กกต.แย้ม27เรื่อง
เข้าข่ายฮั้วคดีเลือกตั้ง‘สว.’
ชี้DSIทำคดีทางใครทางมัน
ประธาน กกต.เผย มี 27 คำร้องเข้าข่ายฮั้วเลือก สว. ยันดีเอสไอตั้งสอบฮั้วไม่กระทบไทม์ไลน์การทำงานของกกต.เพราะต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ ด้านเลขาฯป.ป.ช.แจง สอยรมว.ยุติธรรม ยังมีอีกยาวไกล คาดไม่เกิน 1 ปีจบ
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนการฮั้วเลือก สว.ที่หลายฝ่ายอยากให้ดำเนินการให้เป็นไปด้วยความรวดเร็ว ว่า กกต.ดำเนินการไม่ชักช้า จะพยายามรีบเร่งแต่ต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งผู้ร้อง
และผู้ถูกร้อง เปิดโอกาสให้ได้รับทราบและชี้แจ้งข้อเท็จจริงพยานหลักฐาน การตรวจสอบบางครั้งใช้เวลาเพราะเกี่ยวข้องกับหลายคน หากมีพยานหลายคน หรือมีข้อสงสัย มีผู้เกี่ยวข้องเยอะเป็นร้อยคนก็ต้องใช้เวลา ถ้าไปสรุปก็จะไม่ได้รับความยุติธรรม หรือถ้าเร่งดำเนินการและเรื่องมาถึงสำนักงาน เลขาฯกกต.เห็นว่าการสอบสวนไม่ครบถ้วน อาจจะสั่งให้ไปสอบเพิ่มเติม เมื่อมาถึงคณะอนุกรรมการไต่สวน ก็อาจจะบอกว่าประเด็นนี้ยังไม่มีความชัดเจนอาจให้ไปทำเพิ่ม มาถึงกกต.ก็มีหลายกรณีที่บอกว่าต้องไปสอบเพิ่มอีก ซึ่งกระบวนการก็จะเร่งรัดอยู่เสมอว่าทำโดยไม่ชักช้า แต่ไม่กระทบสิทธิผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะตรวจสอบ จะทำให้การทำงานของกกต.ล่าช้าหรือไม่ หรือยังอยู่ในกรอบเวลา นายอิทธิพร ระบุว่า อำนาจหน้าที่ในการสืบสวนสอบสวน การกระทำการฝ่าฝืนกฎหมาย สว. เป็นหน้าที่ของกกต. การกระทำใดที่เป็นความผิดตามกฎหมายอื่นก็เป็นหน้าที่หน่วยงานอื่นที่มีหน้าที่รักษากฎหมาย จะไม่เกี่ยวกัน
เมื่อถามย้ำว่าการดำเนินการจะไม่ล่าช้าไปกว่าดีเอสไอ เพราะดีเอสไอเพิ่งตั้งเรื่อง ถ้าเขาเสร็จก่อนจะไม่เป็นการเสียหน้าใช่หรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ดีเอสไอเพิ่งแจ้งให้กกต.ทราบว่ามีผู้มาร้อง เกี่ยวกับการกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายสว. กกต.ก็มาดูว่าเรามีมติให้รับมาทำเอง สืบสวนไต่สวน เรารับด้วยเหตุผลที่ว่าความปรากฎต่อกกต.มีผู้มาร้องต่อดีเอสไอ จึงรับมาทำเอง ด้วยเหตุความปรากฎตามกฎหมาย และกกต.ก็สามารถใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ดีเอสไอทำนำมารวมกันกับที่กกต.พิจารณา ซึ่งมี 3 เรื่องที่อยู่กับดีเอสไอ โดยคำร้องการเลือกสว.ฝ่าฝืนตามมาตรา 77 (1) หรือที่เรียกว่าฮั้ว มีผู้มาร้องต่อกกต.ทั้งสิ้น 220 เรื่อง และกกต.จะรับจากดีเอสไออีก 3 เรื่อง เมื่อรับมาแล้วก็ตั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเป็นคณะสืบสวนไต่สวนร่วมกับกกต.ด้วย เมื่อทำเช่นนี้แล้วก็มีความมั่นใจว่า กระบวนการไม่ได้เริ่มต้นจากหนึ่ง แต่จะดำเนินการต่อเนื่องจาก 3 เรื่อง ของดีเอสไอ เมื่อถามว่าคำร้อง 220 เรื่อง มีหลักฐานอะไรที่จะมองได้ว่าเป็นการฮั้ว สว. นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องยังไม่ถึงที่ประชุมกกต. บางเรื่องก็มาถึงแล้ว แต่หลักฐานไม่ชัดเจน ยังไม่ถึงขั้นจะเป็นการฮั้ว แต่ดูแล้วเรื่องที่จะเข้าข่ายการฮั้วมี 27 เรื่อง แต่เรื่องยังมาไม่ถึงที่ประชุม กกต.
นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ยื่นให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และพันตำรวจตรียุทธนา แพรดำอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีคดีฮั้วสว.ว่า ทุกคดีมีขั้นตอนในการดำเนินการ เมื่อมีการกล่าวหามาก็ต้องมีการตรวจรับ หากเห็นว่าอยู่ในอำนาจ ของป.ป.ช. เช่นเป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่กระทำผิดต่อหน้าที่ เราก็จะรับดำเนินการ ส่วนจะมีความผิดหรือไม่ เป็นขั้นตอนต่อไปคือการตรวจสอบ แต่เนื่องจากคดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชน เราก็รายงานคณะกรรมการป.ป.ช. ให้ทราบ ว่ามีสว. มายื่นร้องเรียน ซึ่งจากนั้นจะเป็นเรื่องของสำนักงานในการตรวจสอบต่อไป แต่เรื่องนี้มีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนว่าการรับทราบคือการตั้งคณะไต่สวน โดยยืนยันว่ายังไม่ได้ดำเนินการ และการดำเนินการจะเหมือนคดีทั่วไป เมื่อถามว่า ต้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรจึงจะตั้งคณะกรรมการไต่สวน นายสาโรจน์ กล่าวว่า ชั้นตรวจสอบเรามีมาตรฐานกำหนด ว่าควรจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 180 วัน หรืออย่างช้าสุดไม่ควรเกิน 1 ปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรายละเอียด ว่ามีความยุ่งยากซับซ้อนหรือไม่ รวมถึงข้อมูลในทุกแง่มุมที่จะมาประกอบการไต่สวนว่ามีมูลหรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี