ตั้ง20สส.พิทักษ์ข้อบังคับประชุม

รุมป้อง‘อุ๊งอิ๊งค์’

พท.เสียงแข็งไม่ตั้งองครักษ์

ไม่ผิดข้อบังคับ/ไม่ประท้วง

นายกฯลั่นอยู่สภาฯไม่ถึงตี5

ต้องรีบกลับบ้านไปหาลูก

“วันนอร์”ขอ“ฝ่ายค้าน”ซักฟอก ยึดตามข้อบังคับชี้พูดไม่จบ ต่อเวลาได้ ย้ำทั้งสองฝ่ายช่วยกันทำให้เรียบร้อยเพราะถ่ายทอดสดตลอด“เพื่อไทย”ตั้ง “20 หัวหมู่ทะลวงฟัน”ทีมพิทักษ์ข้อบังคับประชุมสภาฯรับศึกซักฟอก นำทีม‘หัวเขียง-หมอชลน่าน-สุทิน’ไม่ผิดไม่ประท้วงยันไร้องครักษ์พิทักษ์นายกฯอิ๊งค์’เหน็บ‘ฝ่ายค้าน’บางคนกินยาผิดซอง ปลุกสร้างความวุ่นวาย’อิ๊งค์’เสียงแข็งปัดดีลแลกปท.กับพา’ทักษิณ’กลับบ้าน อยู่ไม่ถึงตี 5ต้องกลับบ้านเลี้ยงลูก

‘โรม’โวลั่นซักฟอกครั้งนี้สะเทือน รบ.แน่ หลักฐานมัด‘อิ๊งค์’ดิ้นไม่หลุด มั่นใจเอาผิดทางกม.ได้พปชร.พร้อมแล้วถล่ม3ชม.‘บิ๊กป้อม’นำซักฟอก18นาที โฆษกพปชร.โวมีหลักฐานเด็ด รอเปิดกลางสภา เชื่อพรรคร่วมฯ ลังเลไม่กล้าโหวตอุ้มอิ๊งค์ ชี้นายกฯมีอยู่2ทาง‘ร้องไห้หรือลาออก’

เมื่อวันที่ 20 มี.ค.2568 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์กรณีที่ฝ่ายค้านยอมรับว่าจะพาดพิงถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีสามารถทำได้หรือไม่ ว่า ต้องดูว่าพาดพิงอย่างไรและกติกาว่าอย่างไรต้องดูไปตามกติกาหรือข้อบังคับของการประชุมสภาผู้แทนราษฎร คงไม่มีอะไรเพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจมีมาตลอด ขอให้ทุกคนคำนึงถึงความเรียบร้อย ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเรื่องธรรมดาจะหาความเรียบร้อย 100 เปอร์เซ็นต์ก็คงจะยาก การพาดพิงต้องดูว่าสร้างความเสียหายอย่างไร

เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากมีการพูดถึงคนนอกแล้วจะทำให้เกิดความวุ่นวายได้ ประธานสภาฯกล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจตลอดมาก็ต้องมีการพาดพิงถึงบ้างแต่ก็ต้องดูประธานในที่ประชุม จะดูตามข้อบังคับว่าไปได้อย่างไรขนาดไหน เพื่อให้การประชุมดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อยและต้องคำนึงว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เราเปิดการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ประชาชนและสื่อมวลชนก็มีการติดตาม ตนคิดว่าผู้อภิปรายต้องคำนึงถึงความเหมาะสมตนเชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยความเรียบร้อยทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลต้องช่วยกันดูว่าจะทำให้เกิดความเรียบร้อยและให้ประชาชนชื่นชมได้สาระในการประชุม เขาจะได้ชี้ว่ารัฐบาลมีข้อบกพร่องอย่างไรและรัฐบาลจะได้ถือโอกาสชี้แจงว่าที่ทำมามีอะไรบ้างที่ต้องปรับปรุงแก้ไขหรือมีแผนงานอะไรที่ทำให้บ้านเมืองดีขึ้น ทั้งสองฝ่ายคงชี้แจงในที่ประชุมเพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์

ชี้ฝ่ายค้านพูดไม่จบต่อเวลาได้

เมื่อถามถึงการอภิปรายวันที่ 24 มี.ค.จะถึงเวลา05.30น.ของวันที่ 25มี.ค.นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ไม่เป็นไร เราก็อภิปรายมาเกิน05.00น.ก็มี ต้องสลับกันบางคนอาจจะต้องพักรับประทานอาหารบ้างซึ่งคนอภิปรายและรัฐบาลในส่วนที่เกี่ยวข้องก็ต้องอยู่ แต่ที่ต้องอยู่ตลอดคือประธานทั้ง 3 คน ที่ต้องสลับกันเป็นประธาน

เมื่อถามว่าใช้เวลาอภิปรายแค่2วันก่อนลงมติใช่หรือไม่ประธานสภาฯกล่าวว่าตามที่ตกลงกันมีการรายงานมาว่าวันแรกจะมีการอภิปรายเต็มที่ถึง05.30 น.และวันที่สอง วันที่ 25 มีนาคมจะใช้เวลาถึงประมาณ 23.30น.โดยจะไม่เกิน 00.00น.แล้วจะไปลงมติวันที่ 26 มี.ค.เวลา10.00น.ซึ่งเขามีเงื่อนไขอีกว่าหากฝ่ายค้านยังอภิปรายไม่ครบชั่วโมงตามที่ตกลงกันคือ28 ชั่วโมง วันที่ 25 มี.ค.ก็ต้องเลยไปในวันที่ 26มี.ค.ซึ่งไม่รู้จะจบตอนไหนแต่ก็ไม่สามารถจะลงมติได้ในวันเดียวกันฉะนั้นก็ต้องไปลงมติในวันที่ 27มี.ค.แทน ส่วนในวันที่ 27มี.ค.เป็นวันประชุมคณะรัฐมนตรีนั้น ประธานสภาฯตอบว่าต้องประสานกันตอนหน้างานอีกทีเพราะหากอภิปรายแล้วไม่มีอะไรก็คงจะขอหยุดได้ ถ้าหากยังมีอะไรอยู่หรือพูดไม่หมด เรื่องนี้วิปทั้ง3ฝ่าย คงจะต้องประสานกันหน้างาน

‘เพื่อไทย’ตั้งทีมพิทักษ์แทนองครักษ์

ที่รัฐสภา สส.พรรคเพื่อไทย(พท.)นำโดยนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย แถลงว่าจากที่มีการอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 151ในสัปดาห์หน้า หนึ่งในประเด็นที่อยู่ในความสนใจ คือเรื่ององค์รักษ์พิทักษ์น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ เราสบายๆไม่มีการตื่นตระหนกและเราทำหน้าที่ของทุกฝ่ายรวมถึงเคารพในการทำหน้าที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านและเราจะไม่มีองครักษ์แต่ทีมของเราชื่อว่าเป็นทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมซึ่งไม่ได้เกิดมาเพราะจะไปประท้วงอะไร หากฝ่ายค้านอภิปรายตรงไปตรงมาทำงานด้วยความเคารพซึ่งกันและกัน จะไม่มีใครลุกประท้วงและท่านจะได้อภิปรายอย่างสบายๆแน่นอน เพราะหากมีการประท้วงก็จะตัดเวลาของฝ่ายรัฐบาลออกไป เราเห็นว่าเวทีนี้เป็นเวทีแถลงผลงานของรัฐบาลเช่นกัน

นำทีม‘หัวเขียง-หมอชลน่าน-สุทิน’

นายอนุสรณ์กล่าวว่าสำหรับทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมดังกล่าวจะมีที่ปรึกษาพิเศษนำโดย นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ สส.บัญชีรายชื่อ นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ นพ.ชลน่าน ศรีแก้วสส.น่าน พรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ตนได้ตั้งข้อสังเกตว่าจนถึงวันนี้เราไม่มั่นใจว่าฝ่ายค้านอยากอภิปรายจริงหรือไม่เพราะมีพฤติกรรมที่นำไปสู่การตั้งคำถาม หากคนที่อยากอภิปรายอะไรที่เป็นปัญหาเขาจะไม่ทำแต่นี่เขาเลือกจะทำเช่นการเอ่ยชื่อบุคคลภายนอกทั้งที่ประธานสภาบอกว่าใส่ไม่ได้และบอกให้แก้ก็ไม่แก้ มาแก้จนวินาทีสุดท้ายจึงตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วฝ่ายค้านไม่ได้อยากอภิปรายเพียงแค่อยากสร้างคอนเทนต์และโปรโมทโฆษณาพรรคตนเอง เพื่อหวังผลไปสู่การเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่

พร้อม24ชม.ดักคอฝ่ายค้านเรารู้ทัน

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการพยายามทำผิดข้อบังคับเพราะหลังๆเพื่อนสมาชิกฝ่ายค้านบางคนซึ่งเป็นบุคคลที่ประชาชนเคยชื่นชมและเคยเห็นการทำงานของเขาอยากสร้างสรรค์ เหมือนเป็นการกินยาผิดซอง ตาขวางๆ ปูดๆโปนๆ บางคนบอกว่าเป็นพฤติกรรมเถื่อน ถ่อย หยาบคายหรือไม่ ผิดไปจากท้วงทำนองแบบเดิม ที่เคยทำงานอย่างสร้างสรรค์ ดังนั้นเราจึงเฝ้าระวังและตั้งคำถามต่อด้วยว่าหรือไม่ต้องการอภิปราย แต่หวังมาสร้างความวุ่นวาย ซึ่งหากฝ่ายรัฐบาลเราประท้วงก็จะถูกตัดเวลาไปเรื่อยๆ สุดท้ายก็จะไปสมวัตถุประสงค์ของเขาคือจากอภิปรายวันที่ 24-25 มี.ค. ก็จะไปอภิปรายต่อในวันที่ 26 มี.ค.วัตถุประสงค์คือสร้างคอนเทนต์หวังคะแนนหรือไม่

“หากพูดเป็นภาษาชาวบ้านก็ต้องบอกว่าสิ่งที่ท่านคิดสิ่งที่ท่านหวัง ไม่ได้กินพวกเราหรอก เรารู้ได้เราคิดทันดังนั้นจึงเปิดตัวทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมพรรคเพื่อไทยโดยจะไม่มีการแบ่งเป็นชุดใดๆทุกคนพร้อมทำงานตลอด24ชม.”นายอนุสรณ์ กล่าว

ห้ามแตะ‘นายใหญ่’/ขู่ระวังเจอฟ้อง

เมื่อถามว่าหากการอภิปรายมีการพาดพิงชื่อนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะมีการประท้วงหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า“ชัดเจนครับ ทุกครั้งที่มีการประท้วงเราจะชี้ข้อบังคับชัดเจนว่าผิดข้อบังคับข้อใดและผิดอย่างไร อำนาจในการวินิจฉัยไม่ใช่อำนาจของพวกเรา เพียงแค่เราทำหน้าที่สื่อสารไปยังประธาน”ทั้งนี้ ความรับผิดชอบทางการเมืองนั้นอยู่สูงกว่าความรับผิดชอบทางกฎหมายคือทางการเมืองประชาชนดูอยู่แต่ทางกฎหมายอย่างที่ประธานบอกให้เปลี่ยนชื่อเขาก็บอกว่าไม่เปลี่ยนหากจะมีการฟ้องก็ฟ้องเลยแต่ประเด็นคือเขาจะฟ้องประธานด้วย ดังนั้นขอให้ใช้ความชอบธรรมทางด้านกฎหมายและความชอบธรรมทางการเมืองประกอบกัน นี่ไม่ได้ขู่ แต่เส้นแบ่งของการประพฤติผิดต่อการฝ่าฝืนจริยธรรม ฝ่าฝืนคุณธรรมทางการเมือง เราไม่ได้ทำหน้าที่ในการวินิจฉัย แต่เราทำหน้าที่ชี้ว่าการกระทำดังว่านั้น ขัดต่อการไม่เคารพหรือประมวลจริยธรรมของสส.หรือไม่

ย้ำไม่ผิดข้อบังคับ-ไม่ประท้วง

เมื่อถามย้ำว่าหากผิดข้อบังคับจะประท้วงทันทีหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า คงไม่ใช่เช่นนั้น แต่เราต้องดูว่าเนื้อหาที่เขาอภิปรายนั้นผิด ข้อบังคับหรือไม่เมื่อถามว่าอาจจะมีการตั้งข้อสังเกตว่าทีมพิทักษ์ข้อบังคับการประชุมนั้น เป็นการแสดงผลงานให้นายใหญ่เห็นหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจและไม่แน่ใจว่านายใหญ่หมายถึงใคร คนที่มาทั้งหมดเป็นสส. ซึ่งหากจะอภิปรายนายกฯก็ต้องชี้ให้ชัดว่านายกฯทำงานผิดพลาดเรื่องอะไร บริหารราชการแผ่นดิน นโยบายผิดพลาดอย่างไรซึ่งนายกฯคงลุกขึ้นชี้แจง ไม่มีความจำเป็นที่ชุดพิทักษ์ข้อบังคับจะลุกขึ้นมา

“ท่านมีสิทธิ์ที่จะตั้งคำถามแต่ไม่มีสิทธิ์ตัดสิน คนตัดสิน คือประชาชน ส่วนจะผิดข้อบังคับหรือไม่คนตัดสิน คือประธาน ขอย้ำว่าหากฝ่ายค้านไม่ฝ่าฝืนข้อบังคับจะไม่มีการประท้วงและทุกครั้งที่ลุกขึ้นประท้วงฝ่ายค้าน ต้องผิดข้อบังคับ”นายอนุสรณ์กล่าว

เปิดชื่อ20ขุนพลทีมพิทักษ์ฯอิ๊งค์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ”ทีมพิทักษ์”ข้อบังคับการประชุมสภาฯ ประกอบด้วย นายประยุทธ์ นพ.ชลน่าน นายสุทิน นายอนุสรณ์ ทพญ.ศรีญาดา ปาลิมาพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ นายไชยวัฒนา ติณรัตน์ สส.มหาสารคาม นายเทอดชาติ ชัยพงษ์ สส.เชียงราย น.ส.ชนก จันทาทอง สส.หนองคาย น.ส.นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร สส.ศรีสะเกษ น.ส.สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ สส.อุบลราชธานีนายวรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี นายรวี เล็กอุทัย สส.อุตรดิตถ์ นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี นายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี นายวิรัช พิมมะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ นายพลากร พิมพะนิตย์ สส.กาฬสินธุ์ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ นายพชรจันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา และนายธีระชัย แสนแก้ว สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย

‘อิ๊งค์’รับวันซักฟอกอยู่ไม่ถึงตี5

ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ2วัน2คืน นายกฯไหวหรือไม่นายกฯตอบติดตลกว่า“เครื่องดื่มชูกำลัง ต้องเข้าแล้วค่ะ”ก่อนหัวเราะพร้อมกล่าวอีกว่า”ไหวค่ะก็เต็มที่ เตรียมข้อมูลกันไป” เมื่อถามว่าอภิปรายวันแรกจะลากยาวถึงเวลา05.30 น. นายกฯ จะอยู่ตลอดเลยหรือไม่ นายกฯย้อนถามสื่อว่า“จริงไหมถึงเวลา 05.30น.” ด้านสื่อมวลชนตอบกลับว่าเห็นว่าตามนั้นนายกฯลากเสียงตอบกลับยาวว่า “อืม”

เมื่อถามอีกว่านายกฯจะอยู่ได้ตลอดหรือไม่นายกฯหัวเราะก่อนกล่าวว่า”คิดว่าไม่ถึงเวลาตีห้าครึ่งแน่นอน ต้องกลับไปนอนบ้าง เพราะมีวันต่อไปด้วย แต่คงจะมีการคุย และผลัดเวรกันอยู่ อยู่คนเดียวทั้งหมด คงไม่มีใครน่าจะอยู่ตลอด ก็คงสลับกัน”เมื่อถามอีกว่า น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชนแซะนายกฯแรงว่าคงอยู่ไม่ถึงตี 5 ต้องรีบกลับบ้านไปหาลูก นายกฯกล่าวว่า”ก็จริงก็คงอยู่ไม่ถึงตีห้าครึ่ง”

เสียงแข็งปัดดีลแลกปท.พาพ่อกลับ

เมื่อถามย้ำว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ว่าอย่างไรบ้าง ภายหลังมีการเปลี่ยนญัติไม่มีชื่อของตนเอง นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้พูดอะไรเลย ความจริงถ้าพูดอะไรมาก็ตอบไปตามนั้น

เมื่อถามต่อว่ามันเป็นจริงอย่างที่ฝ่ายค้านว่าหรือไม่ว่าเป็นดีลแลกประเทศนายกฯอุทานว่า“โอ้โห”ก่อนกล่าวอีกว่า “และประเทศถูกแลกกับอะไรหรอคะก็ไม่มี จะถามว่าจริงไหมได้อย่างไร ไม่มีอยู่แล้ว ใครเขาจะไปแลกประเทศ คิดเล็กๆก็ได้ค่ะ เราจะแลกของมีค่าของเราไหม เราไม่แลกหรอก ใช่ไหมค่ะ ใครมาอยู่ตำแหน่งตรงนี้จะไปแลกประเทศหรือแลกอะไร มันไม่ใช่อยู่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นอะไร ก็สร้างธีมให้มีสีสันไปจะได้น่าติดตาม” เมื่อถามย้ำว่าดีลแลกประเทศที่บอกว่าเอาผลประโยชน์ของตระกูลชินวัตรมาแลกกับผลประโยชน์ประเทศ นายกฯตอบสวนทันทีว่า “ตระกูลชินวัตรได้อะไร”

เมื่อถามต่อว่าได้การกลับมาของนายทักษิณ นายกฯ กล่าวว่า “ได้คุณพ่อกลับมา อ่อ เป็นเรื่องนี้เรื่องเดียวตลอดไป มันไม่ใช่จะเป็นเรื่องเดียวตลอดไป และจะทำอะไรก็ตามไม่ใช่เป็นการดีลแลกไปหมด แต่ต้องใช้เหตุผลด้วย อย่าใช้แต่อารมณ์”

เมื่อถามอีกว่าคิดว่ามือของพรรคร่วมรัฐบาลที่จะยกโหวตให้นายกฯจะครบหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า จริงๆพรรคร่วมรัฐบาลที่คุยกันก็พร้อมสนับสนุน ซัพพอร์ตกันอยู่แล้ว ครบ หรือไม่ครบก็ต้องไปดูอีกทีหน้างานว่าเป็นอย่างไร มีเหตุการณ์อะไรบ้าง แต่คิดว่าจริงๆ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

‘โรม’โวซักฟอกสะเทือนรบ.แน่

ทางด้าน นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ จะมีเรื่องแก๊งCall Centerว่าอีกไม่กี่วันแล้วในเรื่องของการอภิปรายไม่ไว้วางใจแต่รอบนี้เอาภาพรวมแล้วกันไม่ได้เจาะไปที่เรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่ยืนยันว่ารอบนี้สะเทือนแน่นอนคงไม่ได้มาพูดให้ดูน่าตื่นเต้น

“ผมยืนยันว่าผมได้เห็นข้อมูล แล้วผมค่อนข้างมั่นใจ ว่ารอบนี้คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกฯเหนื่อยแน่นอน เพราะหลักฐานหลายๆอย่างค่อนข้างมัดตัว และมัดตัวชนิดที่ว่าผมนึกไม่ออกว่าคุณแพทองธารจะดิ้นหลุดได้อย่างไร ฉะนั้นการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ผมเชื่อว่าประสิทธิภาพของการอภิปราย จะส่งผลสะเทือนต่อรัฐบาล”นายรังสิมันต์กล่าว

มั่นใจเอาผิดทางกฎหมายได้

นายรังสิมันต์กล่าวว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่ต้องการล้มรัฐบาลแต่ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานว่ากันไปตามปัญหาที่นายกฯแพทองธารได้ก่อเอาไว้ อย่าไปคิดว่าน.ส.แพทองธารทำหน้าที่มาไม่กี่เดือนแล้วมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจนั่นไม่ใช่ แต่ต้องบอกว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ ในยุคสมัยของน.ส.แพทองธารมีความต่อเนื่องมาตั้งแต่ในอดีต ตั้งแต่ยุคของนายเศรษฐา ทวีสินจนถึงปัจจุบัน บานเรื่องอาจจะทำไปโดยที่น.ส.แพทองธารก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

เมื่อถามว่า จะสะเทือนเหมือน เรื่องตั๋วช้างในอดีตหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า อาจจะสะเทือนกว่าด้วยซ้ำไป เรื่องนั้นเป็นเพียงเชิงการรับรู้ แต่ครั้งนี้ในเชิงการเอาผิดทางกฎหมายชัดเจนมากส่วนหากหลักฐานชัดเจนจะถึงขั้นพรรคร่วมฯจะร่วมโหวตไม่ไว้วางใจหรือไม่นั้น คงตอบแทนพรรคร่วมฯไม่ได้แต่ปัญหาที่มีความไม่แน่นอนในระหว่างพรรคร่วมด้วยกันก็เป็นปัญหาของประเทศ ไม่อยากองว่าเป็นแค่วาระทางการเมือง แต่อยากให้มองเห็นถึงวาระของประชาชนเราก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ บางส่วนเราได้ข้อมูลมาจากใครก็ไม่รู้ล่ะเราก็เอาข้อมูลเหล่านี้มาใช้เป็นใบเสร็จในการเช็คบิลต่อรัฐบาลแน่นอน ทั้งหมดเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งหมดและทำให้เห็นเป้าของน.ส.แพทองธาร อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

พปชร.พร้อม‘บิ๊กป้อม’นำซักฟอก

ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐประกาศความพร้อมเต็มที่ก่อนศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯวันที่ 24 มี.ค.นี้โดยยืนยันว่าการอภิปรายครั้งนี้ไฮไลต์ที่ประชาชนไม่ควรพลาดพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคจะลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรกของพรรค ใช้เวลา 18 นาที ก่อนส่งต่อให้ทีมสส.พรรคที่เชี่ยวชาญในแต่ละด้านร่วมกันขยายรายละเอียดในประเด็นสำคัญซึ่งรวมแล้วจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

โวมีหลักฐานเด็ดเปิดกลางสภา

“โดยท่านหัวหน้าพรรคจะอภิปรายถึงความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดินที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศ จากนั้น สส.ของพรรคจะนำเสนอประเด็นต่างๆที่มีหลักฐานหลายเรื่อง ประกอบอย่างแน่นหนา แต่ขออุบไว้ก่อน เอาไว้เปิดกลางสภา รับรองประชาชนไม่ผิดหวังแน่นอน” โฆษกพรรคพปชร.ย้ำและยังมั่นใจอีกว่าหลักฐานเหล่านี้จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลลังเลและอาจไม่กล้าลงมติไว้วางใจนายกฯแพทองธาร พอเปิดหลักฐานออกมาท่านนายกฯจะตอบไม่ได้ และแก้ตัวไม่ได้แน่นอน เพราะมันชัดเจนในหลายประเด็น

โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวต่อว่า ช่วงท้ายการอภิปรายจะมีการเปิด“หลักฐาน”ที่จะทำให้นายกฯเจอทางตัน อยากให้รอดูและเมื่อเปิดพยานหลักฐานหลายอย่างรับรองว่าท่านนายกฯจะลำบากแน่นอน ไปไม่เป็น มีอยู่สองทาง คือร้องไห้ หรือไม่ก็ลาออกเลย สำหรับยุทธศาสตร์ในการอภิปราย พรรคประชาชนจะเปิดฉากก่อนและพรรคพลังประชารัฐจะเป็นผู้ปิดจ๊อบ“เชือด”นายกรัฐมนตรีในสภา“เจอมุขนี้ท่านนายกฯไปไม่เป็นแน่”