'อิ๊งค์'อารมณ์ดีเดินฮัมเพลง'ผู้ชายคนนั้น' บอกฝ่ายค้านถอยแฟร์ดีไม่มีชื่อ'ทักษิณ'แนบญัตติ ไม่ขัดซักฟอก 30  ชั่วโมง โยนผู้รู้เหมาะไหมใช้'พ่อ' ชี้ตั้งครม.ยึดมาตรฐาน'แพทองธาร1'หวั่นเหตุซ้ำ

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังให้โอวาทคณะประธานผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ของหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เดินกลับตึกไทยคู่ฟ้าด้วยท่าทางอารมณ์ดี โดยระหว่างทาง นายกฯ ได้เดินฮัมเพลง “ไม่ใช่ผู้ชาย” ซึ่งนายกฯ ร้องท่อนที่ว่า “ผู้ชายคนนั้น ที่ฉันแอบหลงรัก”

ผู้สื่อข่าวจึงถามว่า อารมณ์ดี เพราะพรรคร่วมฝ่ายค้านยอมตัดชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกจากญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทำให้อารมณ์ดีใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เมื่อสักครู่โดนแซวว่าทำไมวันนี้อารมณ์ดี ไม่ใช่ เขาบอกว่าจะใช้คำว่าชายคนนั้นใช่หรือไม่ และมีเพลงพอดี เลยแกล้งกันกับทีมงานแต่ไม่อยากร้องเพลง เพราะกลัวเพี้ยนแค่นั้นเองไม่มีอะไร ส่วนเวลาอภิปรายที่จะใช้ 30 ชั่วโมงนั้น ได้เลยอย่างที่บอกอะไรที่ถูกต้องตามกฎตามหลักก็ตามนั้นทุกๆ เรื่อง และชายคนนั้นก็แฟร์ดีไม่มีชื่อ 

เมื่อถามว่าล่าสุดเห็นว่าจะใช้คำว่า “พ่อ” แทน แบบนี้เหมาะหรือไม่เหมาะ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนย้อนถามสื่อว่า “เหมาะ หรือไม่เหมาะเชิญทุกท่าน ผู้รู้ตอบเลย“ พร้อมผายมือออก

เมื่อถามย้ำว่าฝ่ายค้านขอเวลาอภิปราย 30 ชั่วโมง พร้อมจัดสรรเวลาให้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า ได้ค่ะ ความจริงวางแผนไว้แล้ว ถ้าอภิปรายก็ไปฟังอยู่แล้ว และคงอยู่ที่สภาฯ เพื่อเตรียมตัว และเตรียมคำตอบตามนั้นไป ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์

เมื่อถามถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญไม่รับวินิจฉัยคำร้องของคณะรัฐมนตรีเรื่องคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีในเรื่องมาตรฐานจริยธรรม ศาลได้มีความเห็นประกอบอะไรกลับมาด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “ไม่มีนะ ไม่มีอะไรนะคะ ไม่มีอะไรเลยก็ตามนั้นค่ะ เราถือว่าเราได้ถามไปแล้ว”

เมื่อถามว่าหลังจากนี้เวลาแต่งตั้งรัฐมนตรีจะใช้มาตฐานอย่างไร จะใช้เหมือนตอนตั้งรัฐบาล ”แพทองธาร 1“ หรือไม่ น.ส.แพทองธาร ยิ้ม ก่อนตอบว่า ”ก็คงต้องประมาณนั้น เพราะไม่อยากให้มีอะไรที่เซนเซอร์ทีฟ ก็พยายามตรวจสอบให้ดีที่สุด แต่ด้วยความที่เราไม่ได้จบกฎหมาย ยังคุยกับทีมงานอยู่เลยว่า เราไม่แน่ใจว่าหากคนมาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ความจริงพวกเราก็ตรวจกันหมดอยู่แล้ว ก็อยากบอกว่าเป็นขั้นตอนที่ยาวมากต้องส่งไปทุกที่“ 

เมื่อถามว่าต่อไปคนจะมาเป็นรัฐมนตรีต้องมีคุณสมบัติใสกิ๊กเลยหรือไม่ ถ้าสุ่มเสี่ยงจะไม่รับพิจารณาเลยใช่หรือไม่  น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า คิดว่าทุกท่านก็คงเหมือนกัน ถ้าสมมุติว่าเกิดเหตุการซ้ำขึ้นอีก ก็ต้องเปลี่ยนรัฐบาลอีก คิดว่าทุกท่านไม่ได้อยากเป็นแบบนั้น คนพยายามทำให้เซฟที่สุดดีกว่า โดยกฤษฎีกาจะเป็นคนดูคุณสมบัติเป็นหลัก และถามความเห็นหน่วยงานต่างๆ ประกอบเป็นหลัก ไม่เช่นนั้นไม่ผ่าน อย่างวาระที่จะเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีก็ต้องผ่านการตรวจสอบเหมือนกัน เพราะเราอยากให้รัฐบาลแข็งแรงไม่อยากให้ความผิดเล็กๆ น้อยๆ หรืออะไรที่เส้นไม่ชัด มันทำให้ค่อนข้างลำบากไปหมดไม่ใช่แค่เราคนเดียว และทุกครั้งที่มีการแต่งตั้งอะไรเราต้องทำงานหนักกันทุกคน เพราะไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดแค่นั้นเลยง่ายๆ เพราะเราไม่อยากให้เกิดความผิดพลาดจนเกิดเรื่องใหญ่กว่าที่ควรจะเป็น เราต้องตรวจสอบให้ดี และเมื่อกระทรวงส่งชื่อใครมาให้ตนลงนามก็ต้องตรวจสอบให้ดี และถามความเห็นเราก็สบายใจในการลงนาม แค่นั้นไม่มีใครอยากทำผิดกฎ