นายกฯปัดพ่อไม่เกี่ยว
ชนวนป่วนภาคใต้
สว.อัดรบ.ล้มเหลว
ชงใช้ก.ม.ก่อการร้าย
นายกฯปัด“ทักษิณ”ไม่เกี่ยวเหตุไฟใต้ ด้านภูมิธรรม ร่วมป้องยันทักษิณลงพื้นที่ ไม่เกี่ยวเหตุไม่สงบช่วงเดือนรอมฎอน อัดอย่าจับแพะชนแกะ ด้าน สว.หนวดหิน ซัดรัฐบาลล้มเหลวแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ ละลายงบ 500ล้าน ติงใช้กฎหมายล้าสมัย ควรใช้ยาแรง ออกกฎหมายก่อการร้าย-สร้างรั้วชายแดน
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร ว่ายังไม่ได้พูดคุยกับนายทักษิณ แต่ดูแลอย่างเต็มที่ และได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว เมื่อถามว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ระบุว่านายทักษิณ เป็นส่วนหนึ่งที่ให้คำแนะนำในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ นายกฯกล่าวว่า ยืนยันยังไม่ได้คุยกับนายทักษิณ แต่อย่างใด เมื่อถามย้ำว่า หลายฝ่ายมองว่าเหตุการณ์ไม่สงบเชื่อมโยงกับกรณีที่นายทักษิณ ลงพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ไม่น่าจะเกี่ยวอยู่แล้ว
ด้านนายภูมิธรรม กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา ว่าเป็นการคุยกันในรายละเอียดเกี่ยวกับความมั่นคง การรับสัตยาบัน เป็นต้น เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวจะเปลี่ยนหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขชายแดนใต้เป็น พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้คิดว่าจะเอาใคร คงต้องรอการกำหนดยุทธศาสตร์ให้จบก่อน เพราะขณะนี้มีหลายคนเสนอตัวเข้ามา ซึ่งเรารวบรวมจากทุกฝ่าย และคิดว่าอะไรที่เป็นประโยชน์ตรงกับยุทธศาสตร์ที่วางไว้
ต่อข้อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าเหตุการณ์ความไม่สงบมักเกิดช่วงเดือนรอมฎอน แต่เหตุที่เกิดขึ้นก่อนเป็นเพราะนายทักษิณ ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้หรือไม่ นายภูมิธรรม ย้อนถามสื่อว่า “คนพูดเป็นคนวางระเบิดเหรอ” พร้อมถามว่าต้องดูว่าใครมองเรื่องนี้ การเกิดเหตุความไม่สงบก็เกิดช่วงรอมฎอนมาตลอด ไม่ว่าจะช่วงต้นช่วงกลางหรือช่วงท้าย เมื่อเหตุการณ์นี้มีอยู่ตลอดและนายทักษิณลงพื้นที่เหตุการณ์ก็ยังเกิดอยู่ จะไปบอกว่าเป็นเพราะนายทักษิณลงไปได้อย่างไร คนที่พูดยังยึดติดกับเรื่องนี้อยู่ตลอด
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าฝ่ายความมั่นคงไม่เอาประเด็นนายทักษิณลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ มาเชื่อมโยงกับการก่อเหตุความไม่สงบใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มันไม่มี จะให้ตั้งประเด็นได้อย่างไร ตนเคยบอกไว้ว่าถ้าจะแก้ปัญหาให้ได้ต้องหยุดเหตุความไม่สงบก่อน และให้เปิดสถิติเหตุความไม่สงบว่ามักเกิดในช่วงเดือนรอมฎอน ทุกช่วง และเกิดหลายพื้นที่ เราไปตอบแทนผู้ก่อเหตุไม่ได้ เพราะเราจะไปรู้ใจเขาได้อย่างไร เราไม่ได้นั่งในหัวใจเขา ซึ่งเราไม่เกี่ยวข้องถึงจะไปรู้ว่าเขาจะทำอะไร
เมื่อถามว่าจะใช้กลไกที่ปรึกษาประธานอาเซียนของนายทักษิณเข้ามาช่วยแก้ไขเรื่องนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายทักษิณก็ทำอยู่แล้ว อะไรที่เป็นประโยชน์เราก็ใช้ทั้งนั้น ขณะนี้ท่านเพิ่งเริ่มต้นทำงานเท่าที่ได้ฟังมาท่านบอกว่าได้รับการติดต่อประสานงานมาหลายทาง ถือเป็นเรื่องที่ดีที่มีคนอาสาเข้ามาช่วย เพื่อจะประสานงานและได้รับการดูแล อย่าไปคิดว่าคนนั้นคนนี้มาช่วยแล้วจะไม่ดี พวกที่ตั้งคำถามแบบนี้ คือตั้งคำถามแบบหาเรื่อง ขออย่าไปจับแพะชนแกะ ขอให้ยึดความเป็นจริง ว่าอย่างไรเราก็ว่าอย่างนั้น หากจะพูดว่านายทักษิณลงพื้นที่แล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้มันพูดง่ายเกินไป แต่หากความเป็นจริงมีเบาะแสออกแถลงการณ์ว่าเป็นเพราะนายทักษิณค่อยมาพูดดีกว่า
ที่รัฐสภา นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้หารือในที่ประชุม สว.เรื่องความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าเมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา กลุ่มติดอาวุธบีอาร์เอ็น สามารถบุกเข้าไปกลางเมืองสุไหงโก-ลก เมืองหลัก เมืองเศรษฐกิจ 8 หัวเมืองใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ และก่อเหตุวินาศกรรม วางระเบิดที่ว่าการอำเภอ รวมทั้งสถานที่ราชการอื่น มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต ประชาชนได้รับบาดเจ็บ ถ้าไม่หยิบเรื่องนี้มาพูด ก็เหมือนตนและเพื่อนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ละเลยต่อความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ทำหน้าที่ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล
นายไชยยงค์กล่าวต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้เห็นถึงความไร้ประสิทธิภาพหลายส่วนในการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เริ่มจากการข่าว มีงบการข่าวในการบูรณาการของจังหวัดชายแดนภาคใต้ปีละ 500 ล้านบาท แต่ปรากฏว่างานการข่าวไม่มีประสิทธิภาพ เพราะคนร้ายยกขบวนนำระเบิดข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาก่อการร้ายในพื้นที่เกือบ 10 จุด แต่เราไม่ได้ข่าวความเคลื่อนไหวกลุ่มคนร้ายเลย ตนมองว่าเรากำลังใช้งบประมาณการข่าวที่ไม่มีประสิทธิภาพ และหน่วยงานรัฐในพื้นที่ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันหน่วยงานของตนเอง
“เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองปล่อยให้คนร้ายสามารถบุกเข้าไปก่อวินาศกรรมในสำนักงานที่ว่าการอำเภอของตนเองโดยไม่มีการตั้งรับและไม่มีแผนเผชิญเหตุ ภาพที่ปรากฏจากกล้องวงจรปิดเผยแพร่ไปทั่วประเทศทำให้เห็นชัดว่าฝ่ายปกครองยังไม่มีความพร้อมในการที่จะรับมือกับกลุ่มก่อการร้ายขบวนการบีอาร์เอ็น” นายไชยยงค์ กล่าวและว่า เรื่องทั้งหมดแสดงว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการสร้างมวลชนการแย่งชิงมวลชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความล้มเหลว
นายไชยยงค์ กล่าวต่อว่า ประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังตกอยู่ภายใต้อำนาจอิทธิพลของขบวนการแบ่งแยกดินแดนบีอาร์เอ็น ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบแค่ความมั่นคง แต่ส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของประชาชน กระทบต่อเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยว ตนอยากถามรัฐบาลว่าสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ใช่เรื่องของความไม่สงบ แต่เป็นเรื่องของการก่อการร้าย รัฐบาลต้องยอมรับความจริงและจะต้องหาเครื่องมือให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
นายไชยยงค์ กล่าวว่า ป.วิอาญาที่มีอยู่ใช้กับอาชญากรรมธรรมดา และเมื่อเราใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.ก.ความมั่นคง หรือกฎอัยการศึก ซึ่งเป็นกฎหมายที่ล้าหลังเป็นกฎหมายเรียกแขก ทั้งโลกเขาเลิกใช้แล้ว แต่เราเอากฎหมายเหล่านี้มาใช้เมื่อไหร่ ก็กลายเป็นเงื่อนไขให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตี ให้เอ็นจีโอ กลุ่มสิทธิมนุษยชน และปีกทางการเมืองของบีอาร์เอ็น กล่าวหาโจมตีเรา ถามว่าถึงเวลาแล้วหรือไม่ ที่รัฐบาลจะตระหนักถึงเรื่องนี้และมีการออกกฎหมายการก่อการร้ายมาใช้เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น รัฐบาลคิดแล้วหรือไม่ ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นควรจะมีรั้วชายแดนที่มีการปักปันเขตแดนกับมาเลเซียแล้ว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งอาวุธต่างๆก็ขนมาจากประเทศเพื่อนบ้าน กองกำลังติดอาวุธ เมื่อปฏิบัติการเสร็จก็กลับไปนอนตีพุงอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน เห็นว่าเราไม่มีปัญญาและล้มเหลวในการซีลชายแดน
สายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจ สภ.บันนังสตา ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทหาร พล.ร.15 สนต.ฉก.ยะลา ว่าเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ซุ่มยิงกำลังพล มว.ปล.ที่ 1 ร้อย.ร.ที่ 2 ตั้งอยู่พื้นที่บ้านสนามบิน หมู่ 1 ต.เขื่อนบางลาง อ.บันนังสตา จ.ยะลา มีผู้ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อคือร.ท.ภูวิวัฒน์ อายุ 41 ปี ตำแหน่ง ผบ.มว.ปล.ที่ 1 ร้อย.ร.ที่ 2 ถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาด บริเวณใต้ราวนมซ้าย อาการสาหัสยังไม่รู้สึกตัว เหตุเกิดขณะปฏิบัติภารกิจบริเวณหน้าฐานปฏิบัติการจาเต๊ะมว.ปล.ที่ 1 ร้อย ร.ที่ 2เบื้องต้นได้นำส่ง รพ.บันนังสตา จากนั้นได้ส่งต่อ รพ.ศูนย์ยะลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี