วันที่ 13 มีนาคม 2568 นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาชี้แจงกรณีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ตในเฟสล่าสุด โดยระบุว่า ควรมองโครงการนี้ในบริบทที่กว้างขึ้น ไม่ใช่เพียงแค่การให้เงินกลุ่มประชาชนอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน ซึ่งหลายฝ่ายตั้งคำถามว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมหรือไม่
นายจักรภพ กล่าวว่า ดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ว่าจะเป็นเฟส 1, เฟส 2 หรือ เฟส 3 เป็นเพียงส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งประกอบด้วยทั้งหมด 46 โครงการ โดยโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นนโยบายที่ประชาชนเฝ้ารอ อย่างไรก็ตาม ใน 46 โครงการนี้สามารถแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ 1. การลงทุนภาคเอกชน ซึ่งรัฐบาลจะต้องอัดฉีดเงินบางส่วนเพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุน 2. ค่าใช้จ่ายภาครัฐ ที่เน้นไปที่โครงการโครงสร้างพื้นฐาน และ 3. การส่งเสริมภาคเศรษฐกิจเฉพาะด้าน เช่น การท่องเที่ยว
ทั้งนี้ แผนดำเนินการของรัฐบาลคาดว่าจะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงกลางปีงบประมาณ 2568 หรือระหว่างไตรมาสที่ 2-3 (มกราคม - มิถุนายน 2568) และจะส่งแรงกระเพื่อมต่อเนื่องไปยังไตรมาสสุดท้าย ก่อนเข้าสู่ปีงบประมาณ 2569 ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568
นายจักรภพ กล่าวย้ำว่า ดิจิทัลวอลเล็ตเฟสล่าสุดไม่ได้ดำเนินการอย่างโดดเดี่ยว แต่จะเดินหน้าควบคู่ไปกับบโครงการพัฒนาเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น โครงการรถไฟรางคู่ภาคใต้ และโครงการก่อสร้างคลังสินค้า เพื่อรองรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ใต้ เหนือ และชายฝั่งทะเล รวมถึงโครงการพัฒนาความร่วมมือระดับภูมิภาคตัวอย่างเช่น ในภาคอีสาน รัฐบาลมีแผนพัฒนาโครงการมิตรภาพไทย-ลาว ที่จะสร้างสะพานเชื่อมต่อ หนองคาย-เวียงจันทน์ แห่งที่สอง เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการค้าและโลจิสติกส์ หรือในภาคใต้ ก็มีโครงการสะพานข้ามทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง ที่จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการเชื่อมต่อโครงข่ายเศรษฐกิจของภูมิภาค” นายจักรภพกล่าว และย้ำว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านมาตรการต่าง ๆ เช่น ดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเพียงจุดประกายให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ซึ่งต่อจากนั้นโครงการที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งจากภาครัฐและเอกชน จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการผลักดันการพัฒนาอย่างแท้จริง
“การพัฒนาเศรษฐกิจไม่ใช่เพียงแค่การกระตุ้นระยะสั้น แต่ต้องมองในมุมของการสร้างรากฐานเพื่อการเติบโตระยะยาว ซึ่งรัฐบาลมีแผนดำเนินการอย่างเป็นระบบภายใต้ 46 โครงการสำคัญ” นายจักรภพ กล่าว
อดีตรมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากโครงการพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศ รัฐบาลยังให้ความสำคัญกับความร่วมมือระดับภูมิภาค โดยมีการวางแผนประชุมภายใต้กรอบบิมสเทค (BIMSTEC) ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ท่ามกลางสถานการณ์ที่มหาอำนาจบางประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ มีท่าทีห่างเหินมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี