จ่อเรียกสอบ140สว.
โยงคดีฮั้วฟอกเงิน
‘ทวี’สั่งDSIเดินหน้า
ขีดเส้นจบใน3เดือน
สว.ระดมพล ยื่นป.ป.ช.ฟันผิด ม.157“ทวี-อธิบดีดีเอสไอ”สอบฮั้วสภาสูง เปรียบเหมือนแมวจับปลาในน้ำสุดท้ายจมน้ำตาย ด้าน รมว.ยุติธรรมไม่สน สั่งดีเอสไอเดินหน้าลุย แย้มเรียกสอบ 140 สว.โยงฟอกเงิน ขีดเส้น3 เดือนจบ
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) นำ สว .81 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อเอาผิด พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เป็นผลสืบเนื่องจากคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) มีมติรับคดีฮั้ว สว.ข้อหาฟอกเงินเป็นคดีพิเศษ โดยเห็นว่าไม่มีอำนาจ ซึ่งในหนังสือยื่นคำร้องมี สว. ร่วมลงชื่อจำนวน 105 คน โดยมีนายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นตัวแทนรับหนังสือ
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า สว.ชุดนี้ มาตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ในมาตรา 107 ทั้งตามระเบียบ กกต.และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่ขั้นตอนการรับสมัคร และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งมีข้อสงสัยว่าเหตุใดพยานหลักฐานจากข้อกล่าวหาต่างๆ จึงมีเป็นจำนวนมาก
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ตนในฐานะที่เคยเป็นอดีตพนักงานสอบสวน ตระหนักได้ว่าหลักฐานเพียงพอหรือไม่ในการตั้งข้อกล่าวหา โดยเฉพาะความผิดข้อหาอั้งยี่ ซ่องโจร สว. รับไม่ได้ เพราะ สว.มีที่มาทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิจากหลายสาขาอาชีพ จึงถือว่าองค์กรที่มีหน้าที่ตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว. คือคณะกรรมการการเลือกตั้งตามที่รัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ และเห็นว่าเป็นธรรมดาทั่วไปของมนุษย์เมื่อไม่ได้และผิดหวัง ก็ไปร้องเรียนผู้ที่ได้รับการคัดเลือก ซึ่งทุกคนใช้วิจารณญาณในการดำเนินการได้ แต่การกล่าวหาว่า สว.ชุดนี้มีการฮั้ว เรารับไม่ได้ กำลังให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาและดำเนินการต่อไป ขณะนี้กำลังรวบรวมหลักฐานทุกคนที่กล่าวหา
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวอีกว่า การดำเนินการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมและอธิบดีดีเอสไอ ทำให้พวกตนเองถูกกล่าวหาและถูกดูหมิ่นจากประชาชนว่ามีที่มาไม่สุจริต นอกจากนี้ยังเชื่อว่า กกต.มีหลักฐานเรื่องร้องเรียนการเลือก สว.มากกว่าที่ DSI อ้าง เพราะ กกต.เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนมาก่อนแล้ว ซึ่ง กกต.ใช้ความละเอียดรอบคอบและมีความระมัดระวังในการกล่าวหาต่อผู้ที่ได้รับการรับรองเป็น สว.ไปแล้ว ไม่เหมือนผู้ร้องที่อยากเป็นเร็ว อยากขยับขึ้นมาก็กล่าวหาว่า กกต.ทำงานด้วยความล่าช้า อยากถามว่า กกต.จะต้องไปตรวจสอบผู้สมัคร 40,000 คน จะใช้เวลาเท่าไร 6-7 เป็นไปได้หรือไม่
ทั้งนี้ หาก DSI สืบสวนไปแล้วรู้ว่าไม่มีอำนาจในการดำเนินการ ก็ควรส่งพยานหลักฐานให้ กกต. ตนเองก็ไม่ทราบว่า DSI จะเก็บไว้ทำไม วันดีคืนดีพวกตนเองทำงานมีประสิทธิภาพ การเมืองไม่พอใจ ไม่รู้ใครบัญชาการ ใครคุมกระทรวงยุติธรรม ความยุติธรรมในประเทศก็เริ่มไม่เกิดขึ้น ความกระส่ำระสายเกิดขึ้นทุกองค์กร จากผู้นำจิตวิญญาณบางคน ที่สามารถควบคุมฝ่ายการเมืองได้ ดังนั้นเชื่อว่าฝ่ายการเมือง ที่เข้ามากำกับดูแล DSI ผูกครอบงำหรือไม่ ก็ขอให้สื่อมวลชนพิจารณาเอง
พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ ยังเปรียบเปรยกรณีดีเอสไอไปทำคดีฟอกเงินฮั้วสว.เหมือนแมวไปจับปลาในน้ำสุดท้ายก็จมน้ำตายเพราะแมวว่ายน้ำไม่เป็น
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ดีเอสไอตั้งคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ในคดีฟอกเงิน ที่มาจากคดีฮั้วเลือกสว. ว่า ในการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีหลักว่าเรื่องนี้ต้องสอบสวนร่วมกับอัยการก่อนจะเริ่มสอบสวน หลังจากรับเป็นคดีพิเศษแล้ว พนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ จะต้องมีการประชุมร่วมกัน และเสนอแผนการสอบสวน ทราบว่า อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะทำหนังสือไปถึงอัยการสูงสุด ในการประสานงาน และสำนักงานอัยการสูงสุด จะตั้งเป็นคณะทำงาน เพราะคดีนี้ มีพยานที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก โดยหลังจากนี้จะเป็นเรื่องของพยานหลักฐาน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลังจากรับเป็นคดีพิเศษแล้ว จะมีการหารือกับอัยการเพื่อวางกรอบระยะเวลาไว้เท่าใด พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กฎหมายระบุไว้ว่า ให้สอบสวนโดยเร็ว คดีนี้เรารู้ชื่อพยานเยอะแล้ว และในการชี้แจงจะมีข้อมูลอยู่แล้ว หากจะให้เสร็จโดยเร็ว ตนคาดว่า น่าจะใช้เวลา 3 เดือน หากมีคนผิดจะแจ้งข้อกล่าวหา และหากจะสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการ อาจจะใช้เวลามากกว่านั้นนิดหน่อย
ขณะที่การตั้งคณะพนักงานสอบสวน 41 คน ที่เป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ จะถูกมองว่า เป็นเกมการเมืองในการบังคับคดีหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่ใช่มีบุคลากรจากกรมสอบสวนคดีพิเศษอย่างเดียว แต่จะมีเจ้าหน้าที่จากอัยการ และหลังจากนี้จะใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรี ตั้งบุคคลภายนอก เช่น ตำรวจ และผู้เชี่ยวชาญต่างๆ
ส่วนกรณีที่ สว.ไปร้องกับ ป.ป.ช. อ้างว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษไม่มีอำนาจในการทำคดี พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร เราดูทั้งกฎหมาย และประสานงานกับกกต. โดย กกต.ตอบกลับว่า ในคดีที่เกี่ยวกับการได้มาซึ่ง สว.นั้น ไม่ได้มีการตัดอำนาจ วันนี้ กกต.ยังไม่ได้เรียกสำนวน ทั้งที่ได้แจ้งให้ทาง กกต.ทราบแล้ว ตามกฎหมาย ต้องเรียกสำนวนภายใน 7 วัน อีกทั้งเอกสารมีค่อนข้างมาก และเป็นความลับ รวมถึงพยานจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะขอคุ้มครองพยาน
เมื่อถามต่อว่า สว.ที่ไปร้อง ป.ป.ช. ตั้งข้อสังเกตว่า ว่าพยานหลักฐานต่างๆ ที่ ดีเอสไอ มี ดูไม่น่าเชื่อถือ พ.ต.อ.ทวี ระบุว่า ยินดีให้ตรวจสอบ เมื่อท่านถูกเรียกเข้ามาให้การหรือแจ้งข้อกล่าวหา เราให้ความร่วมมือ และพร้อมให้ความเป็นธรรม
ส่วนตัวเลขของ สว.ที่จะต้องตรวจสอบในโพยนั้น มีจำนวนเท่าไหร่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า อย่างน้อยมีชื่ออยู่ในโพยที่ต้องถูกสอบประมาณ 140 คน
ด้าน พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว หนึ่งในกลุ่มสว.สำรอง กล่าวเตือนมีสว.กลุ่มหนึ่งไปที่ไปเล่นงาน รมว.ยุติธรรม ว่าอย่าร้อนตัว แต่ควรปล่อยให้กระบวนการสอบสวนประเด็นการฟ้องเงินฮั้วเลือกสว.ดำเนินการไปตามขั้นตอนปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี