"ธีระชัย"จวก"รัฐบาล" กู้หนี้เอามาแจกคนอายุ 16-20 ปี ไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เย้ย!ไร้ผลงานสวนทางชื่อเสียงเก่าที่เคยมี

เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานร่วมศูนย์นโยบายและวิชาการ แถลงท้วงติงเรื่องการแจกเงินเฟส 3 ว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ผ่านการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท

นายธีระชัย กล่าวว่า สำหรับประชาชนกลุ่มอายุ 16 - 20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน นั้น สมควรมีการพิจารณาทบทวน เพราะตัวเลขจีดีพีแสดงชัดเจนแล้วว่าการแจกเงินทำนองนี้ไม่ได้ผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ไม่ได้เกิดพายุหมุน 4 ลูก ตามที่โฆษณา แต่รัฐบาลกลับเมินคำเตือนจากธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ที่แนะนำให้ใช้กระสุนด้านการคลังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแทน ส่วนการกู้หนี้สาธารณะเอามาแจกเช่นนี้ ไม่ได้ช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

นายธีระชัย กล่าวว่า การแจกเงินให้กับคนอายุ 16 - 20 นั้น ส่วนใหญ่กลุ่มนี้ยังไม่ได้เริ่มทำงาน ยังไม่ได้ช่วยจ่ายเงินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเข้ามาเพื่อใช้บริหารประเทศชาติ แต่ยังต้องอาศัยการสนับสนุนจุนเจือจากสังคมเป็นรายวันด้วยซ้ำ จึงไม่มีเหตุผลที่จะเอาเงินภาษีของคนทั้งประเทศไปใช้แบบนี้ และเห็นว่าคณะกรรมการกำกับการเลือกตั้งควรพิจารณาว่ามีเจตนาจะตกเขียวซื้อความนิยมของคนหนุ่มสาวที่จะมีสิทธิเลือกตั้งในอีก 2 ปีข้างหน้าหรือไม่ ส่วนวัตถุประสงค์จะให้ใช้ซื้ออุปกรณ์การศึกษาที่จำเป็นนั้น ก็ควรใช้มาตรการที่อุดหนุนตรงไปที่โรงเรียน เพราะไม่เห็นว่ารัฐบาลมีกลไกใดที่จะทำให้แน่ใจได้ว่าผู้รับเงินนำไปใช้จ่ายเช่นนี้ แทนที่จะไปเล่นเกม หรือพนันออนไลน์

ส่วนที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงว่าจะตัดรายการสินค้าต้องห้าม หรือ Negative List ออกทั้งหมดนั้น นายธีระชัย กล่าวว่า ก็เป็นการยอมรับสภาพว่า ในเมื่อรัฐบาลแจกเป็นเงินสดไม่ใช่เงินดิจิทัล ย่อมไม่สามารถควบคุมการซื้อสินค้านำเข้า ซึ่งทำให้การกระตุ้นเศรษฐกิจไปเกิดนอกประเทศอันเป็นการเสียงบประมาณทิ้งเปล่าอยู่แล้ว

นายธีระชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ ต้องไม่ลืมว่ารัฐบาลมีปัญหาจากการที่ไปชักจูงให้คนมาลงทะเบียนไว้ และขณะนี้ยังได้รับเงินมีจำนวนมากกว่า 16 ล้านคน รัฐบาลควรชี้แจงให้ชัดเจนว่าจะแจกเป็นเงินดิจิทัลได้จริงหรือไม่ เพราะจนถึงขณะนี้กระทรวงการคลังก็ยังไม่ได้แถลงข่าวว่ามีการหารือสำเร็จเรียบร้อยกับแบงก์ชาติในเรื่องการออกเงินดิจิทัลตามกฎหมายเงินตรา หรือในการเชื่อมโยงระบบโอนเงินดิจิทัลเข้ากับระบบโอนเงินระหว่างธนาคารพาณิชย์ตามกฎหมายแบงก์ชาติ

"ประชาชนตั้งความหวังว่า รัฐบาลที่มีชื่อเสียงด้านบริหารเศรษฐกิจ น่าจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ แต่จนบัดนี้ก็ยังไม่เห็นผลงาน และอนาคตที่เศรษฐกิจโลกจะชะลอลงจากมาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐ รัฐบาลนี้ก็ไม่ได้ชี้นำว่าประชาชนต้องเตรียมตั้งรับอย่างไร" นายธีระชัย กล่าว

- 006