'สรวงศ์' เตรียมเจรจา 'ดอร์น่า สปอร์ต' 1-2 เดือนนี้ ต่อสัญญา MotoGP หวังต่อยาว 5 ปี ขอลดค่าลิขสิทธิ์ บอก'นายกฯ' อยากต่อ พร้อมขอบคุณ ”ครูใหญ่บุรีรัมย์“ เป็นตัวตั้งตัวตี นําเข้ามาสร้างประโยชน์ วอนอย่าแยก F1 เป็นคนละตลาด ชี้ ไทยพร้อมจัดควบ 2 รายการ ยัน คนไทยได้เห็นศิลปินระดับโลก ชงงบเข้าครม. เม.ย.นี้
วันที่ 11 มีนาคม 2568 เวลา 11.45 น.วันที่ 11 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้าการต่อสัญญา การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก (MotoGP) ว่า เรื่องของตัวเลขมีความชัดเจน ว่าภาครัฐให้การสนับสนุนมากขึ้นทุกปี โดยเรื่องของกีฬาแบ่งเป็นสองอย่างคือ 1.กีฬาเพื่อความเป็นเลิศ คือเด็กและเยาวชน ที่เป็นนักกีฬาทีมชาติ 2.กีฬาอาชีพ เช่น มอเตอร์สปอร์ต หรือกีฬาประเภทใดก็แล้วแต่ที่ทำอาชีพ ดังนั้น หากภาครัฐคิดจะช่วยในการตั้งไข่จัดกิจกรรมต่างๆ ได้ และร่วมงานกับภาคเอกชน
นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า เรื่องของ MotoGP ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาที่ประเทศไทยได้จัดการแข่งขัน โดยภาพรวมแล้วคนไทยได้ประโยชน์ แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการขณะนี้ ซึ่งมีเวลาการเจรจากับบริษัทดอร์น่า สปอร์ต เจ้าของลิขสิทธิ์ MotoGP เขาก็รอให้เราเจรจา และกำลังจะเริ่มในเร็วๆ นี้ โดยเรามีความต้องการที่จะต่อสัญญาอีก 5 ปีเหมือนครั้งที่แล้ว และจะมีสิทธิประโยชน์หรือเอื้อประโยชน์ให้กับทางไทยได้หรือไม่ ในฐานะที่ภาครัฐให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ต้องไปพูดคุยกับภาคเอกชน ในการช่วยสนับสนุนเพิ่มเติม เพื่อให้ภาครัฐเบาภาระลงไป
เมื่อถามว่า มีข้อมูลอะไรที่ต้องการเพื่อไปเจรจาหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเจรจาทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราเป็นลูกค้าเดิม และทำสัญญากับบริษัทดอร์น่า สปอร์ต มาโดยตลอด ซึ่งหากเราจะต่อสัญญา ทุกครั้งก็ต้องมีการพูดคุย เพราะหากไม่พูดคุย ก็อาจทำให้ประเทศเสียผลประโยชน์ เช่นเรื่องสิทธิประโยชน์ การลดค่าลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะจากเดิมที่เพิ่มขึ้นปีละ 5% ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องผ่านการพูดคุยในช่วงต่อสัญญา ยืนยันว่า การจัดอีเว้นท์แบบนี้ จะทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศไทยได้จริง
นายสรวงศ์ กล่าวต่อว่า ขออย่าไปแยกระหว่างการจัดการแข่งขันรถสูตร 1 (ฟอร์มูลาวัน) กับ MotoGP ว่าเป็นคนละตลาดกัน ตนมองว่าหากจัดควบคู่กันได้จะเป็นเรื่องที่ดีมาก ซึ่งประเทศไทยมีความพร้อมที่จะจัดทั้ง 2 อย่าง และมีนักแข่งไทย ใช้ธงชาติไทย แข่งขันอยู่ในฟอร์มูลาวัน ก่อนที่นายสมเกียรติ จันทรา หรือ “ก้อง สมเกียรติ” จะลงแข่งขันใน MotoGP ก่อนที่ก้องจะมาขับ MotoGP ซึ่งจริงๆ เรื่องนี้ไม่ไกลเกินฝันสําหรับคนไทย
นายสรวงศ์ กล่าวว่า หากต่อสัญญา MotoGP จะเป็นผลดีต่อประเทศไทย ซึ่งหากไม่ต่อสัญญา จะเสียผลประโยชน์ด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ เหล่านี้ต้องคุยในรายละเอียด โดยส่วนตัว ตนและนายกรัฐมนตรี มีความประสงค์ที่จะต่อสัญญา แต่ช่วงนี้อยู่ระหว่างการพูดคุย ซึ่งการต่อสัญญาจะยังคงใช้ในสนามแข่งขันเดิมที่ จ.บุรีรัมย์ เพราะมีสนามเดียวในประเทศไทย
เมื่อถามว่า เวลาที่เหลืออยู่ 1 ปี บริษัทดอร์น่า สปอร์ต จะยังรอการตอบรับจากไทยใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ยืนยันว่ายังคงรออยู่ ซึ่งขณะนี้การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำลังพูดคุยอยู่โดยตนมอบหมายให้รองผู้ว่า กกท.ไปพูดคุยเบื้องต้น และตนก็จะไปพูดคุยกับบริษัทดอร์น่า สปอร์ต และภาคเอกชนด้วย เพื่อดูว่ามีอะไรสนับสนุนภาครัฐได้บ้าง เพราะตลอด 7 ปีที่ผ่านมา มีผู้รับประโยชน์และประสบความสำเร็จในการแข่งขัน MotoGP ที่สามารถดึงลูกค้ามาได้เยอะพอสมควร
เมื่อถามว่า ไม่เกี่ยวข้องกับคนใหญ่คนโตใน จ.บุรีรัมย์ ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวด้วยนํ้าเสียงหนักแน่นว่า ไม่เกี่ยว ซึ่งความจริงแล้วต้องขอบคุณท่านด้วยซํ้า เพราะเป็นบุคคลตัวตั้งตัวตีที่นำ MotoGP เข้ามาในประเทศไทย และก่อให้เกิดประโยชน์มหาศาล แต่ด้วยข้อจำกัดที่ประเทศไทย ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยของ FIM เพียงสนามเดียว หากจะทำสนามใหม่หรือทําเพิ่ม ต้องพูดคุยกันอีกระยะยาว
เมื่อถามว่า หากต่อสัญญา คาดว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดเท่าไหร่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ตัวผู้จัดการแข่งขันและภาครัฐ ไม่ได้คำนึงถึงกำไร เพราะหากดูในหลายประเทศที่จัดการแข่งขัน ตัวภาครัฐจะไม่ได้กำไรในตัวเอง แต่ภาพรวมจะเกิดเม็ดเงินสะพัด อย่างการแข่งขัน MotoGP 1 รายการ จะเกิดเม็ดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 5-6 พันล้านบาท แต่ทั้งหมดนี้ต้องเกิดการพูดคุย ซึ่งคาดว่าจะภายใน 1-2 เดือน ซึ่งปีนี้โชคดี ที่ไทยได้รับเกียรติเป็นสนามเปิดการแข่งขัน จะสังเกตได้ว่าปีนี้มีกิจกรรมในกรุงเทพฯ ค่อนข้างเยอะ ทั้งการเปิดตัว การจองบัตร
เรื่องนี้รัฐบาลจะทำอย่างเต็มที่ ให้การแข่งขัน MotoGP ยังอยู่คู่กับคนไทย และจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด กับคนไทยทุกคน ขอให้มั่นใจได้ เพราะตนเองก็เป็นแฟนมอเตอร์สปอร์ตคนหนึ่ง ที่ยังอยากจะมีรายการนี้ในประเทศไทย
นายสรวงศ์ กล่าวถึงการติดต่อศิลปินระดับโลกมาแสดงในไทย หลังสิงค์โปร์ติดต่อเลดี้ กาก้า จัดคอนเสิร์ตโดยไม่ใช้งบประมาณของรัฐบาล ว่า เรามีหน่วยงานที่ดำเนินการเรื่องนี้อยู่แล้วในประเทศไทย และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลหากเป็นเรื่องจริง จะเห็นได้ชัดว่าภาคเอกชนเขาขยับ ซึ่งจะเห็นได้ว่าทางสิงคโปร์แอร์ไลน์ เขาเป็นโต้โผเรื่องนี้ แต่ของเราก็มีขั้นตอนอยู่
ส่วนกรณีที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและให้การบ้านไปก่อนหน้านี้ ว่าให้ดีลบิ๊กอีเว้นท์มาจัดในไทย นายสวงศ์ กล่าวว่าขณะนี้ได้ทำการศึกษาแล้ว อยู่ในขั้นตอนการเสนอรายละเอียดให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือททท. จากนั้นจะมีการเสนองบประมาณเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ช่วงประมาณเดือนเมษายนนี้ เราจะมีโอกาสได้เห็นศิลปินระดับโลกมาจัดคอนเสิร์ตในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันได้มีการพูดคุย กลับบริษัทแม่ของศิลปินเหล่านี้อยู่แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี