สภาฯเดือดรอบดึก! ‘สุชาติ’ หลุดปากสบถใส่ ‘สส.ปชน.’ หลังถูกโยงเอี่ยว ‘ค้ามนุษย์’ ส่งแรงงานไป ‘ฟินแลนด์’ ด้าน‘สหัสวัต’ ลั่นไม่ไว้วางใจ ‘นายกฯอิ๊งค์’ เหตุตั้งคนขาดคุณสมบัติเป็น ‘รัฐมนตรี’
วันที่ 25 มีนาคม 2568 ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงดึกของในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติด่วนขอเปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมตรี ซึ่งหลังจากที่น.ส.แพทองธาร เดินทางออกจากสภาฯ แล้ว พบว่า สส.พรรคประชาชน ในฐานะฝ่ายค้านได้ลุกอภิปรายอย่างต่อเนื่อง โดยได้ชี้ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการบริหารราชการแผ่นดินในด้านต่างๆ ที่ไม่เป็นไปตามการหาเสียง รวมถึงการบริหารของ น.ส.แพทองธาร ส่อว่าเอื้อผลประโยชน์ให้กับนายทุน
โดยนายสหัสวัต คุ้มคง สส.ชลบุรี พรรคประชาชน อภิปรายถึงการตั้งบุคคลที่ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรี ซึ่งพบว่าเป็นตัวการหลักของการเรียกรับผลประโยชน์กรณีแรงงาน ที่ถูกตรวจสอบในชั้นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ส่งให้ตรวจสอบ เมื่อปี 2567 นอกจากนั้นมีส่วนพัวพันเกี่ยวกับกรณีการค้ามนุษย์ที่มีการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวจากประเทศฟินแลนด์ เนื่องจากมีการส่งแรงงานไทยไปเก็บเบอร์รี่ป่า เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรมว.แรงงาน เมื่อปี 2565 โดยมีนายหน้าคนไทยและบริษัทจากฟินแลนด์ที่ถูกฟ้องดำเนินคดีการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตามคดีดังกล่าวมีการสืบสวนระหว่างทางการไทยและฟินแลนด์
“ตอนเป็น รมว.แรงงานทำตัวเป็นมาเฟีย เก็บค่าหัวคิว ตอนนี้เขามาเป็น รมช.พาณิชย์ ทั้งนี้จากเอกสารคำให้การของศาลฟินแลนด์ พบคำให้การของนางทุเรียน ในฐานะนายหน้าค้าแรงงานไทย ที่พบว่ามีการเข้าพบที่กระทรวงแรงงานและมีการขอค่าหัวคิว หัวละ 3,000 บาท และมีการต่อราคาเหลือ 2,000 บาท โดยพบว่ามีการส่งเงินให้จำนวนทั้งหมด 3 ล้านบาทอยู่ในกล่องน้ำผลไม้ ผ่านกรมการจัดหางาน จากการฝากเงินให้นางบี ซึ่งนายกฯ ตั้งคนแบบนี้เป็นรัฐมนตรีอีกได้อย่างไร” นายสหัสวัต กล่าว
นายสหัสวัต อภิปรายด้วยว่า มีแรงงานไทยที่ส่งไปเป็นแรงงานเก็บเบอร์รี่ถึง 1.2 หมื่นคน ทั้งนี้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พบการฟ้องร้องที่สวีเดน ซึ่งตำรวจสวีเดนเข้ามาตรวจสอบในประเทศไทย ทั้งนี้กรณีที่นายกรัฐมนตรี ตั้งคนที่เป็นตัวการเรียกรับสินบนการค้ามนุษย์ เป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมายอาญา มีเหตุผลอะไร เป็นเพราะผลประโยชน์ของตนเองใช่หรือไม่
จากนั้นนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ ใช้สิทธิพาดพิงชี้แจงอย่างมีอารมณ์พร้อมชี้หน้าว่า “ผมจะกลับบ้านแล้ว แต่มานั่งฟังละครน้ำเน่า ไหนคนที่พูดอยู่ไหนให้นั่งด้วย ขอให้นั่งฟัง ให้หันหน้ามาด้วย” ทำให้ถูกประท้วงจาก สส.พรรคประชาชนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม
ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้ ทักท้วงขอให้ นายสุชาติพูดกับประธานและไม่ต้องชี้หน้า
จากนั้น นายสุชาติ ชี้แจงว่า “เรื่องดังกล่าวไม่เกี่ยวกับนายกฯ ทั้งนี้กรณีที่ตนมีคดีความกับ ดีเอสไอ หรือ ป.ป.ช.ต้องมีมารยาทอภิปรายในสภา ต้องรู้ญัตติ ที่ด่าตนชั่วเลว ตนเกิดมาไม่เคยเจอ แต่เพิ่งเห็น สส.ชลบุรีชั่วเลว ก็วันนี้”
นายสุชาติ ชี้แจงด้วยว่า ตนไม่เคยอยู่ในกระบวนการค้ามนุษย์ และรับเงิน ทั้งนี้ตนกล้าพร้อมรับการตรวจสอบทั้งหมดทั้งนี้ที่บอกว่ามีการฟ้องร้องจากแรงงาน พบว่าแรงงานที่ไป 3,900 คน พบคนที่มีปัญหาประมาณ 30 คน ซึ่งเป็นคนใหม่ฟ้องร้องตามกฎหมายแรงงานที่ฟินแลนด์ อย่างไรก็ตามคนที่ไปทำงานต้องมีสัญญา อย่าโง่ อย่างไรก็ตามโควตาการส่งแรงงานไทยไปเก็บผลไม้ป่าออกโดยสถานทูตฟินแลนด์โดยกระทรวงแรงงานเป็นแค่ตัวกลางเพื่อป้องกันการแรงงานไทยกลับมาแล้วเป็นหนี้เท่านั้น
“ที่บอกว่ามีเงินใส่กล่องมาให้ผม และบอกว่านางทุเรียนซัดทอดนั้น ผมตามหานางทุเรียนมานาน ต้องการถามว่าที่ให้การซัดทอดแบบนั้นเพราะอะไร ทั้งนี้ที่บอกว่าผมเลว ผมชั่ว ผมไม่เคยเห็นสส.ชลบุรีเลวเท่า ไอ้ห่า...ที่บอกว่าชั่วเลวอาชญากร คนที่เป็น สส.ต้องมีวุฒิภาวะ การศึกษา ทุกอย่างพิสูจน์ในกระบวนการยุติธรรม” นายสุชาติ อภิปราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการชี้แจงของนายสุชาติและหลุดคำพูดว่า “ไอ้ห่า” นั้นปรากฏว่า มีสส.พรรคประชาชนประท้วงและให้ถอนคำพูด ซึ่งนายสุชาติยอมถอนคำพูดดังกล่าว
นอกจากนั้นในช่วงหนึ่งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ลุกชี้แจงตามที่มีภาพระบุว่าเป็นคนที่ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐมนตรีว่า “ ที่บอกว่าผมและร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม ส่อแวววืดนั้น ไม่วืด แต่ปฏิเสธไม่ได้เป็น”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี