‘อนุสรณ์’ชี้รัฐบาลถอยแล้ว แนะ‘ฝ่ายค้าน’ยอมถอย เพื่อให้การ‘อภิปราย’เดินหน้า เหน็บ‘เท้ง ณัฐพงษ์’ ประกาศ‘3 ไม่’แค่เอาเท่ เป็นสิทธิ แต่ทำได้หรือได้ทำหรือไม่ เป็นอีกเรื่อง
16 มีนาคม 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี ความคืบหน้าการเจรจากรอบเวลาการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีกับพรรคฝ่ายค้าน ที่ยังไม่สามารถตกลงกรอบเวลากันได้ ว่า รัฐบาลใจกว้างและยอมถอยสุดๆแล้ว เหลือแต่ฝ่ายค้าน ที่ยังไม่ยอมถอย ถ้าตกลงกันได้การอภิปรายก็สามารถเดินหน้าได้ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้การกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจล่าช้า หรืออาจไม่ทันสมัยประชุมนี้ที่จะปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เมษายน การที่ฝ่ายค้านเสนอกรอบเวลาอภิปรายเฉพาะฝ่ายค้านอย่างเดียว 30 ชั่วโมง ขอเวลาอภิปราย 3 วัน ไม่รวมลงมติอีก 1 วัน นั้น มากเกินไป ไม่สมเหตุสมผล รัฐบาลเสนอในกรอบเวลา 30 ชั่วโมง ให้เป็นของฝ่ายค้าน 20 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 10 ชั่วโมง ใช้เวลาอภิปราย 2 วัน ไม่รวมลงมติอีก 1 วัน
ทั้งนี้ ถ้าฝ่ายค้านยอมถอย การกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจก็สามารถเดินหน้า หรือในกรอบเวลา 30 ชั่วโมง ให้เป็นของฝ่ายค้าน 23 ชั่วโมง ฝ่ายรัฐบาล 7 ชั่วโมง ที่รัฐบาลถอยสุดๆแล้ว ถ้าฝ่ายค้านไม่ยอมถอยก็ไม่สามารถตกลงกันได้ เวลาบีบเข้ามาทุกขณะสมัยประชุมนี้จะปิดในวันที่ 10 เมษายน ถ้าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่สามารถเกิดขึ้นได้รัฐบาลไม่ได้เดือดร้อนจึงต้องถามฝ่ายค้านว่าแท้จริงแล้วมีข้อมูลเด็ดหรือมีความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหรือไม่
“รัฐบาลใจกว้างและถอยสุดๆแล้วอยู่ที่ฝ่ายค้านว่าจะยอมถอยหรือไม่ เก่งไม่กลัว กลัวช้า ฝ่ายค้านต้องรีบหาข้อสรุปเพื่อให้การอภิปรายไม่ไว้วางใจได้เดินหน้า” นายอนุสรณ์ กล่าว
นายอนุสรณ์ ยังกล่าวถึงกรณีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยคุณสมบัติของ สส.ปชน. ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าปี 2570 ต้องมีคุณสมบัติ “3 ไม่” คือ ไม่รับเงินทอน ไม่ทำงานการเมืองสืบสายเลือด และไม่ยอมจำนน ว่า ถือเป็นสิทธิของนายณัฐพงษ์ ที่จะประกาศคุณสมบัติของผู้สมัคร หรือประกาศแนวทางการคัดเลือกผู้สมัครในระดับใดของพรรคประชาชน ส่วนเมื่อประกาศแล้วจะทำได้ตามประกาศหรือไม่ประชาชนก็ต้องติดตาม แต่ต้องระวังว่า 3 ไม่ที่ว่าอาจจะไม่เกิด หากมีอีก 2 ไม่ คือ ไม่เป็นไปตามที่ประกาศ และไม่ได้รับการเลือกตั้งจากประชาชน
ทั้งนี้ ความจริงการไม่รับเงินทอน ไว้ว่าจะประกาศหรือไม่ประกาศ ถ้ารับเงินทอนก็ผิดกฎหมายอยู่แล้ว การทุจริตจากการรับสินบน หรือการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม ถือว่าผิดจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายอยู่แล้ว นอกเหนือจากคุณสมบัติของผู้สมัครแล้วสิ่งที่ประชาชนอยากทราบคือแนวนโยบายที่ตอบโจทย์ปัญหาของประเทศ ของแต่ละพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า มีอะไรบ้าง ประเทศชาติและประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรจากนโยบายนั้น
“ประชาชนไม่ได้ตื่นเต้นกับการประกาศที่ดูเหมือนเท่ห์ แต่ไม่รู้ว่า แปลว่าอะไรหรือ ทำได้จริงหรือไม่ แต่อยากรู้ว่านโยบายเพื่อการพัฒนาประเทศ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไร” นายอนุสรณ์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี