“ทนายอั๋น”เข้าให้ปากคำDSIเพิ่มเติม /พร้อมร้องเอาผิดฐานอั้งยี่บุคคลตามโพยฮั้ว สว. 138+2 พ่วงสองผู้ยิ่งใหญ่ และ 1 เจ๊/คาดเจ๊เป็นเจ้าของเงิน/ เเย้มขบวนการโพยฮั้ว สว.ประเมินอาจใช้เงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท
วันที่ 21 มีนาคม 2568 เวลา 13.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ นำพยานหลักฐานเอกสารเข้ามอบ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับดำเนินการพิจารณากล่าวโทษฐานอั้งยี่แก่บุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการฮั้ว สว.67 โดยมี นายยศสันธ์ เรืองสรรงามสิริ รอง ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ เป็นผู้แทนรับเรื่อง
นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ตนขออธิบายให้เห็นภาพว่าก่อนมีการเลือกตั้งนั้น ช่วงประมาณเดือน มี.ค.2567 เขาออกเป็นคู่มือการเลือกตั้ง แต่กระบวนนี้ไปรวมตัวกัน เรียกว่า “กลุ่มยังเติร์ก” โดยมีผู้จัดการ น. อยู่หัวโต๊ะ มีการคุยกัน จนกระทั่งมีการตบโต๊ะว่าเราได้แล้ว 120 คน ซึ่งกระบวนการที่จะได้มา 120 คนตามแผนการก็เลยมีการไปที่รางน้ำ มีการสั่งการผ่านกระบวนการหน่วยงานของรัฐเป็นเครื่องมือ จนหาชาวบ้านเข้าสู่กระบวนการในชั้นระดับอำเภอ จังหวัด ประเทศได้ ขณะที่การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 พ.ค.67 วันนั้นมีการใช้โทรศัพท์ ซึ่งตนมีหลักฐานหมดว่ามันมีความเชื่อมโยงกัน ก่อนจะมีการส่งโพย 120 คนนี้ให้เจ๊คนหนึ่งได้พิจารณาร่วมด้วย ซึ่งเจ๊คนนี้อาจเป็นเจ้าของเงินหรือไม่ ต่อมาวันที่ 26 ช่วงตี 5 มีการใส่เสื้อสีเหลืองนั่งรถตู้มา ถามว่าทำไมต้องมีการใส่เสื้อสีเหลือง วัตถุประสงค์เพื่อแต่งกายเลียนแบบหรือให้คล้ายเจ้าหน้าที่ กกต. ซึ่งมันมีหลักฐานว่าได้ประโยชน์จากการแต่งกายคล้าย กกต. ทำเพื่ออะไร ตอนนี้มีหลักฐานเด็ด แต่ตนขออนุญาตสงวนไม่กล่าวถึง
นายภัทรพงศ์ กล่าวอีกว่า ต่อมามีการได้จำนวนเกินเป้า จากที่เคยตั้งไว้ว่าจะเอา 120 คน ก็เพราะว่าขาของเขาไปหาคนมาเพิ่ม เพราะเงินรางวัลเป็นตัวล่อ จาก 120 คนจึงกลายเป็น 140 คน และพอได้เสร็จแล้วก็กลับไปที่รางน้ำ คนที่ชื่อ น. เป็นคนแต่งตั้งประธานและรองประธาน แต่ตนไม่บอกว่าประธานอะไรหรือรองประธานอะไร โดย น. เป็นคนจัดการให้หมด ตนมีหลักฐาน แล้วหลังจากนั้นก็มีการมาแต่งตั้งผู้ช่วย สว. ซึ่งคนเหล่านี้ท้ายสุดก็มาเป็นผู้พลีชีพ มีชื่อเข้ารอบระดับประเทศ ได้มารับบำเหน็จ คือ ไม่ห่วงตัวเองได้คะแนน 0 แต่มาเพื่อพลีชีพในรอบประเทศ แล้วก็รับบำเหน็จด้วยการมาเป็นผู้ช่วย สว. อย่างไรก็ตาม ตนดูหลักฐานความเชื่อมโยงทุกอย่างมันไปถึงสองผู้ยิ่งใหญ่ +1 เจ๊ จึงนำสู่การที่วันนี้ตนต้องมาร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลทั้งในโพย 138 + 2 รวมถึงคนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องตามกฏหมายที่เกี่ยวข้องดังกล่าว
นายภัทรพงศ์ กล่าวต่อว่า คำถามคือทำไมพวกเขาจึงมีการเตรียมตัวได้ดีกว่าคนอื่น เหมือนกับรู้ข้อสอบหรือมีพรายกระซิบมาบอกก่อนหน้านั้นหรือไม่ เหตุใดจึงทราบกระบวนการในการเลือกไขว้ จะมีการจัดแจงอย่างไร มันจึงทำให้ น. ได้ตบโต๊ะแสดงความดีใจว่าเราได้แน่ ๆ 120 คน แล้วท้ายที่สุดก็ไปดำเนินกระบวนการตามแผนการที่วางไว้อันเป็นการกระทำผิดฐานอั้งยี่จนสำเร็จ ทั้งนี้ แค่เฉพาะหลักฐานที่ตนมีตอนนี้ฟันได้แล้ว แต่มันไปไกลกว่านั้นมาก สถานการณ์ตอนนี้ ถ้าเราเห็นรังผึ้งอยู่บนต้นไม้แล้วมีวัตถุอะไรบางอย่างไปแตะมัน กระจายแตกออกไป วันนี้ตนต้องเรียนฝากไปถึงคนที่เป็นผึ้งที่อยู่ในรังแล้ววิ่งแตกออกมา คุณคิดถูกแล้วเพราะขณะนี้ดีเอสไอมีหลักฐานหมด แต่ว่ามันก็จะง่ายยิ่งขึ้นและเป็นผลดีกับพวกคุณ เลือกเอาว่าจะเป็นผู้ต้องหาหรือเป็นพยาน ดังนั้น ดีแล้วที่บุคคลนั้น ๆ มีการติดต่อมายังตนหรือสายลับของตนมากมาย เพื่อเป็นการให้ข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อดีเอสไอ
เมื่อถามว่างานนี้มันต้องมีการใช้เงินมหาศาล มีการประเมินหรือไม่ว่าต้องใช้เงินถึงจำนวนกี่บาท จึงทำให้แผนการประสบความสำเร็จนั้น นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า อาจต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท แต่ถ้าไปเทียบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นคนละเรื่องเลย อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ตนมี มีจากทั้งในส่วนของตน สายลับแล้วก็ สว.สำรอง ส่วนอีกด้านคือดีเอสไอเขาไปสอบสวนหาเอง ซึ่งต้องเรียนว่าตนมีสิทธิ์ที่จะติดตามเรื่องเพราะว่าเป็นผู้แจ้งความดำเนินคดี จึงทำให้ตนทราบข้อมูลซึ่งมันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว
ขณะที่ นายยศสันธ์ เรืองสรรงามสิริ รอง ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ เผยว่า ดีเอสไอขอให้คำมั่นสัญญากับประชาชนว่าจะทำคดีนี้อย่างเต็มที่ แต่ต้องประกอบกับการดูพยานหลักฐานของทนายอั๋นควบคู่ไปด้วย ส่วนการประชุมครั้งแรกระหว่างดีเอสไอและอัยการวันนี้ ถือเป็นการประชุมนัดแรกเพื่อวางแผนการดำเนินคดี ส่วนจะต้องประชุมบ่อยครั้งแค่ไหนก็คงต้องดูพยานหลักฐานในชั้นพนักงานสอบสวนก่อน ทั้งนี้ ดีเอสไอเชิญทนายอั๋นมาให้ข้อมูลในฐานะพยาน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี