‘ทักษิณ’เป่ากระหม่อม‘คนเสื้อแดง’
กลับมาไม่เสียข้าวสุก
ซัดขาประจำ‘เห่าหอนไม่เลิก’
ถาม‘ปู่เคยมีเรื่องกันหรือเปล่า’
จี้พ่อมหาจำเริญช่วยทำงาน
ถ้าไม่ช่วยทำก็ตัวใครตัวมัน
ฝ่ายค้านฯยื่นแก้ญัตติ ขีดชื่อ“ทักษิณ” ออก เปลี่ยนเป็น “บุุคคลในครอบครัว” หวังซักฟอก24 มีนาคม ด้าน “วิสุทธิ์” ยันให้ 23 ชม.ถอยมากกว่านี้ตกแม่น้ำเจ้าพระยา
‘ภูมิธรรม’ปัดดินเนอร์กระชับเสียงซักฟอก‘อนุทิน’เผยดินเนอร์วงเล็ก ไร้กังวลศึกซักฟอก แค่เตรียมข้อมูลรับมือ‘แม้ว’ยันสว.ฟ้อง157ไม่กระทบรัฐบาล ปัด’พท.-ภท.’เล่นเกมตบจูบๆ บอกก็มีรสชาติดี พลิ้วความหมาย’สทร.’คนชอบแปลว่า’สุดที่รัก’ไม่ตั้งวอร์รูม เพราะอยู่กับตัวตลอด ส่วนฟ้องหรือไม่ ขอดูอภิปรายก่อน หนุนรบ.ทำงานต่อ สัญญาคนเสื้อแดง กลับมาแล้วไม่เสียข้าวสุข โต้กลับงปชน.’ย้ำเกลียดที่สุดคือยุบพรรค เพราะเคยโดนมาก่อน ย้อนถามขาประจำ ปู่เคยมีเรื่องกันหรือเปล่า ถึงตาม’เห่าหอน’ไม่เลิก ออกตัวผลงานรัฐเกิดช้า เหตุเป็นพรรคร่วม วอนช่วยกันทำงาน ถ้าไม่ทำก็ตัวใครตัวมัน อ้อนขออีกสมัยเดียว’พท.’แก้ปัญหาได้หมดไม่ต้องรอ9ปี เหมือนยุคที่ผ่านมา
เมื่อวันที่ 17มีนาคม2568 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจฉบับแก้ไขต่อ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ในช่วงเช้าวันนี้ (17 มี.ค.) สำหรับญัตติที่แก้ไข ได้ขีดฆ่าชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและคำว่าผู้เป็นบิดา ออกเปลี่ยนเป็นคำว่า’บุคคลในครอบครัว’แทน เชื่อว่าประธานจะบรรจุญัตติดังกล่าวเข้าสู่วาระโดยไม่มีปัญหาใดๆและสามารถเปิดอภิปรายได้ในวันที่ 24 มี.ค.ตามข้อเสนอของรัฐบาล
‘วิโรจน์’ยันจัดหนักได้ทั้งครอบครัว
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดเผยญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เปลี่ยนถ้อยคำจาก“นายทักษิณ ชินวัตร” เป็น ”บุคคลในครอบครัว“ โดยระบุว่า สาระสำคัญคือความต้องการให้เกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ต้องการให้เตะถ่วงตามที่หลายคนกังวล ซึ่งการแก้ไขถ้อยคำ ถือเป็นการใช้โอกาสในการ เปลี่ยนเพื่อให้อภิปรายได้กว้างขวาง หนักหน่วงมากขึ้น เพราะถ้าบรรจุในญัตติคำว่าทักษิณ ชินวัตร แต่ไปอภิปราย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดี๋ยวจะโดนประท้วงอีก การแก้เป็นคำว่าบุคคลในครอบครัว ก็จะนำพาองค์ประกอบจำเลยมาได้หมดทั้งครอบครับ ไม่ว่าจะเป็นญาติโก โหติกา บรรดาคนใกล้ชิดที่มีความเกี่ยวข้องในการกระทำ แทรกแซงการบริหารแผ่นดินของนางสาวแพทองธาร เพราะก่อนหน้านี้หลายคนก็มาปรึกษาว่าไม่ได้แตะคนชื่อนี้ แตะชื่อนั้น ตอนนี้คือทุกชื่อแล้ว สะดวกโยธิน ยังบอกอีกว่าการอภิปรายก็จะเข้มข้นขึ้น ต่อจากนี้จะรอดูว่าถ้าแก้เป็นถ้อยคำแบบนี้แล้ว จะมีการประท้วงหรือไม่
พาคนนอกเข้ามาตอบในสภาฯได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงการที่นายวิโรจน์ เคยเสนอให้นายทักษิณเข้ามาตอบการอภิปรายในสภา กระทั่ง ทักษิณบอกว่าให้ระวังว่าจะเสียไปอีกพรรค ให้ไปถามผู้ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ก่อน นั้น นายวิโรจน์ ระบุว่า หากเพื่อไทยเต้นแหย๋ง ๆ ว่าคนภายนอกเข้ามาไม่ได้ แต่ข้อบังคับการประชุมที่ 76 หากประธานสภาผู้แทนราษฎรอนุญาต นายกรัฐมนตรีก็พาพ่อมาส่งที่สภาได้ แต่นายทักษิณจะตอบได้เฉพาะที่ถูกพาดพิง ส่วนการอภิปรายหรือกล่าวหานายกรัฐมนตรีก็ทำได้นั่งมองตาปริบๆ อยู่ลึกๆ หลังๆเท่านั้น ส่วนสาระสำคัญของโปสเตอร์ที่พรรคประชาชน “ดีลแลกประเทศ” ที่เปิดออกมานั้น นายวิโรจน์ ระบุว่า ความหมายสื่อถึงพรรคเพื่อไทยพร้อมที่จะตระบัดสัตย์ กลืนน้ำลายทุกอย่าง พร้อมที่จะทำอะไรก็ตามที่ประชาชนเสียผลประโยชน์และได้ผลประโยชน์ของตัวเองและครอบครัว เอารัดเอาเปรียบประชาชน ให้บุคคลในครอบครัว สทร.หรือสุดที่รัก กลับมาเสวยสุข ทวงคืนอำนาจและทรัพย์สินของตัวเองโดยที่ไม่เห็นหัวประชาชน
พท.โยน’วันนอร์’ตัดสินบรรจุญัตติ
ด้าน นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติฉบับแก้ไขโดยฆ่าชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯออกและใช้คำว่า “บุคคลในครอบครัว”แทน นายชูศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ริเริ่มโดยประธานสภาฯ ซึ่งท่านมีความเห็นว่าการใส่ชื่อบุคคลภายนอกไม่ถูกต้องควรไปปรับแก้ อันที่จริงในข้อบังคับไม่ได้เขียนว่าห้ามเขียนชื่อ แต่ระบุเพียงห้ามกล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็น ประธานสภาฯจึงใช้ดุลยพินิจว่าการใส่ชื่อนายทักษิณเป็นการกล่าวชื่อบุคคลภายนอก เมื่อแก้ไปแล้วก็ยังเป็นดุลยพินิจของประธานสภาฯว่าจะเป็นอย่างไรหากบรรจุแล้วก็จบ เราไม่ใช่ผู้ตัดสิน เมื่อถามว่า หากประธานสภาฯบรรจุญัตติแล้วทางพรรคเพื่อไทยติดขัดอะไรหรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไรเป็นดุลยพินิจของประธานสภาฯ เมื่อบรรจุแล้วก็อภิปรายกันไป เราไม่ได้มีข้อท้วงติงอะไร ท้ายที่สุดแล้วถ้ามีปัญหาเช่นนี้ก็อย่างที่ตนเคยเตือนแม้จะบรรจุวาระ แต่ในการอภิปรายก็จะเกิดประเด็นอีกว่ามีการกล่าวถึงบุคคลภายนอกโดยไม่จำเป็นตามข้อบังคับ ส่งผลให้เกิดการประท้วงกันอีก แต่ข้อดีคือเมื่อประธานสภาฯบรรจุคงคิดว่าเรื่องนี้พออณุโลมกันได้ พูดกันได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ถอยมากกว่านี้ตกแม่น้ำเจ้าพระยา
เมื่อถามถึงกรอบเวลาในการอภิปราย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทยในฐานะ ประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล ระบุว่า มีการนัดคุยกันวันที่ 19 มี.ค. ซึ่งเราเองก็ถอยให้หลายอย่าง ถอยไปจนไกลแล้ว เราให้เวลาฝ่ายค้าน 23ชม.รัฐบาลขอแค่ 7ชม.ซึ่งถือว่าน้อยมาก โดยตนต้องขอมตินอกที่ประชุมพรรคเพื่อไทยในวันพรุ่งนี้(18 มี.ค.) เราพยายามเต็มที่ไม่ใช่จะไปจำกัดอะไรฝ่ายค้าน หลายคนถามว่าทำไมไม่ให้เวลาหลายๆวันเรามองว่ามันมากเกินไป ในสมัยที่แล้วเราเป็นฝ่ายค้านอภิปรายพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี 3วัน แต่รัฐมนตรี11คน แต่ครั้งนี้อภิปรายแค่คนเดียว 2วัน น่าจะพอสมควร เราถามฝ่ายค้านแล้วว่าอภิปรายใครบ้าง ฝ่ายค้านบอกนายกฯ 95% เพื่อไม่ให้ซ้ำไปซ้ำมา 23ชม.ถือว่าเต็มที่แล้ว หากทุกคนรู้จักถอยซะบ้างไม่ใช่เอาแต่ตัวเองได้หมดก็จะคุยกันรู้เรื่อง
เมื่อถามว่าจะไม่มีถอยไปมากกว่านี้แล้วใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า “ถอยไม่ได้แล้วครับ ถอยไปมากกว่านี้ก็ตกแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ส่วนวันที่ 19มี.ค.จะคุยเรื่องกรอบเวลาจบใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ต้องพุธนี้เท่านั้นต้องเจรจราเรื่องกรอบเวลาให้จบ ทุกคนจะได้ไปเตรียมตัวในการอภิปราย
‘อนุทิน’ชี้ดินเนอร์เตรียมข้อมูลรับมือ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดรับประทานอาหารระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้เชิญในวันที่ 21มี.ค.ว่า นายกฯเป็นผู้นัดเมื่อ2-3สัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ก่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจมารับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งตนคาดว่าครั้งนี้น่าจะเป็นวงเล็กระหว่างหัวหน้าพรรค ไม่มีเลขาธิการพรรคเหมือนครั้งก่อน เมื่อถามว่า เป็นการนัดรับประทานอาหารเพื่อพูดคุยถึงการเช็คคะแนนเสียงที่พรรคภูมิใจไทยจะยกมือโหวตในวันอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะพร้อมกล่าวว่า”จะไปถามอะไรแบบนั้น เป็นพรรคร่วมรัฐบาลมันมีกติกาอยู่แล้ว“เมื่อถามว่า การนัดครั้งนี้แสดงถึงความกังวลของนายกฯหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ เพราะ3สัปดาห์ก่อนนัดมา ยังไม่รู้เลยว่า จะอภิปรายไม่ไว้วางใจกี่คน ซึ่งครั้งนี้คงจะมีการนัดพูดคุยว่าจะเตรียมข้อมูลอย่างไร จะช่วยกันอย่างไร
สว.ยื่นเอาผิด157ไม่กระทบรัฐบาล
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ออกมายอมรับได้พูดคุยกับ นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดและนายอนุทิน เรื่องคดีฮั้วเลือก สว.ที่บ้านจันทร์ส่องหล้าว่า ยืนยันว่าไม่มี เมื่อถามย้ำอีกครั้ง นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้ยิน ตอนนั้นอาจลุกไปไหนก็ได้ ไม่ได้นั่งอยู่ตลอด เมื่อถามว่ามองหรือไม่ว่า นายทักษิณ จะชิงเหลี่ยมพรรคภท.ตลอดเวลา นายอนุทิน ส่ายหน้าก่อนจะระบุว่า ไม่ได้มองอะไรทั้งนั้น เพราะช่วงนี้โฟกัสเรื่องอภิปรายไม่ไว้วางใจ เมื่อถามว่า ขณะนี้ สว.เอาคืนด้วยการยื่นเอาผิดมาตรา157 กับคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) จำนวน 11คน ที่มี นายภูมิธรรม เวชยชัย เป็นประธาน จะส่งผลให้การทำงานของรัฐบาลราบรื่นหรือไม่ นายอนุทิน ถามกลับว่า ตนเกี่ยวอะไรกับ สว.จึงถามแย้งว่า แม้ไม่เกี่ยว แต่เมื่อถึงเวลารัฐบาลต้องส่งกฎหมาย ให้สว.พิจารณา จะกระทบการทำงานหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทำอะไรถูกต้องก็ไม่มีปัญหา ทำอะไรไม่ถูกต้องก็โดนหมด
‘แม้ว’ปัด’พท.-ภท.’เล่นเกมการเมือง
ที่หอประชุมอนุสรณ์100 ปี มหาวิทยาลัยพิษณุโลก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯให้สัมภาษณ์ถึงกรณี 81สว.ยื่นร้องปปช.ตาม ม.157 กรณีคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) กับพวกรวม 11คน รับคดีฮั้ว สว.ซึ่งมีชื่อรัฐมนตรีถึง 2คน คือ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นกรรมการ กคพ.ด้วย ว่า เป็นไปตามสิทธิ ใครมีสิทธิฟ้องก็ฟ้อง ใครมีหน้าที่ทำงานก็ทำงานไป ไม่เป็นไร เมื่อถามว่า จะกระทบกับรัฐบาลหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรกระทบ ทุกอย่างถ้าเขาตัดสินใจทำตามหน้าที่ และถ้าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็ไม่ต้องกังวล ตนเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมต้องเดินต่อไป เมื่อถามว่า มองว่ามันเป็นเกมการเมืองที่งัดกันของ2พรรค คือ พรรค ภท.กับพรรค พท.หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า เกมการเมืองอะไร คุยกันทุกวัน ตนว่าเรื่องกฎหมายก็ว่ากันตามกฎหมาย เรื่องการเมืองก็คุยกันไป เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่สังคมมองว่าพรรค พท.กับพรรค ภท.อยู่กันแบบตบจูบตลอด นายทักษิณ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า “ก็ไม่เป็นไร มันก็ออกรสชาติดีนะ มีรสชาติดี”
ปลาไหลใส่สเก็ต’สทร.’คือ’สุดที่รัก’
นายทักษิณ ยังให้สัมภาษณ์กรณีข้อบังคับการประชุมสภาฯเปิดให้นายกฯหรือรัฐมนตรี สามารถพาคนนอกเข้าไปชี้แจงในการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ โดย นายทักษิณ ได้ย้อนถามกลับว่า เหมาะสมหรือเปล่า ตนกลัวมันไม่เหมาะ สำหรับตนสบายๆ ไม่เห็นไปเดือดร้อนอะไรและคงไม่มีการตั้งวอร์รูมอะไร เพราะวอร์รูมก็อยู่ติดตัวตนนี่แหล่ะ ไปที่ไหนก็วอร์รูมที่นั่น เมื่อถามว่า หากถูกอภิปรายพาดพิงถึง ก็จะฟ้องใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ต้องดูเหตุการณ์ก่อน บางทีขอกันกินมากกว่า ถ้ามันเล็กๆน้อยๆก็ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าไปคิดอะไรมากมาย เมื่อถามกรณีประธานรัฐสภาอนุญาตให้ฝ่ายค้านใช้คำว่า สทร.แทนชื่อของ นายทักษิณ ได้ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะถ้าในความรู้สึกของคนที่ไม่ชอบตน เขาก็บอกว่า สทร.คือ”เสือกทุกเรื่อง”แต่ถ้าเป็นคนที่เขาชอบตนเขาก็จะบอกว่า สทร.คือ”สุดที่รัก”ก็โอเคได้ทั้ง2อย่าง ไม่มีปัญหา
มาตามสัญญา17ปี-ไม่ลืมบุญคุณ
เวลา13.30น.ที่หอประชุมอนุสรณ์ 100ปี มหาวิทยาลัยพิษณุโลก นายทักษิณ ขึ้นเวทีพบปะมวลชนเสื้อแดงในงานเรื่องเล่า“ประสบการณ์ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของมวลชน” นายทักษิณ บอกว่า ติดหนี้ไว้นาน ตอนนั้นบอกว่า จะจัดสังสรรค์ก่อนเลือกตั้ง แต่กลัวจะเป็นประเด็น จึงขอติดหนี้ไว้ก่อนพอตนกลับมาก็ถูกทวงแล้วทวงอีกว่า ประชาชนอยากเจอ ในที่สุดก็ลงตัววันนี้17ปีที่รอคอย ซึ่งก็ตรงกับวันที่ 17 พอดีที่ตนเดินทางมาหากัน ต้องขอคารวะหัวใจทุกคน ที่เด็ดเดี่ยวต่อสู้เพื่ออยากเห็นความเป็นธรรมในบ้านเมือง ที่สำคัญคือไม่เคยลืมตน ซึ่งตนจากไปนานเกินไป หากประชาชนลืมตนก็คงไม่สามารถน้อยใจได้ แต่นี่ไม่ลืมเลย เมื่อกลับมาก็อยากเจอตนอีก ตนจึงต้องมา เพราะตนเป็นคนที่รู้จักสำนึกในบุญคุณของคน ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใคร บุญคุณของทุกคนคือไม่เคยทิ้งตน17ปี ไม่เคยทิ้งกัน เลือกตั้งทุกครั้งก็ไปเลือก ไปเชียร์ ไปช่วยหาเสียง แม้ครั้งที่ผ่านมาเราจะเสียหายไปเยอะ ซึ่งอาจเกิดจากความประมาทหรือเกิดจากการที่กระแสพลิกในตอนท้าย แต่เชื่อว่าในครั้งต่อไปพรรคเพื่อไทยคงจะแข็งแรงมากกว่านี้เยอะ
วอนร่วมกันทำงาน-เฉยตัวใครตัวมัน
นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนเป็นนักเรียนเตรียมทหาร ก่อนเข้าห้องเรียนต้องปฏิญาณตน หนึ่งในนั้นคือ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้และตายเสียกว่าที่จะอยู่อย่างผู้แพ้ ดังนั้นสิ่งที่ตนพูด นายกพูด ทำแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่เหมือนตอนที่เป็นพรรคไทยรักไทย เพราะพรรคมีขนาดเล็กลง มีรัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงน้อยลง บางทีรัฐมนตรีกระทรวงข้างเคียงก็ทำงานด้วยกันไม่คล่องตัว พยายามทั้งนวดทั้งบีบให้ช่วยกัน ทำงานเถอะพ่อมหาจำเริญ ช่วยกันหน่อยเถอะ ถ้าพ่อมหาจำเริญไม่ทำ ก็ตัวใครตัวมันนะครับ วันนี้ถือว่าบ้านเมืองคือหัวใจที่เราจะต้องทำให้ผ่านไปให้ได้ วันนี้เงินอยู่ในกระทรวงต่างๆอีกเยอะและใช้จ่ายล่าช้า ตนใช้คำว่าพ่อมหาจำเริญนั่งทับเงินทับทองจำนวนมาก ขอให้รีบใช้หน่อยเถอะ เงินจะได้ถึงมือประชาชนโดยเร็ว เป็นเรื่องที่เราพูดเล่นกันในการบริหาร เพื่อเร่งระบายเงินเข้าสู่การพัฒนา จัดซื้อจัดจ้างเร็วๆ ประเทศจะได้เดินหน้า
ชี้ด่าเลิกเห่าหอน-อยากให้สามัคคีกัน
นายทักษิณ ยังกล่าวอีกว่า ตนเป็นคนมองโลกในแง่ดี พร้อมให้โอกาส ซึ่งพี่น้องคนเสื้อแดงก็เห็นอยู่ว่าตนมีขาประจำ บางคนเป็นขาเดียวกันกับตน แต่ย้ายไปอยู่กับขาประจำก็มี เพราะฉะนั้นตนไม่ได้หวั่นไหว และแทนที่จะเป็นขาประจำ ซึ่งตนไม่อยากเห็นเขาเครียดเพราะด่าตนแทบตาย ตนก็ไม่เครียด ตนเป็นห่วงเดี๋ยวเส้นโลหิตในสมองแตกขึ้นมา อย่าไปโกรธเลย มานั่งคุยกับตน มากินไวน์กัน มีอะไรคับแค้นหัวใจก็มาคุยกัน”ผมก็ลืมถามพ่อ พ่อเสียไป แล้วลืมถามว่า ปู่ผมมีอะไรกับปู่เขาหรือเปล่า ทำไมมันถึงไม่เลิกเห่าหอนเสียที ที่ผมพูดก็เพราะอยากเห็นบ้านเมืองสามัคคี ไม่อยากเห็นเรื่องขี้หมูรา ขี้หมาแห้ง ด่ากันไปด่ากันมา มันไร้สาระ ผมปล่อยวางหมดแล้ว ยากให้พี่น้องคนเสื้อแดงทั้งหลายกลับบ้านไปบอกพรรคพวก ว่าเรื่องปัญหาประเทศตนรับไว้และรู้ว่า เกิดอะไรขึ้น แต่กระบวนการการแก้ปัญหาต้องใช้เวลาและยากกว่าเดิม เพราะทหารวางระบบไว้เลอะพอสมควร ฟื้นยากหน่อย แต่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง เราต้องสู้ ต้องทำให้ได้
ฟุ้งซื้อหนี้ปชช.ทั้งหมด-ไม่ต้องรอ9ปี
“ปัญหาหนี้สินครัวเรือนเยอะเหลือเกิน ทำอย่างไรจะให้หนี้คนไทยลดลงได้ ผมได้คิดดังๆ ย้ำว่าแค่คิดดังๆ นะ ยังไม่ได้ทำ คิดว่าต่อไปเราจะซื้อหนี้ทั้งหมดของประชาชนออกจากระบบธนาคารดีไหม แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อน แล้วไม่ต้องชำระเต็มจำนวน มีโอกาสเริ่มต้นชีวิตใหม่ ยกออกจากเครดิตบูโรให้หมด ให้เป็นคนบริสุทธิ์ผุดผ่องทำมาหากินใหม่ สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องใช้เงินรัฐบาล เพราะผมสามารถให้เอกชนลงทุนวันนี้รัฐบาลเป็นหนี้เยอะ เราเข้ามาหนี้ก็บานตะไทแล้ว จะขยับอะไรทีก็เป็นหนี้ไปหมด เราต้องสร้างหนี้ให้น้อยที่สุด แล้วก็สร้างโอกาสให้คนไทยมากที่สุด พูดง่ายแต่ทำยาก แต่ต้องทำ ใครเป็นพวกผมก็ลำบากหน่อย ที่ผ่านมาพวกผมที่ยอมลำบากและไม่ทิ้งผมมีจำนวนมาก ฉะนั้นวันนี้ผมพร้อมจะเอาโอกาสดีๆให้คนไทยกลับขึ้นมา ขอเวลานิดหนึ่ง ไม่ต้องรอถึง9ปี จำได้ไหมขอเวลาอีกไม่นาน ไม่ต้องถึง 9 ปีแน่นอน อย่างมากอีกสมัยเดียวเพื่อไทยแก้ปัญหาได้หมด แต่ถ้าอีก2ปีที่เหลือรับรองว่า เบาบางแน่นอน” นายทักษิณ กล่าว
ไม่เสียข้าวสุก-สทร.เพราะอยากช่วย
นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ‘อยู่ๆการอภิปรายไม่ไว้วางใจก็อภิปรายนายกฯคนเดียว ก็ดีเหมือนกัน แต่อภิปราย สทร.ทีแรกจะใช้ชื่อทักษิณ ซึ่งผิดกติกา พอตนไปพูด ตำแหน่งตนคือ สทร.ก็เลยเอาตรงนี้ไป เข้าใจว่าจะใช้แบบนี้ แต่ในสายตาคนที่รักตน สทร.ไม่ได้แปลว่าเสือกทุกเรื่อง แต่แปลว่า“สุดที่รัก”ขอให้คิดว่าเป็นสุดที่รักเยอะหน่อยก็แล้วกัน ตนอยากทำงานให้ประชาชนเลยขอเสือกทุกเรื่อง แต่ว่าเสือกแล้วทำงานได้ดี ก็ขอให้เป็นที่รักของประชาชนก็แล้วกัน ยืนยันว่า ตนกลับมาไม่เสียข้าวสุกแน่ อันนี้เราถือว่าเราพูดกันเหมือนพูดกับคนในบ้าน เราพูดกันได้ทุกเรื่องมันจะหลุดออกไปก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ผมต้องการให้เน้นว่าผมพูดกับคนในบ้านผมนะ เพราะฉะนั้นผิดนิดผิดหน่อยก็ขออภัยด้วย’
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี