‘กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ’เผยปล่อยเช่าคอนโดฯ ผ่านแอปฯแอร์บีเอ็นบี ทำกระทบศก.นับ‘หมื่นล้าน’ต่อปี 'ปชน.'จ่อเสนอแก้ พ.ร.บ.การโรงแรม-อาคารชุด แนะไทยควรมี พ.ร.บ. ควบคุมนายหน้า

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร แถลงหลังการประชุมกมธ.ฯ วาระพิจารณาการควบคุมกรณีปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมผ่านทางแอพพิเคชั่น Airbnb (แอร์บีเอนบี) และการถือครองกรรมสิทธิ์โดยชาวต่างชาติว่า การปล่อยเช่าคอนโดฯ รายวัน กระทบเรื่องความไม่ปลอดภัยของเจ้าของห้องชุด เพราะไม่รู้ว่าในแต่ละวันบุคคลที่เข้ามาพักนั้นเป็นใคร และพมาจากที่ไหน และภาครัฐก็ไม่รู้เช่นกันว่าผู้มาเข้ามาพักมาจากไหน สำคัญที่สุดคือกระทบเศรษฐกิจประเทศ โดยสมาคมโรงแรมไทยประเมินว่ามีห้องพักขั้นต่ำในคอนโดมิเนียมราว 10,000 ห้อง คิดค่าพักคืนละ 3,000 บาท คาดว่าจำนวนเงินที่เสียไป มีมูลค่า 30 ล้านบาทต่อคืน ถ้าคำนวนเป็นรายปี รายได้ที่หายไปจากระบบเศรษฐกิจไทยจะอยู่ที่ 1 หมื่นล้านบาทต่อปี การปล่อยให้เช่าพักลักษณะนี้ทำผิดกฏหมายหลายฉบับทั้ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคารชุด หรือ พ.ร.บ.โรงแรม 

ด้านนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน ในฐานะกมธ.ฯ กล่าวว่า พบมีผู้ที่กระทำผิดหลายกลุ่ม ซึ่งมีเจ้าของห้องคนไทยนำห้องพักไปปล่อยเช่าเช่นกัน โดยมีวิธีการปล่อยเช่าหลายแบบคือ 1.ทำในนามส่วนตัว  2.ผ่านทางกลุ่มเอเจ้นท์ต่างๆ และมีปัญหาหลังมีแจ้งดำเนินคดี ทั้งล่าช้า และตรวจสอบบุคคลเข้าพักที่ทำความผิดได้ยาก เพราะเป็นการตกลงผ่านทางเว็บไซต์ และแอปต่างๆ เป็นปัญหาที่ภาครัฐต้องประสานงานผ่านทางรัฐบาลของประเทศที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มก่อนถึงจะเข้าถึง หรือทราบข้อมูลเจ้าของ และผู้เช่าพักได้ ปัญหาใหญ่คือกรณีเจ้าของห้องพักเป็นชาวต่างชาติ ที่ซื้อห้องชุดถูกต้องตามกฏหมายโดยชาวต่างชาติถือได้ 49% แต่หลังจากนั้นได้มีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นโดยโควตา 51% ที่เป็นคนไทย โดยมีการใช้นิติบุคคลที่เป็นคนไทยก่อนในการซื้อ แล้วค่อยไปโอนหุ้นภายหลัง มีปัญหาคือ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ไม่ได้แชร์ข้อมูลส่วนนี้ให้กับกรมที่ดิน ทำให้กรมที่ดินไม่ทราบว่า มีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นแล้ว ทำให้สัดส่วนการถือครองคอนโดฯ ของคนต่างชาติถือครองมากกว่า 49%  ชาวต่างชาติสามารถโหวตได้ชนะเจ้าของห้องชุดคนไทย ต้องมีการแก้ไข พ.ร.บ.อาคารชุด ให้ตัวนิติบุคคล และผู้จัดการคอนโดฯ เป็นคนไทยเพื่อความปลอดภัยต่อคนไทยมากยิ่งขึ้น อีกปัญหาคือ การเข่าผ่านเอเจ้นท์ เพราะประเทศไทยไม่ได้มีกฎหมายควบคุมนายหน้า วันนี้แค่พูดภาษาจีนได้ก็ไปเป็นเอเจ้นท์ให้กลุ่มคนจีนได้แล้ว จึงต้องมี พ.ร.บ.นายหน้า เข้ามาควบคุมดูแล  

“อีกปัญหาคือ การให้ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถอยู่ในประเทศไทยได้ 60 วัน สามารถเลือกที่พักอาศัยแบบห้องเช่าได้ และมีการเซ็นสัญญาเช่าอยู่ในระยะยาวมากกว่า 30 วันขึ้นไป มองอีกมุมหนึ่งคือ มีอุปสงค์ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเข้ามาอยู่ในเมืองไทยโดยอาศัยในคอนโดฯ ต่างๆ ที่ไม่ใช่โรงแรม รัฐบาลควรเปิดช่องทางเฉพาะคอนโดฯ กลุ่มใหม่ ที่ต้องแจ้งตั้งแต่เริ่มสร้างว่าคอนโดฯ กลุ่มนี้จะถูกนำมาเพื่อปล่อยเช่าให้พักโดยตรง มีการจดทะเบียนที่ถูกต้องตามกฎหมาย ซื่งปัจจุบันยังเป็นแค่แนวคิด ที่ยังไม่มีอะไรมารองรับได้ชัดเจน” นายศุภณัฐ กล่าว