิดให้กลุ่มนี้ลงทะเบียนผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 4 แห่ง ได้แก่ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลาม รวมทั้งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และไปรษณีย์ไทย ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนวงกว้าง เพื่อให้รัฐบาลมีฐานข้อมูลของกลุ่มคนไม่มีสมาร์ตโฟน เพื่อวางแผนการช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ได้ถูกต้อง โดยขั้นตอนและระยะเวลาจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
เล็งเช็คประวัติใช้เน็ตย้อนหลัง3เดือน
อย่างไรก็ตาม ในส่วนผู้ไม่มีสมาร์ตโฟนที่มีการลงทะเบียน จะมีการตรวจสอบการไม่มีสมาร์ตโฟนร่วมกับค่ายมือถือกับ กสทช.ว่าต้องมีการใช้ดาต้าผ่านโทรศัพท์มือถือไม่เกิน 500 MB ย้อนหลัง 3 เดือน ถ้าใช้เกินกว่านี้ จะถือเป็นผู้ที่มีสมาร์ตโฟน ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการแจกเงินสำหรับผู้ไม่มีสมาร์ตโฟนได้
ตัดสินค้าห้ามใช้จ่าย-เพิ่มสภาพคล่อง
ผู้สื่อข่าวถามถึงเงื่อนไขการใช้เงินดิจิตอลวอลเล็ตปรับเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่ นายจุลพันธ์กล่าวว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตครั้งนี้ เป็นการตั้งโครงการขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยการดึงข้อมูลมาจากแอปพลิเคชันทางรัฐ ส่วนรายละเอียด การใช้เงินค่อนข้างที่จะคล้ายเดิม เรื่องของสินค้า เราไม่กำหนดห้าม เราไปกำกับดูแลการลงทะเบียนของร้านค้าแทน จะมีข้อห้ามว่า ร้านค้าที่ไม่ให้เข้าร่วม เช่น ร้านทอง ร้านขายเหล้าโดยเฉพาะ พร้อมปรับเปลี่ยนให้ง่ายขึ้นคือ ถอดการขึ้นเงินสดของร้านค้า โดยให้ร้านค้าทุกประเภทสามารถขึ้นเงินได้ โดยไม่จำกัดเฉพาะกลุ่มที่อยู่ในการเสียภาษี เพื่อให้สะดวกแก่ร้านค้า และเป็นการเชิญชวนให้ร้านค้าเข้าร่วมโครงการเรามากขึ้น
“รัฐบาลได้ตัดเงื่อนไขเดิมออก 2 ส่วนคือ ตัดรายการสินค้าต้องห้าม หรือ Negative List ออกทั้งหมด เพราะได้ตรวจสอบร้านค้าที่ขึ้นทะเบียนแล้ว เพื่อให้คนกลุ่มนี้สามารถใช้จ่ายได้สะดวกขึ้น เช่น ซื้อสินค้าร้านโชห่วย หรือร้านที่มีสินค้าหลายประเภท หรือใช้จ่ายค่าเทอมได้ 2.เปิดให้ร้านค้าทุกประเภทสามารถถอนเงินสดออกมาได้อีกด้วย เพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับร้านค้า” นายจุลพันธ์กล่าว
จ่ายค่าเทอมค่าน้ำค่าไฟ-ซื้อเครื่องไฟฟ้าได้
ถามถึงพื้นที่ใช้เงินดิจิทัล นายจุลพันธ์กล่าวว่า ยังเป็นพื้นที่ภายในอำเภออยู่ สามารถจ่ายค่าเทอมได้ จ่ายค่าน้ำค่าไฟได้ ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ และเราหวังผลการกระตุ้นเศรษฐกิจมาก เพราะจากการกระตุ้นเศรษฐกิจไป 2 รอบ มีผลสำรวจออกมาจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลังมีผลที่ดี รอบนี้เราเชื่อว่าจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เพราะเราใช้กลไกของดิจิทัลวอลเล็ตจะจำกัดตัวเม็ดเงินไปในจุดที่เราต้องการได้มากขึ้น และเรื่องนี้ไม่ใช่แค่กระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งนี้เรายังมีกลไกในการเติมเงิน อายุ 16-20 ปี เพื่อไปใช้เรื่องปัญหาค่าครองชีพของเขา และเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลต่อไปในอนาคต
เฟส4รอลุ้นไม่นาน-ยันได้1หมื่นทุกคน
ถามว่ากลุ่มอายุ 16 - 20 ปีอาจต้องการใช้เงินไม่เท่ากับกลุ่มวัยทำงาน นายจุลพันธ์กล่าวว่า ใกล้เปิดเทอมแล้ว พวกเขามีความจำเป็น ส่วนกลุ่มอายุ 20 - 59 ปียังมีสิทธิรับเงิน 10,000 บาทแน่นอน เรามีเม็ดเงินรอไว้อยู่ 150,000 ล้านบาท เราทำครั้งนี้ กรอบระยะเวลาใช้เงินก็เหลือไตรมาสเดียว ดังนั้น กลุ่มถัดไป ก็คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการแจก อย่างไรก็ตาม เฟสต่อไปอาจแตกเป็นกลุ่มอีกหรือไม่นั้น ต้องดูจังหวะและความเหมาะสมอีกครั้ง ต้องประชุมกันก่อน ส่วนจะไม่ใช่การแจกเงินหมื่นหรือไม่อย่างไรนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำได้หลายอย่าง ส่วนเม็ดเงินที่เราเตรียมไว้ เราเตรียมไว้สำหรับทำโครงการเงินหมื่นเฟสถัดไป ยืนยัน รัฐบาลเชื่อมั่นการแจกเงินเฟสถัดไป เพราะเม็ดเงินในระบบมีอยู่เพียงพอ การเติมเงินครั้งก่อนๆ ตัวเลขทางเศรษฐกิจชี้แล้วว่ากระตุ้นทางเศรษฐกิจได้ ฉะนั้นการขับเคลื่อนนโยบายที่เราวางไว้ต้องขับเคลื่อนเต็มที่ สุดท้ายเงินหมื่นต้องถึงมือประชาชนทุกคน
เลือกกลุ่มนี้เพราะตื่นรู้ทางไอทีสูง
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลังกล่าวว่า สำหรับจำนวนผู้ที่ได้เงินหมื่นเฟส 3 นี้ในกลุ่มอายุ 16 - 20 ปี มีจำนวน 2.7 ล้านคน และการเลือกแจกกลุ่มนี้ ไม่ใช่ข้อจำกัดของงบประมาณ แต่เลือกเพราะพิจารณาจากภาวะเศรษฐกิจที่เหมาะสม จำนวนเม็ดเงินที่ลงไปสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจ การเลือกแจกกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีสูง มีความสามารถใช้จ่ายรูปแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินช่วงเวลาเหมาะสม รัฐบาลจึงเลือกคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรก ถือเป็นโครงการใหม่ที่ต้องเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ซึ่งมีการปรับเงื่อนไขในโครงการบางส่วน เช่น ให้ร้านค้าเบิกเงินสดได้ จ่าย ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเทอมได้ ซึ่งในกลุ่มนี้ก็ถือว่าเป็นกลุ่มที่อยู่ในวัยเรียนเงินจำนวนนี้สามารถแบ่งเบาภาระของผู้ปกครองได้บางส่วน ส่วนกลุ่มที่เหลือรัฐบาลจะอนุมัติให้ตามช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งต้องตรงกับภาวะเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้น
โยนคลังแจงแจกเงินหมื่นเฟส3
หลังประชุม นายกฯปฏิเสธให้สัมภาษณ์กรณีคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 พิจารณาเงินดิจิทัลเฟส 3ให้ผู้ที่มีอายุ 16-20 ปีก่อนโดยย้อนถามสื่อมวลชนว่า “ได้สัมภาษณ์ทีมกระทรวงการคลังหรือยัง” เมื่อสื่อมวลชนตอบกลับว่า ยัง อยากได้ยินจากนายกฯ แต่นายกฯไม่ได้ตอบคำถามก่อนเดินขึ้นรถยนต์ออกไปปฎิบัติหน้าที่ต่อที่ทำเนียบฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นที่น่าสังเกต นายกฯมีอาการเจ็บเข่าขวาทำให้เดินไม่ถนัด ต้องเดินจับแขนทีมงานไปขึ้นรถ เพื่อประคองไม่ให้ลงน้ำหนักไปเข่าขวา ซึ่งมีอาการเจ็บ
นายกฯฟุ้งศก.ปีนี้โตเกิน3%
นายกฯทวิตข้อความผ่าน X ว่า การประชุมคณะอนุกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจมีเนื้อหาสรุปว่า ด้วยความร่วมมือทุกภาคส่วน ศักยภาพเศรษฐกิจไทยปี 2568 น่าจะเติบโตได้มากกว่า 3% ในปีนี้ วงประชุมนี้จึงเป็นวงที่เรามาร่วมกันคิด เสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการรับผิดชอบของหน่วยงานต่างๆ และอยู่ในกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และร่วมกันวางโครงสร้างระยะยาวไปพร้อมกัน ซึ่งวันนี้ที่ประชุมได้เสนอโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ระยะที่สาม เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยกลุ่มเป้าหมายจะเป็นผู้ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ มีอายุตั้งแต่ 16-20 ปี และต้องใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ เพื่อสแกน QR code ที่ร้านค้าในพื้นที่เขตหรืออำเภอที่ประชาชนมีอยู่ตามทะเบียนบ้าน โดยตนเน้นย้ำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเครื่องยนต์สำคัญอย่างการท่องเที่ยว ต้องดำเนินต่อตามแผนงาน และมีแผนงานใหม่ที่มุ่งไปยังกลุ่ม luxury เพื่อเพิ่มการใช้จ่ายนักท่องเที่ยวต่อหัวมากขึ้น อีกเรื่องที่สำคัญคือ กลุ่มการเกษตรที่ต้องพัฒนากระบวนการเกษตรทั้งกระบวนการ ตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา การส่งออก ราคาสินค้าเกษตรให้เป็นธรรมหรือสูงขึ้น ซึ่งเป็นทั้งการยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร และทำให้รายได้ประเทศสูงขึ้นด้วย
ห่วงไปเติมเกม-ย้ำให้ความรู้เด็ก
ที่รัฐสภา น.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการที่รัฐบาลเตรียมแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ให้คนอายุ 16-20 ปีว่า อายุที่แจ้งมายังเป็นเด็กอยู่ การดำเนินนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องดีทำให้เกิดสภาพคล่อง แต่ตนอยากจะเสริมว่าควรให้ความรู้กับเด็กและผู้ปกครองทราบว่าเมื่อได้เงินไปแล้วควรนำไปใช้อย่างถูกวิธีอย่างไร ไม่ใช่นำไปกินไปเที่ยวไปเล่น การไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมน่าเป็นประโยชน์มากขึ้น ส่วนเหมาะสมหรือไม่ ที่รัฐบาลพยายามบอกว่าการจ่ายเงินกลุ่มนี้ เพื่อเป็นต้นแบบใช้ระบบดิจิทัล ต้องดูหลักการใช้ บางคนมองว่าเด็กได้เงินดิจิทัลไปแล้ว จะไปเติมเกมไปทำอะไร ตนจึงบอกว่าไม่เหมาะสม แต่ถ้าได้เงินมาแล้วนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ก็เหมาะสม ฉะนั้นอยู่ที่ผู้ใช้งานเป็นหลัก รวมถึงผู้ใหญ่จะให้ความรู้กับเด็กอย่างไร ส่วนเรื่องความคุ้มค่าอยากให้มองเรื่องการพัฒนามากกว่า เพราะถ้าไม่ได้ให้ก็จะไม่พัฒนา แต่เมื่อให้แล้วขอให้ใช้อย่างคุ้มค่าให้เหมาะสมดีกว่า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี