ไม่ผ่อนปรนตัดไฟ-เนตแก๊งคอลฯ
เดินหน้ายาแรง
‘อ้วน’แฉย้ายฐานไปเขมร-เวียดนาม
‘อุ๊งอิ๊งค์’เข้าทบ.ครั้งแรก
จี้กองทัพเคลียร์ชายแดน
“ภูมิธรรม” ลั่นยังไม่ผ่อนปรนยาแรงปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งเมียนมา ประกาศเดินหน้าตัดไฟ-เนตต่อไป ระบุยังพบว่ายังมีการหลอกลวงอยู่ ล่าสุดย้ายฐานจากเมียวดีไปยังฐานฝั่งกัมพูชา-เวียดนาม ยื้อประกาศ 5 อำเภอ จ.ตากพื้นที่พิเศษ หวั่นกระทบเศรษฐกิจ พร้อมเอาเอาเกียรติยศเป็นประกัน ไร้ประโยชน์ทับซ้อน ปราบคอลเซ็นเตอร์ หลังมีข่าวชื่อลูกชาย รมต. โผล่ถือหุ้นในพม่า ด้าน นายกฯ เข้า ทบ.เป็นครั้งแรก หารือ “ผบ.เหล่าทัพ-จเรตำรวจฯ-เลขาฯปปส.” แก้ปัญหายาเสพติด-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยันกัมพูชาร่วมมือ 100%
เมื่อเวลา 10.58 น. วันที่ 21 มีนาคม 2568 ที่กองบัญชาการกองทัพบก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านหรือ คกก.ปชด.โดยมี พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ในฐานะประธาน คกก.ปชด., พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.), พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.), พล.ร.อ.พิจิตต ศรีรุ่งเรือง ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.), พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ให้การต้อนรับ
โดยการเดินทางมาในครั้งนี้ถือเป็นการเยือนกองทัพบกครั้งแรกของนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าร่วมประชุม คกก.ปชด.แก้ไขปัญหาเรื่องยาเสพติด ตามแนวชายแดน ก่อนนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ ติดตามผลการปฏิบัติการปราบปรามและจับกุมยาเสพติด ที่ด่านตรวจยานพาหนะ อ.พยุหะคีรี ทั้งนี้ หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น กองทัพบกได้เลี้ยงอาหารกลางวัน จากห้องอาหารมิลิน แยกพิชัย โดยเมนูอาหารประกอบด้วย เนื้อทอดน้ำมัน ยำถั่วพลู แกงจืดปลาหมึกยัดไส้ กุ้งทอดเกลือ ไข่ลูกเขย และปลาทูต้มเค็ม
ต่อมา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ว่า ได้มาติดตามการปฏิบัติงาน เรื่องการปราบปรามยาเสพติดและขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งทุกภาคส่วนได้มาหารือร่วมกันในวันนี้ ซึ่งยังคงย้ำถึงความร่วมมือของทุกฝ่าย และที่ผ่านมาได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิดได้จำนวนมาก แต่ยอมรับว่าการผลิตยาเสพติดยังมีจำนวนมาก จึงต้องขอความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงราคายาเสพติดสูงขึ้นและหายากขึ้น ขอชื่นชมทุกหน่วยงาน ที่สามารถทำให้ยาเสพติดลดลง สำหรับผู้ที่ติดยาเสพติด ก็จะได้รับการบำบัด เพื่อกลับคืนเข้าสู่สังคม
นายกรัฐมนตรี ยังระบุอีกว่า ได้มีการรายงานเรื่องการสกัดกั้นยาเสพติดทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งยาเสพติดบางประเภทเช่นยาไอซ์ ยาเค จะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมกับยืนยันว่า ได้มีการทำงานกันอย่างบูรณาการ จึงมีความคืบหน้า และประสบความสำเร็จพอสมควร
ส่วนความคืบหน้าการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ หลังพบว่าคนไทยส่วนใหญ่ถูกหลอก จากเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชานางสาวแพทองธาร ยังระบุถึง ได้มีการพูดคุยกับพลเอกฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ว่าพร้อมจะให้ความร่วมมือในเรื่องนี้ และยืนยันว่ากัมพูชา ให้ความร่วมมือ 100% ในขณะที่ผู้ปฏิบัติงาน ก็สามารถประสานงาน ระหว่าง 2 ประเทศ ได้ตลอด นอกจากนี้ยังได้สอบถามไปยังกสทช ว่ายังมีปัญหาอะไรอีกหรือไม่ ซึ่งจะต้องมีการขอความร่วมมือกับภาคเอกชนด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีการประชุมอย่างต่อเนื่อง และยืนยันว่า การปราบปรามขบวนการ คอลเซ็นเตอร์ ดำเนินการได้มากแล้ว แต่ก็อยากให้หมดสิ้นไป ทั้งนี้ได้รับรายงาน จากจเรตำรวจแห่งชาติ ยังมีรายย่อยอยู่ แต่รัฐบาลไทยก็อยากให้เรื่องนี้หมดสิ้นไป จึงต้องขอความร่วมมือ กับเอกชน
เมื่อถามว่า มีข้อสังเกตว่า คนไทยถูกหลอกจากฝั่งปอยเปต แต่รัฐบาลใช้มาตรการเข้มข้น เฉพาะพื้นที่ชายแดนไทยเมียนมาจังหวัดตาก นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่า เข้มข้น ซึ่งทางกัมพูชาก็พร้อมที่จะเข้มข้นกับเรา และในการทำงานไม่ได้มีการติดขัดปัญหา ว่าทางกัมพูชาไม่ร่วมมือ และขณะนี้ก็ทราบต้นตอบปัญหามาเยอะแล้ว และกำลังทำให้จบ
เมื่อถามย้ำว่า แต่ความคืบหน้าการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชาน้อยมาก เพราะมีคนไทยร่วมขบวนการหลายพันคน แต่ล่าสุดนำออกมาได้แค่ร้อยกว่าคน อีกทั้งเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลกัมพูชาควบคุมแบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งมองว่าไม่น่าจะยุ่งยาก แต่กลับล่าช้ากว่าชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ก็ไม่ยุ่งยาก ยืนยันว่ากัมพูชาให้ความร่วมมือ โดยคนไทยกลุ่มแรกที่นำกลับมา ก็ถูกดำเนินคดี และยืนยันว่าไม่ได้ติดขัดปัญหาอะไร ค่อยๆ ทำไปเรื่อยๆ มีการประสานงานอยู่
ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะหันไปหา พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้การชี้แจงเพิ่มเติม โดย พล.ต.ธัชชัย ชี้แจงว่า ปัญหาขบวนการคอลเซ็นเตอร์ฝั่งกัมพูชา นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ตนไปพูดคุยกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติฝั่งกัมพูชา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อยู่ในกระบวนการพูดคุย เพื่อจะขับเคลื่อนต่อไป และทางกัมพูชายืนยันว่า จะมีการระดมกวาดล้าง ซึ่งต้องรอดูช่วงเวลา เนื่องจากกัมพูชามีกฎหมายที่จะต้องออกหมายค้น ในการดำเนินการต่างๆ และยืนยันว่าในทางปฏิบัติอย่างไม่พบปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีมากองทัพบกครั้งแรก ได้มีการหารือกับผู้บัญชาการทหารบกถึงความตึงเครียดชายแดนไทยกัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ฝั่งกองทัพภาคที่ 2 หรือไม่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า วันนี้เรามาพูดคุย เรื่องขบวนการคอลเซ็นเตอร์ กับยาเสพติดเรื่องที่สื่อมวลชนถาม กองทัพดูแลอยู่แล้ว
เมื่อถามต่อว่า ได้คุยกับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาแล้วหรือไม่ถึงประเด็นดังกล่าว นางสาวแพทองธาร ยอมรับว่า ยังไม่ได้คุย ให้เป็นหน้าที่ของกองทัพทั้ง 2 ประเทศ แต่ตัวนายกรัฐมนตรียังไม่ได้คุย
โดยในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีปฏิเสธการตอบคำถาม ถึงกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตถึงความสัมพันธ์ระหว่าง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ ฮุนเซน ประธานพฤฒสภา(สภาสูง)กัมพูชา จึงทำให้การแก้ไขปัญหาคอลเซ็นเตอร์ชายแดนไทย - กัมพูชา ล่าช้าหรือไม่ ก่อนนายกรัฐมนตรีจะถามกลับสื่อมวลชนว่า “จะเอาให้ได้เลยไหม”
เวลา 14.00 น.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เดินทางมาเป็นประธานการประชุม คกก.ปชด. ครั้งที่ 2/2568 ที่กองบัญชาการกองทัพไทย โดยภารกิจของ คกก.ปชด.ชุดนี้จะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดและครบวงจร เริ่มตั้งแต่การตัดต้นตอการผลิตและการจำหน่ายด้วยความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน การสกัดกั้น ควบคุมการลักลอบนำเข้าและตัดเส้นทางการลำเลียงยาเสพติด และเร่งแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติของประชาชน โดยจะเพิ่มศักยภาพและประสิทธิภาพในการป้องกันและปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และรับมือกับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมทั้งภัยคุกคามข้ามชาติรูปแบบใหม่ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงชายแดนและการดำเนินชีวิตโดยปกติสุขของประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี