‘สว.ภิญญาพัชญ์’สะกิดรัฐบาลแจก‘เงินหมื่นเฟส 3’อายุ 16-20 ปี จะติดตามผลอย่างไร ยก‘คอมเมนต์โซเชียลฯ’ฟาด คนวัยทำงานไม่ได้ ทั้งที่‘แบกภาษี’ประเทศ ยันไม่ได้ขวาง แต่ขอแจงให้ชัด
11 มีนาคม 2568 เวลา 09.15 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาคนที่1 ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยน.ส.ภิญญาพัชญ์ ศันสนียชีวิน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ลุกขึ้นหารือถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมแจกเงิน 10,000 บาท ดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 ให้กับผู้ที่มีอายุ 16-20 ปี
น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวว่า ส่วนตัวแล้ว เมื่อเห็นโครงการนี้ ตนมองเห็นถึงวัตถุประสงค์อันดี 3 ประการ ได้แก่ 1.กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่น 2.ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลกลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี ที่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี และ 3.ส่งเสริมการเรียนรู้การจัดการการเงิน เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ฝึกฝนการวางแผนการใช้จ่าย ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสำหรับอนาคต แต่ตนติดตามข่าวสารและความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย พบว่าจากข่าวดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความเดือดดาลของประชาชน มีการตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่แจกให้กับผู้เสียภาษีอย่างกลุ่มวัยทำงานที่เป็นผู้สร้างเศรษฐกิจ แต่กลับมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเยาวชนและผู้สูงอายุอย่างชัดเจน
“ความเห็นของคนทั่วไป เช่น คนที่จ่ายภาษีหลักๆ คือ อายุ 20-50 ปี ซึ่งมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของแต่ละคน ยังไม่เหมาะสม หรือคำถามที่ว่า ยังไม่เหมาะสมหรือ สะท้อนถึงประเด็นที่ว่า ควรจัดสรรงบประมาณที่มาจากภาษีของกลุ่มวัยทำงานอย่างไร ให้เกิดความเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว
น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวว่า ประชาชนที่เสียภาษีเริ่มรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม ลามไปถึงเรื่องการหาเสียงในอนาคตหรือการสร้างฐานเสียง และมีประชาชนอีกหลายเสียงที่ส่งเสียงบอกว่า เด็กวัยนี้เน้นไปที่การเติมเกม เล่นเกมมากกว่า
“ดิฉันรู้สึกกังวลมากในประเด็นนี้ ว่าหลังจากที่แจกเงินไปแล้ว รัฐบาลจะมีวิธีติดตามผลลัพธ์อย่างไร และโครงการนี้คุ้มค่าหรือไม่ เพราะตั้งแต่เฟสแรกจนถึงเฟสนี้ มีข้อกังวลหลายอย่าง รวมถึงการแจกเงินและกลุ่มเป้าหมายที่ถูกเลือก ซึ่งในเฟสก่อนหน้า มุ่งเน้นไปที่ผู้สูงอายุ ขณะที่กลุ่มเยาวชนในเฟสล่าสุด กลายเป็นที่ถกเถียงในสังคมอย่างกว้างขวาง” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว
น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ต้องการขวางโครงการนี้ เพราะเชื่อว่าการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจจะช่วยพยุงให้เศรษฐกิจดำเนินต่อได้ แต่ในฐานะวุฒิสภาที่มีหน้าที่ในการกลั่นกรองนโยบาย ตนเห็นว่าจำเป็นต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างรัดกุมและการสื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจน เกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ตั้งไว้ว่าจะเป็นไปตามเป้า เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
“ดิฉันไม่ได้มองว่าโครงการเป็นปัญหา แต่ดิฉันมองว่าการเข้าถึงการสื่อสารเป็นสิ่งสำคัญจึงอยากขอเสนอแนะเพิ่มเติม เกี่ยวกับเรื่องของการสื่อสาร ช่องทางการสื่อสารต้องชัดเจนและเข้าถึงประชาชนได้ง่าย ลดความความหวังผิดๆโดยย้ำว่านี่เป็นมาตรการชั่วคราว ไม่ใช่การแก้ปัญหาระยะยาว ถาวร ต้องอธิบายให้ประชาชนได้เข้าใจโดยละเอียดและเข้าถึงทุกกลุ่ม ว่า โครงการนี้มีเป้าหมายอะไร ใช้ช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลที่ถูกต้อง” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี