คลังเด้งรับ‘แม้ว’
ผุดไอเดียซื้อหนี้ปชช.ช่วยชาติ
นายกฯอ้างพ่อหวังดีต่อประเทศ
“นายกฯอิ๊งค์” บอกไอเดียซื้อหนี้ประชาชนเพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน ของ “ทักษิณ” เป็นความหวังดีต่อประเทศ ขออย่ามองเป็นการเมืองปัดกลบประเด็นซักฟอก แจงไม่ใช่ครอบงำ แต่เป็นความคิดคนที่มีความรู้ ลั่นอยากให้เกิดขึ้นจริง“พิชัย”บอกคิดเรื่องนี้มาก่อน“ทักษิณ”แล้ว ระบุมี 2-3 แผน อิงโมเดลแก้วิกฤตต้มยำกุ้งปี’40 จ่อคุยสมาคมธนาคารยันแนวคิดนี้รัฐบาลไม่ได้รับภาระ คาดอีกนานกว่าจะชัดเจน เหตุมีหลายล้านบัญชีด้าน “จุลพันธ์” ขอให้รอดูข้อสรุปอีกครั้ง ชี้ต้องช่วยคนเปราะบางก่อน เพื่อดึงกำลังซื้อกู้เศรษฐกิจ
เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2568ที่ จ.นนทบุรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีแนวคิดของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เรื่องการซื้อหนี้ของประชาชนออกจากระบบธนาคาร เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนซึ่งเมื่อประกาศออกไปประชาชนก็ว้าวมากว่าจะซื้ออย่างไร ว่า เรื่องหนี้เป็นเรื่องที่นายทักษิณเป็นนักธุรกิจมาก่อน และเป็นนายกฯมา 6 ปี ความจริงเราก็คุยเรื่องนี้กันมาอยู่แล้ว ซึ่งท่านก็เป็นคนสนใจเรื่องเศรษฐกิจ ท่านมองเห็นปัญหาเรื่องหนี้เป็นปัญหาใหญ่ของประชาชน ฉะนั้นท่านก็หาทางช่วยว่ามีอะไรบ้างที่จะสามารถคิดขึ้นมาได้ แต่แน่นอนว่าเป็นความคิดของคนที่หวังดีกับประเทศ อย่าเพิ่งเล่นประเด็นการเมือง แต่ถ้ามองในทางการเมืองกระบวนการกว่าจะผ่าน จะต้องพูดคุยกัน นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนำเข้าที่ประชุมสภา มันมีอีกเยอะ ไม่ได้ครอบงำอะไร มันไม่ใช่การครอบงำอะไร เป็นความคิดของคนที่มีความรู้เท่านั้นเอง
เมื่อถามย้ำว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าตอนนี้ ถ้าประชาชนเองฟังให้มีความหวัง ส่วนในเรื่องการทำให้เกิดขึ้นจริงเดี๋ยวจะไปคุยกันอีกทีหนึ่ง ทั้งตัวนายกฯ รัฐมนตรี และที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกฯ เพื่อหาทางออก เมื่อถามต่อว่า จะเชิญนายทักษิณ มาร่วมดีลด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ก็เดี๋ยวดู อันนี้ยังพูดอะไรมากไม่ได้ ประมาณนี้ก่อน เมื่อถามย้ำว่า ความหวังในเรื่องการซื้อหนี้เป็นจริงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ก็อยากให้เป็นจริงอยู่แล้ว อะไรดีๆ ก็อยากให้เป็นจริงอยู่แล้ว
เมื่อถามอีกว่า นายกฯ ไม่ซีเรียสใช่หรือไม่ว่าไฮไลท์ต่างๆ ออกมาจากนายทักษิณ แทนที่จะออกมาจากนายกฯ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า “เราดูซีเรียสไหมคะ” ก่อนหัวเราะและกล่าวว่า “ไม่ค่ะ ตัวตนก็เรื่องหนึ่ง เราคิดว่าเราก็มีตัวตนของเรา แต่ว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ เราคงไม่เอาตัวตนเราไปขวาง เช่น ถ้าฉันไม่ได้หน้าฉันไม่ทำ อันนี้มันก็ไม่ใช่ มันต้องเป็นสิ่งที่ทำแล้วเกิดประโยชน์กับประชาชนจริงๆ ถ้าคนที่ขึ้นอยู่ในตำแหน่งแล้วทุกคนมัวแต่พูดว่า ถ้าฉันไม่ได้หน้าฉันไม่ทำ มันไม่ต้องมีอะไรทำกันแล้ว อย่างนี้มันก็จะแย่ ทุกคนมีความคิดที่ดีก็ทำ”
เมื่อถามว่า มีการมองว่าใกล้ถึงวันอภิปราย แต่มีไอเดียแบบนี้ออกมา อาจจะถูกมองว่าเป็นการพูดลอยๆ น.ส.แพทองธาร กล่าวย้อนถามว่าพูดลอยๆอะไรนะค่ะ ผู้สื่อข่าวจึง ตอบกลับว่า เป็นการกลบประเด็นอภิปราย นายกฯ กล่าวว่า “กลบประเด็นอภิปรายหรอ กลบไม่ได้หรอกมั้งค่ะ เดี๋ยวรอดูอยู่ที่คะแนนโหวต”
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงแนวคิดของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในการซื้อหนี้ประชาชนจากธนาคาร โดยขอความร่วมมือจากภาคเอกชนว่า หลักการแก้ปัญหาหนี้ที่มีอยู่จำนวนมาก ปกติมี 2 - 3 วิธี อยู่แล้ว คือ การปรับโครงสร้างหนี้ โดยอาจจะใช้การเจรจา ยืดหนี้ ลดดอกเบี้ย เพื่อทำให้อยู่ได้ และเมื่อทำไปแล้วรู้สึกไม่คุ้ม เงื่อนไขธนาคารมาก แต่สินเชื่อใหม่ต้องปล่อยออกไปเรื่อยๆ จะต้องพยายามทำให้ดีที่สุด
นอกจากนี้ อีกวิธีคิดหนึ่งคือ ใช้วิธีคล้ายกับในปี 2540 (ช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง) อาจต้องแยกบัญชี จำแนกประเภทธนาคาร หรือใช้มาตรการส่งเสริมการจัดตั้งกิจการร่วมทุนเพื่อรองรับการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (AMC) โดยการดำเนินการต้องร่วมกับธนาคารผู้เป็นเจ้าของหนี้ รวมถึงเอกชนบางรายที่อยากจะเข้ามาบริหาร และต้องพิจารณาด้วยว่าภาครัฐจะเข้าไปช่วยได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่วิธีคิด และอาจจะต้องใช้เวลาเคลียร์กันอีก แต่อาจจะดำเนินกันอยู่นอกธนาคาร ซึ่งช่วงนี้ตนได้คิดมาหมดเรียบร้อยแล้ว ว่ามีกี่วิธี หรือจะเริ่มดำเนินการอย่างไรก่อนหลัง
ผู้สื่อข่าวถามว่า แนวคิดนี้เป็นไปได้หรือไม่ในการดำเนินการ นายพิชัย กล่าวว่า ยังไม่ทราบ ต้องขอดูข้อมูล และความเห็นจากทุกฝ่ายทั้งหมดก่อน และในวันนี้ตนจะพบกับสมาคมธนาคาร คงจะต้องนำเรื่องนี้มาหารือกันด้วย เมื่อถามย้ำว่า มาตรการดังกล่าวจะไม่ใช้เงินของรัฐบาลแม้แต่บาทเดียวใช่หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบเงื่อนไข ซึ่งยังไม่ทราบว่าจะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้ เมื่อถามถึงมาตรการดังกล่าวจะใช้กับลูกหนี้ที่มีหนี้เสีย (NPL) ใช่หรือไม่ นายพิชัย ยอมรับว่า ครอบคลุมไปถึงผู้ที่เป็นหนี้ดีด้วย ซึ่งรวมถึงหนี้บ้านและหนี้รถ โดยของเดิมมีอยู่ประมาณพันล้านนิดๆ
ต่อมา นายพิชัย ให้สัมภาษณ์อีกครั้ง ภายหลังเข้าพบนายกรัฐมนตรี ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อร่วมหารือกับรัฐมนตรีในส่วนของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นการพูดคุยเรื่องทั่วไป เพราะไม่ได้คุยกันนานแล้ว ส่วนการนัดหารือกับสมาคมธนาคาร (สมาคมแบงก์) วันนี้จะมีการหารือกันในช่วงเย็น
เมื่อถามว่า แนวคิดการซื้อหนี้ของประชาชนจากธนาคารมาบริหารเอง จะใช้วิธีการเจรจาขอลดหนี้ (Hair Cut) หรือไม่ นายพิชัย กล่าวว่า ขั้นตอนและวิธีการต้องมาพูดคุยกัน เพราะมันมีหลายฝ่าย ตนไม่สามารถตัดสินได้ ส่วนจะมีความชัดเจนเมื่อไหร่นั้น ขอหารือกันก่อน เพราะมันมีหลายล้านบัญชีด้วยกัน ไม่จบง่ายๆ เมื่อถามว่า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มาตรการดังกล่าวหน้าตาจะเป็นอย่างไร รมว.คลัง ยืนยันว่า มันมีวิธีดูว่ามีหนี้ประเภทอะไรบ้าง เมื่อถามย้ำว่า กังวลหรือไม่ว่าเมื่อรัฐบาลมารับภาระหนี้ตรงนี้แล้ว ประชาชนจะไม่จ่ายหนี้เลย นายพิชัย ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้รับภาระดังกล่าวหรอก
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ถึงแนวคิดการซื้อหนี้เสียคืนจากประชาชน เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนว่า ที่นายทักษิณ เสนอแนวคิดมานั้น สอดคล้องกับแนวทางของกระทรวงการคลังที่นายพิชัยดูแลอยู่ แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปแนวทางหลักการของเรื่องนี้จะช่วยให้คนที่เป็นหนี้เสียมีโอกาสกลับเข้ามาเป็นกลไกให้เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ ส่วนคนที่เป็นจ่ายหนี้ปกติ เป็นหนี้ดี แต่อย่าไปคิดว่ารัฐบาลไม่ดูแลคนที่เป็นลูกหนี้ที่ดี เพราะท่านมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้มากกว่าและได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่าอยู่แล้ว ตามการจัดชั้นหนี้ด้วย
นายจุลพันธ์ กล่าวถึงทิศทางเรื่องของหนี้เสีย (NPL) ล่าสุดว่า ปรับดีขึ้นมาก ขณะนี้ถือว่าอยู่ในช่วงที่ตัวเลขทรงตัว แต่ยังไม่มีมาตรการที่จะดึงคนที่เป็น NPL ออกมาจากการเป็น NPL จึงต้องมีมาตรการในส่วนนี้ เพื่อให้คนที่เป็น NPL ออกจากส่วนที่ค้างอยู่ ซึ่งรัฐบาลก็ต้องช่วยคนที่มีความเปราะบางก่อนกลุ่มอื่น ๆ
“เรื่องนี้ไม่ใช่การ Hair Cut หนี้ เพราะมีการไปซื้อหนี้ออกมาจากสถาบันการเงิน ซึ่งการจะใช้เงินของรัฐและเอกชนนั้นทำได้ 2 แบบ คล้ายกับก่อนหน้านี้ที่ธนาคารออมสินเคยจัดตั้งกิจการร่วมทุนระหว่างสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (SFIs) กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ขึ้นมา ซึ่งเป็นการดูแลหนี้ของภาคธุรกิจ แต่ส่วนนี้ที่รัฐบาลจะทำใหม่ คือการทำให้มีโครงสร้างที่ลงไปถึงระดับประชาชนรากหญ้า” รมช.คลังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี