วันที่ 11 มีนาคม 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์ว่า วันที่ 11 มี.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ได้นัดพร้อมแรกของภาคประชาชนที่สะพานชมัยมรุเชษฐ์ หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อแสดงตัวตนเข้าร่วมชุมนุมและต่อต้าน ร่าง พรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือบ่อนกาสิโนครบวงจร

อย่างไรก็ตาม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.สำนักนายกฯ บอกว่า ร่างกฎหมายบ่อนกาสิโนจะเข้า ครม.วาระเร่งด่วนในวันที่ 11 มี.ค. 2568 ดังนั้น ในวันที่ 11 มี.ค.นี้จะเป็นวันแรกที่ฝ่ายประชาชนได้เริ่มปฏิบัติการนัดพร้อมที่ทำเนียบรัฐบาล และจากนั้นจะแสดงตนนัดร่วมชุมนุมทุกวันอังคารด้วย

ดังนั้น ถ้ากฎหมายกาสิโนเข้า ครม.จริงแล้ว ฝ่ายประชาชนจะจับตาพรรคร่วมรัฐบาลที่นั่งอยู่ในห้องประชุม ครม.ว่ามีกี่พรรคและพรรคใดบ้าง และเชื่อว่า กฎหมายบ่อนกาสิโนจะเป็นรอยปริแยกของพรรคร่วมรัฐบาลเป็นอย่างดี

“ทางการข่าวของผมบอกให้จับตาพรรคการเมืองบางพรรค และไม่ใช่พรรคเดียวด้วย อาจวอล์กเอาต์ (walk out) ออกจากที่ประชุม ครม. เท็จจริงอย่างไรจะได้พิสูจน์กัน เพราะเราปล่อยให้บ่อนกาสิโนเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าเกิดแล้วเรื่องเสียหายจะตามมาอีกหลายเรื่อง”

พร้อมย้ำว่า พรรคเพื่อไทยไม่เคยเสนอหาเสียงในการตั้งบ่อนกาสิโน และนโยบายรัฐบาลก็ไม่บรรจุไว้ คงมีแต่รัฐบาลนำไปแถลงนโยบายเร่งด่วนในสภาหลังจากทักษิณ ชินวัตร พูดโชว์วิสัยทัศน์ในงานไทยแลนด์วิชั่น ที่สำนักข่าวเดอะเนชั่น ดังนั้น ประชาชนต้องหยุดยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับบ้านเมือง

ไม่เพียงเท่านั้น ถ้าไทยเป็นประเทศที่มีบ่อนกาสิโน จะเกิดภัยอาชญากรรมและมากอาชญากร นักท่องเที่ยวจะหายหนีไปหมด แต่สิ่งสำคัญ คือ การพนันออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือจะตามมา และส่งผลเสียหายต่อคนไทยอย่างร้ายแรง จนยากต่อการควบคุม

“วันพรุ่งนี้เวลา 10.00 น. ไม่รู้ว่าพี่น้องจะมากันกี่คน แต่สหภาพแรงงานการท่าเรือแต่ละภาคส่วน สหภาพรัฐวิสาหกิจ รวมทั้งคนห่วงใยบ้านเมืองทั้งหลายจะไปแสดงตน ไปแถลงการณ์ไม่เห็นด้วยกับ พรบ.สถานบันเทิงครบวงจร หรือบ่อนกาสิโน ที่ทำเนียบรัฐบาล”

นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าพี่น้องมีเวลาให้มาร่วมแสดงพลังต่อต้านบ่อนกาสิโนด้วยกัน ซึ่งมาหยุดยั้งรวมกันในวันนี้จะง่ายกว่า ถ้าปล่อยให้เกิดขึ้นแล้วจะหยุดยากและเต็มไปด้วยค่าโง่ต่างๆ ที่ต้องเสียอีกด้วย

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ นั้น นายจตุพร กล่าวว่า เห็นด้วยกับฝ่ายค้านยืนยันไม่ตัดชื่อทักษิณ ออกจากญัตติที่เสนอไป แต่ฝ่ายค้านไม่ควรลืมเช่นกันว่า สมัยประชุมจะปิดในวันที่ 11 เม.ย.นี้ ดังนั้น การยื้อไม่ถอดชื่อทักษิณ อาจทำให้เสียเวลาในการอภิปรายเนื้อหาในสภาได้ จึงควรพิจารณาด้วยความรอบคอบ

“การเอาถ้อยคำชื่อออก จะไม่ทำให้เสียโอกาสได้พูดเนื้อหาการอภิปรายฯ และไประบุชื่อในช่วงอภิปรายฯ ก็ได้ แม้พรรคเพื่อไทยประท้วงวุ่นวายขัดขวางการอภิปรายฯ แต่การอภิปรายฯ จะได้สาระดีๆ เป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่า”

อีกทั้งย้ำว่า หลังจากพรรคฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ ในสภาเสร็จแล้ว ฝ่ายประชาชนจะเปิดอภิปรายนอกสภาเช่นกัน โดยจะนำผู้ชำนาญการแต่ละเรื่องทั้งนักวิชาการ นักเคลื่อนไหวมาอภิปรายฯ โดยจะใช้ห้องประชุมที่ไหนสักแห่ง ซึ่งจะได้หารือกันอีกครั้ง ขอเพียงให้ฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่อภิปรายฯ นายกฯ ให้สมบูรณ์เสียก่อน