"ภูมิธรรม"เผยวงประชุม ศปช.เร่งเดินหน้า 3 โครงการ"ป้องกัน พัฒนา ฟื้นฟู"ความเสียหายจากอุทกภัย ย้ำการดำเนินงาน-ใช้งบฯเป็นไปด้วยความโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ครั้งที่ 2/2568 ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยมีผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การประชุมวันนี้ เป็นการรับทราบสรุปผลการประชุมและผลการดำเนินงานภายใต้คำสั่งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) รวมทั้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากคณะทำงานพิจารณา ศึกษา และเสนอแนวทางในการปรับปรุงระเบียบและกฎมายที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัย และผลการให้การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567
ทั้งนี้ ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ได้อนุมัติข้อเสนอในการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี งบประมาณ พ.ศ.2568 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนิน 3 โครงการสำคัญ (1) โครงการส่งเสริม ป้องกัน และฟื้นฟูหลังประสบสถานการณ์เหตุอุทกภัยศูนย์อนามัยที่ 1 เชียงใหม่ กรมอนามัย (2) โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ บริหารจัดการน้ำ และฟื้นฟูโครงการที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ของกรมชลประทาน (3) โครงการฟื้นฟูเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย ปี 2567 เพิ่มเติม ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้เน้นย้ำให้สำนักงบประมาณ ช่วยตรวจสอบความถูกต้อง และติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความโปร่งใส และใช้งบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี