คลังกลับลำ!จ่ายค่าเทอม-น้ำ-ไฟไม่ได้
ซื้อ‘เหล้า-บุหรี่’ได้
‘เผ่าภูมิ’แจงกติกา1หมื่นเฟส3
ตัดรายการสินค้าต้องห้ามออก
รบ.โวมีเฟส4-5ได้ทุกช่วงวัย
สว.ชี้คนเสียภาษีน้อยใจไม่ได้เงิน
นายกฯย้ำเงินหมื่นดิจิทัลฯ คนเข้าเกณฑ์ได้รับครบแน่ โฆษกรบ.แถลงย้ำรัฐบาลมีแผนแจก 1 หมื่นเฟส 4-5 ครบทุกช่วงอายุตั้งแต่ 21-59 ปี แจงเหตุผลกลุ่ม 16-20 ปีได้ก่อน เพราะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี การเข้าถึงระบบโซเชียลได้ดี ด้าน“เผ่าภูมิ”แจงเงินหมื่นเฟส3 จ่าย‘ค่าเทอม-ค่าน้ำ-ไฟ’ไม่ได้ เหตุไม่ใช่สินค้าอุปโภค-บริโภค เป็นการบริการ แต่ซื้อ‘เหล้า-บุหรี่’ได้
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 ที่กำหนดจ่ายให้เด็กอายุ 16-20 ปี จะให้ผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐหรือช่องทางไหนว่า ให้กระทรวงการคลังแจ้งรายละเอียด แต่ให้ทุกคนโหลดแอปฯทางรัฐไว้ก่อน
นายกฯย้ำทุกกลุ่มได้เงินหมื่นแน่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ที่ยืนอยู่ด้านหลังกล่าวเสริมว่า จ่ายผ่านแอปฯทางรัฐ ทำให้น.ส.แพทองธารกล่าวว่า รับเงินผ่านแอปฯทางรัฐ ขอให้โหลดแอปฯทางรัฐไว้ และนอกจากเรื่องนี้แล้วยังมีเรื่องอื่นที่รัฐบาลเตรียมมอบให้ประชาชนผ่านแอปฯทางรัฐ อาจมีเรื่องการสื่อสารและรับประโยชน์ต่างๆจากรัฐ พอเรามีฐานข้อมูลก็ทำให้ถูกกลุ่มถูกเป้าหมายมากยิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่ากลุ่มอายุ 21-59 ปี กังวลว่าจะไม่ได้รับเงินหมื่น น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอย้ำให้ความมั่นใจว่าทุกกลุ่มจะได้รับเรื่องของดิจิทัลวอลเล็ตในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้ ไม่ต้องกังวล ที่เราให้กลุ่มอายุ 16-20 ปีก่อน เพราะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี บางคนอาจพูดว่าทำไมไม่ให้เงินสดเหมือนเดิม ความจริงเป็นนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตตอนแรก แต่พื้นฐานที่มาคือ กระตุ้นเศรษฐกิจ และเข้าไปสู่เทคโนโลยีด้วยเป็นสิ่งที่ตั้งใจตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้งแต่ระบบต้องใช้เวลา และประชาชนเดือดร้อน ฉะนั้น เรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกที่เป็นเรื่องของเงินสดคือ จำเป็นมาก แต่ตอนนี้ระบบใกล้เสร็จแล้ว ก็กลับมาเป็นดิจิทัลวอลเล็ตที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจแบบผ่านเทคโนโลยี แน่นอนว่าการให้ข้อมูลไม่จบแค่นี้ ยังมีประโยชน์อื่นอีกมากมายในการมีฐานข้อมูลประชาชนไว้ เวลาเกิดอะไรขึ้นแม้กระทั่งการเยียวยา เราจะสามารถจับกลุ่มได้ว่าคนพื้นที่นี้อายุเท่านั้นเท่านี้จะทำงานง่ายและเร็วขึ้น ช่วยประชาชนได้ทั่วถึงจริงๆ
ค่าน้ำค่าไฟ-ค่าเทอมจ่ายไม่ได้
ต่อมานายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยถึงถึงเงื่อนไขโครงการแจกเงินหมื่นเฟส 3 ให้กลุ่มอายุ 16-20 ปีว่า รอบนี้ไม่มีการกำหนดสินค้าต้องห้าม แต่เป็นการกำหนดร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการแทน โดยมีร้านค้าต้องห้ามเข้าโครงการอยู่ 8 ข้อ เช่น สถานบริการน้ำมัน สถานบริการ ร้านอาหาร ร้านขายสลาก ร้านขายสุรา ร้านขายบุหรี่ ทั้งนี้ การไม่มีรายการสินค้าต้องห้ามเพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ และให้ประชาชนใช้จ่ายได้ง่าย สามารถรู้ได้ว่าร้านไหนสามารถซื้อได้ร้านไหนซื้อไม่ได้ และน่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี เพราะหากเจาะเป็นรายสินค้าเลยจะทำให้การบริหารจัดการยากและทำให้เกิดความสับสนกับประชาชนได้ ส่วนค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าเทอมยืนยันว่าไม่สามารถใช้จ่ายได้ เพราะถือเป็นสินค้าบริการ ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ในการแถลงวันที่ 10 มีนาคม บอกว่าสามารถจ่ายค่าเทอมได้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังชี้แจงว่า เมื่อวานสื่อถามเร็วไป ประจัญหน้าไปหน่อย คราวหน้าส่งคำถามมาก่อน อย่างไรก็ตามยังสามารถนำเงินไปใช้ซื้อสินค้าประเภทอื่นได้
เปิดเงื่อนไขใช้เงินหมื่นเฟส3
อายุ 16-20 ปี โดยต้องเกิดระหว่างวันที่ 16 ก.ย.2547 ถึงวันที่ 16 ก.ย.2551 มีรายได้ไม่เกิน 8.4 แสนบาท สำหรับปีภาษีปี 2566 เป็นผู้มีเงินฝากรวมกันไม่เกิน 5 แสนบาท ณ วันที่ 30 มิ.ย.2567 ไม่อยู่ในสถานสงเคราะห์ของพม. ณ วันที่ 30 พ.ย.2567 ไม่เป็นผู้ต้องขัง ณ วันที่ 30 พ.ย.2567 ไม่เป็นกลุ่มที่รับไปแล้ว ในเฟส 1 และเฟส 2 `ส่วนรายละเอียดการใช้จ่ายนั้น ปรับเปลี่ยนเรื่องร้านค้าและสินค้า โดยยกเลิกสินค้าห้ามซื้อ 19 รายการ อาทิ สลากกินแบ่งรัฐบาล เครื่องแอลกอฮอล์ ยาสูบ ทองคำ และน้ำมันเชื้อเพลิง ร้านค้าที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ร้านขายเพชร ร้านขายทอง ร้านขายอัญมณี ร้านขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ร้านขายสุราและบุหรี่ ร้านขายสิ่งเสพติด ทั้งกัญชา กระท่อม ยาสูบ สถานีน้ำมัน แต่ไม่รวมร้านค้าในสถานีน้ำมัน กลุ่มธุรกิจบริการ ทั้งเสริมสวย นวดบริการต่างๆ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าเทอม ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ร้านโชห่วย ธงฟ้า ร้านอาหารที่ขายสุราและบุหรี่ ร้านสะดวกซื้อ
รบ.ยันมีเฟส4-5ได้ครบทุกกลุ่ม
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามที่นายกรัฐมนตรีได้กำชับและยืนยันว่า โครงการเฟส 1 สำหรับกลุ่มเปราะบาง และเฟส 2 สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ขณะที่เฟส 3 สำหรับกลุ่มอายุต่ำกว่า 20 ปี กำลังอยู่ในข่าว โดยรัฐบาลมีแผนดำเนินการในเฟสต่อไปให้ครบทุกช่วงอายุตั้งแต่ 21-59 ปี เหตุผลที่รัฐบาลเลือกกลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปีก่อน เพราะเยาวชนกลุ่มนี้มีความรู้ความสามารถในการเข้าถึงเทคโนโลยีและระบบโซเชียลได้ดี สามารถเป็นต้นแบบและถ่ายทอดความรู้การใช้แอปพลิเคชันและการลงทะเบียนในระบบดิจิทัลวอลเล็ตให้ผู้ปกครองหรือญาติที่มีอายุมากกว่าได้
สว.โชว์คอมเม้นท์คนทำงานเดือดดาล
ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อน โดยน.ส.ภิญญาพัชญ์ศันสนียชีวิน ส.ว.หารือถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เฟส 3 ให้ผู้ที่อายุ 16-20 ปี ว่า ส่วนตัวแล้วเมื่อเห็นโครงการนี้ เห็นวัตถุประสงค์อันดี 3 ประการได้แก่ 1.กระตุ้นเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น 2.ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล กลุ่มเยาวชนอายุ 16-20 ปี ที่มีความคุ้นเคยกับเทคโนโลยี และ3. ส่งเสริมการเรียนรู้การจัดการการเงิน เปิดโอกาสให้เยาวชนได้ฝึกฝนการวางแผนการใช้จ่าย ซึ่งเป็นทักษะสำคัญสำหรับอนาคต แต่เมื่อติดตามข่าวสารและความคิดเห็นบนโซเชียลมีเดีย พบว่าจากข่าวดังกล่าว แสดงให้เห็นถึงความเดือดดาลของประชาชน มีการตั้งคำถามว่า ทำไมถึงไม่แจกให้กับผู้เสียภาษี อย่างกลุ่มวัยทำงานที่เป็นผู้สร้างเศรษฐกิจ แต่กลับมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเยาวชนและผู้สูงอายุอย่างชัดเจน
“ยกตัวอย่างความเห็นของคนทั่วไป เช่น คนที่จ่ายภาษีหลักๆคือ อายุ 20-50 ปี ซึ่งมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ของแต่ละคน ยังไม่เหมาะสมหรือ คำถามที่ว่า ยังไม่เหมาะสมหรือ สะท้อนถึงประเด็นที่ว่า ควรจัดสรรงบประมาณที่มาจากภาษีของกลุ่มวัยทำงานอย่างไร ให้เกิดความเป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ ประชาชนที่เสียภาษีเริ่มรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม ลามไปถึงเรื่องการหาเสียงในอนาคต หรือการสร้างฐานเสียง และมีประชาชนอีกหลายเสียงที่ส่งเสียงบอกว่า เด็กวัยนี้เน้นไปที่การเติมเกม เล่นเกมมากกว่า ดิฉันรู้สึกกังวลมากในประเด็นนี้ว่า หลังแจกเงินไปแล้ว รัฐบาลมีวิธีติดตามผลลัพธ์อย่างไร และโครงการนี้คุ้มค่าหรือไม่ เพราะตั้งแต่เฟสแรกจนถึงเฟสนี้ มีข้อกังวลหลายอย่าง รวมถึงการแจกเงินและกลุ่มเป้าหมายที่ถูกเลือก ซึ่งในเฟสก่อนหน้า มุ่งไปที่ผู้สูงอายุ ขณะที่กลุ่มเยาวชนในเฟสล่าสุด กลายเป็นที่ถกเถียงในสังคมอย่างกว้างขวาง” น.ส.ภิญญาพัชญ์ กล่าว และว่า ตนไม่ได้ต้องการขวางโครงการนี้ แต่ในฐานะสว.มีหน้าที่กลั่นกรองนโยบาย เห็นว่าต้องเตรียมความพร้อมอย่างรัดกุมและการสื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจน เกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ตั้งไว้ว่าจะเป็นไปตามเป้า เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จึงอยากให้มีช่องทางสื่อสารที่ชัดเจนเข้าถึงประชาชนได้ง่าย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี