โฆษกรัฐบาลเผยกำหนดการ “ภูมิธรรม-ทวี” นำคณะสื่อบินจีน ตรวจเยี่ยมความเป็นอยู่ของ 40 ชาวอุยกูร์ที่รบ.ไทยส่งกลับไปมาตุภูมิ ชี้เป็นครั้งแรก และจะมีการติดตามอีกเป็นระยะ หวังไขข้อข้องใจและสร้างความมั่นใจให้นานาชาติ ย้ำไทยทำอย่างตรงไปตรงมา-ตามข้อตกลงระหว่างรบ.สองปท. และยึดหลักสิทธิมนุษยชน
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตนพร้อมด้วยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่องรมว.ยุติธรรม นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะสื่อมวลชน มีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อเยี่ยมชาวอุยกูร์ ที่เมืองคาซือ มณฑลซินเจียง ระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคมนี้ ที่มณฑลซินเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีกำหนดการดังนี้ วันที่ 18 มีนาคม เวลา 23.30 น. คณะจะออกเดินทางจากกองบิน 6 ท่าอากาศยานดอนเมือง ไปยังท่าอากาศยานเมืองคาซือ มณฑลซินเจียง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7 ชั่วโมง จะถึงเมืองคาซือวันที่ 19 มีนาคม เวลาประมาณ 07.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าเวลาประเทศไทย 1 ชั่วโมง
นายจิรายุกล่าวต่อว่า จากนั้น วันที่ 20 มีนาคม คณะจะเดินทางไปมณฑลซินเจียงที่อยู่ห่างไกล และจะเดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์บังคับใช้กฎหมาย และการจัดการคดีของสำนักงานความมั่นคงสาธารณะ ที่เมืองคาซือ มณฑลซินเจียง และจะเดินทางไปที่มัสยิดอิดกะฮ์ (Id Kah) พูดคุยกับผู้นำศาสนา และร่วมรับประทานอาหารค่ำกับตัวแทนผู้นำศาสนาในท้องถิ่น ก่อนที่รองนายกฯและคณะจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานเมืองคาซือ มณฑลซินเจียง เวลาประมาณ 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะเดินทางถึงประเทศไทย วันที่ 21 มีนาคม เวลาประมาณ 01.00 น. ณ กองบิน 6 ท่าอากาศยานดอนเมือง
นายจิรายุกล่าวอีกว่า การเดินทางครั้งนี้ เพื่อทำความจริงให้ปรากฏในข้อกังวลของนานาอารยประเทศ และให้เข้าใจประเทศไทยถึงการแก้ไขปัญหา ซึ่งรัฐบาลไทยดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และมีข้อตกลงสำคัญต่อรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ที่ต้องคืนชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในยุคโลกปัจจุบัน และมีสิทธิเสรีภาพ ซึ่งถือว่ารัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก รวมถึงขั้นตอนการตรวจสอบรายละเอียดนานหลายเดือนก่อนจะส่งชาวจีนอุยกูร์กลับสู่มาตุภูมิ เพื่อให้มั่นใจว่าการส่งชาวอุยกุร์กลับสู่บ้านเกิดจะต้องได้รับความปลอดภัย และเป็นไปตามสิทธิมนุษยชน ซึ่งการเดินทางครั้งนี้เป็นเพียงครั้งแรก โดยรัฐบาลไทยจะกำหนดการเดินทางเป็นระยะๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับการแก้ปัญหาระหว่างประเทศต่อนานาอารยประเทศต่อไป
มีความเห็นในประเด็นนี้จากนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราชโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กหัวข้อ “เอฟเฟกต์ อุยกูร์:ไทยได้ไม่คุ้มเสีย ใครรับผิดชอบ”ระบุว่า เอฟเฟกต์ อุยกูร์ ไทยได้ไม่คุ้มเสีย ใครรับผิดชอบ ผลจากการที่รัฐบาลไทยตัดสินใจส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนให้ประเทศจีน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงกระบวนการที่ไม่โปร่งใสในการส่งตัวครั้งนี้ ทำให้ฝ่ายที่คัดค้านถูกมองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลบ้าง เป็นพวกโลกสวยบ้าง คลั่งสิทธิมนุษยชนบ้าง โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างรุนแรง จะตามมาภายหลัง ซึ่งรัฐบาลไทยสร้างภาพประชาสัมพันธ์และโฆษณาชวนเชื่อร่วมกับรัฐบาลจีน เพื่อให้ชาวโลกเห็นว่าการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน เป็นความสมัครใจและได้รับความปลอดภัยตามภาพโฆษณาที่ปรากฏตามสื่อตามต่างๆ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน เราก็จะเห็นปฏิกิริยาโต้กลับจากสภายุโรป ที่ลงมติ 482 ต่อ 57 คะแนน ประณามประเทศไทยเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน การแก้ไขมาตรา 112 และการปล่อยตัวนักโทษคดีการเมือง โดยใช้มาตรการเจรจาการค้าเสรี (FTA)บีบไทย
นายเทพไทกล่าวต่อว่า หลังจากนั้นล่าสุดประเทศสหรัฐอเมริกาออกแถลงการณ์ประกาศงดวีซ่าให้กับเจ้าหน้าที่และบุคคลในครอบครัว ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คน น่าจะหมายถึงบุคคลตั้งแต่นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจนถึงฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศ ที่โดนแบล็คลิสต์จากสหรัฐอเมริกา ไม่ออกหนังสือวีซ่าเข้าสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยในสายตาประชาคมโลกและคงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐอเมริกา เกือบ 200 ปี ซึ่งต่อไปก็อาจมีมาตรการคว่ำบาตร หรือกีดกันทางการค้าจากรัฐบาลโดนัลด์ทรัมป์ ตามมาอีกก็เป็นได้ ยิ่งในขณะนี้คนไทยที่ต้องการเดินทางไปสหรัฐฯจำเป็นต้องขอออกหนังสือวีซ่าซึ่งยากอยู่แล้ว ยิ่งเพิ่มความยากลำบากเพิ่มขึ้นอีก
“สำหรับเรื่องนี้ต้องยอมรับว่า เป็นการตัดสินใจของรัฐบาลที่ผิดพลาด ได้ไม่คุ้มเสีย ถ้ารัฐบาลมีความจริงใจมีความโปร่งใส ควรดำเนินการแบบเปิดเผย ให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมสังเกตการณ์ในการส่งตัวชาวอุยกูร์ 40 คนกลับประเทศจีน เพื่อลบข้อครหาทั้งหมด และจะทำให้ประเทศไทยรอดพ้นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนจากประชาคมโลกได้ อยากถามว่า ใครจะรับผิดชอบต่อผลกระทบหรือเอฟเฟกต์ จากการส่งชาวอุยกูร์ 40 คนกลับจีน ที่สร้างความเสียหายให้กับประเทศหลายด้านในครั้งนี้”นายเทพไทกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี